คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุทธิ นิชโรจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,157 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนลูกหนี้ในคดีล้มละลาย ไม่จำเป็นต้องทำก่อนพิพากษา ศาลมีอำนาจพิจารณาตามขั้นตอนที่เหมาะสม
การนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยเป็นวัตถุประสงค์ของการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายอย่างหนึ่งที่ให้ศาลทำการไต่สวนตัวลูกหนี้เพื่อทราบถึงกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ เหตุผลที่ทำให้ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ตลอดจนความประพฤติของลูกหนี้ว่าได้กระทำหรือละเว้นกระทำการใดซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 หรือกฎหมายอื่นเกี่ยวกับการล้มละลาย หรือเป็นข้อบกพร่องอันจะเป็นเหตุให้ศาลไม่ยอมปลดจากล้มละลายโดยไม่มีเงื่อนไข เป็นคนละกรณีกับการสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดและพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย จึงไม่จำต้องกระทำก่อนพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ทั้งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยก่อนพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายเช่นการพิจารณาคำขอประนอมหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานศาลว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกลงมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานศาลขอให้พิพากษาให้ลูกหนี้ทั้งสามล้มละลายแล้วการพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายนั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 เป็นบทบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายทันที เมื่อได้ดำเนินการตามขั้นตอนของมาตราดังกล่าวครบถ้วนแล้ว การที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนลูกหนี้ทั้งสามโดยเปิดเผยก่อนแล้วนัดฟังคำพิพากษาให้ลูกหนี้ทั้งสามล้มละลายภายหลัง แต่ต่อมาเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นให้นัดฟังคำพิพากษาให้ลูกหนี้ทั้งสามล้มละลายก่อน และนัดไต่สวนลูกหนี้ทั้งสามโดยเปิดเผยในภายหลัง ไม่เป็นการข้ามขั้นตอน และเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การออกเช็คชำระหนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่ ว. เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมจำนวน 570,000 บาท แล้ว ว. สลักหลังโอนเช็คนั้นให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ แม้โจทก์จะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่การที่ ว.ให้จำเลยกู้ยืมเงินไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ยืมทั้งเช็คก็มิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม จึงฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653การที่จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้เงินกู้ยืมให้ ว. เป็นการชำระหนี้ที่ไม่มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534 มาตรา 4 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับภายหลัง จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกหนี้ผิดนัดประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ศาลสั่งยกเลิกประนอมหนี้และพิพากษาให้ล้มละลายชอบแล้ว
ลูกหนี้ผิดสัญญาตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายที่ศาลเห็นชอบด้วยแล้ว เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานศาล และศาลมีคำสั่งยกเลิกการประนอมหนี้ แต่ให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปเพื่อให้โอกาสแก่ลูกหนี้ แม้ในระหว่างเวลาดังกล่าวเจ้าหนี้บางรายจะได้ถอนคำขอรับชำระหนี้เหลือเจ้าหนี้เพียง 5 ราย ลูกหนี้ก็ยังคงต้องรับผิดชำระหนี้ส่วนที่เหลือแก่เจ้าหนี้ตามหนี้เดิมอีก 5 รายที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนหนี้ โดยลูกหนี้จะขอถือปฏิบัติตามสัญญาประนอมหนี้ซึ่งศาลมีคำสั่งยกเลิกต่อไปอีกไม่ได้ เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ศาลต้องพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดสัญญาประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ทำให้ต้องรับผิดตามหนี้เดิม
ลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของลูกหนี้โดยเหตุที่ลูกหนี้เป็นผู้ผิดเงื่อนไขไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนอมหนี้ลูกหนี้จะถือปฏิบัติเอาตามสัญญาประนอมหนี้ซึ่งศาลมีคำสั่งยกเลิกต่อไปอีกไม่ได้ ต้องรับผิดชำระหนี้ส่วนที่เหลือแก่เจ้าหนี้ตามหนี้เดิมที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนหนี้ ส่วนข้อผูกมัดเจ้าหนี้ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483จะผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ต่อเมื่อลูกหนี้มิได้เป็นผู้ผิดนัดตามข้อตกลงในสัญญาประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ยอมรับ และศาลมีคำสั่งเห็นชอบเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดตามสัญญาประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ทำให้ลูกหนี้ต้องรับผิดตามหนี้เดิม
ลูกหนี้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายร้อยละ 20 ของจำนวนหนี้ที่ไม่มีประกันทั้งหมด กำหนดชำระครบภายใน 2 ปี ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดได้จึงตกเป็นผู้ผิดนัดตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้ โดยเหตุที่ลูกหนี้เป็นผู้ผิดเงื่อนไข ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนอมหนี้ ลูกหนี้จะถือปฏิบัติเอาตามสัญญาประนอมหนี้ซึ่งศาลมีคำสั่งยกเลิกต่อไปอีกไม่ได้ต้องรับผิดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามหนี้เดิมเต็มจำนวนหนี้ ส่วนข้อผูกมัดเจ้าหนี้ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483จะผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ต่อเมื่อลูกหนี้มิได้เป็นผู้ผิดนัดตามข้อตกลงในสัญญาประนอมหนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเช็ค: วันปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นวันเกิดเหตุตามกฎหมาย
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 เกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นวันเกิดเหตุตามคำฟ้องของโจทก์ได้ระบุว่า ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 แม้จะมิได้ระบุว่าเป็นเวลาใดแต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า โจทก์นำเช็คตามฟ้องไปยื่นให้ธนาคารใช้เงินในเวลากลางวันอันเป็นเวลาทำการงานตามปกติของธนาคารทั่วไปถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาอุทธรณ์ เหตุสุดวิสัย ความผิดทนาย และการละเลยของโจทก์
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์เมื่อสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว อ้างเหตุว่าเพิ่งมาฟังคำพิพากษาเนื่องจากจำวันผิดพลาด โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 กรกฎาคม 2533แต่โจทก์เข้าใจว่าเป็นวันที่ 13 สิงหาคม 2533 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นอุทธรณ์และทนายโจทก์ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุที่โจทก์อ้างดังกล่าวไม่เป็นเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 เพราะทนายโจทก์ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปตรวจดูวันฟังคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนไปเป็นวันที่ 13กรกฎาคม 2533 และแจ้งให้ทนายโจทก์ทราบแล้ว ถือว่าโจทก์ได้ทราบคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนับแต่วันอ่าน โจทก์มีเวลาพอที่จะทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ทันตามกำหนดเวลา แม้ทนายโจทก์ป่วยก็สามารถแต่งตั้งทนายความคนใหม่เรียงอุทธรณ์ให้ แต่โจทก์ละเลยเสียปล่อยให้เวลาผ่านไปจนสิ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ โจทก์จึงอ้างเหตุสุดวิสัยเพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาสั่งซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตัวแทน และความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ยินยอมผูกพัน
จำเลยที่ 3 เป็นข้าราชการสังกัดจำเลยที่ 1 ได้ติดต่อขอซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นจากโจทก์ โดยจำเลยที่ 3ออกใบสั่งจ่ายน้ำมันให้เจ้าหน้าที่ผู้ขับรถนำไปเติมน้ำมันจากปั๊มน้ำมันของโจทก์ การเติมน้ำมันแต่ละครั้งได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ค่าน้ำมันโจทก์จะเรียกเก็บในเดือนถัดไป ซึ่งถือปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมาติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 2 ปี เมื่อการเติมน้ำมันดังกล่าวเป็นการปฏิบัติราชการของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 1จะอ้างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2521ซึ่งเป็นระเบียบภายในที่ฝ่ายจำเลยจะต้องถือปฏิบัติว่าจำเลยที่ 3มิได้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ หากเป็นการผิดระเบียบก็ต้องว่ากล่าวกันเอง ไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต ตามพฤติการณ์ในการปฏิบัติการของจำเลยที่ 3 เป็นการแสดงออกว่ากระทำในนามของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ใบสั่งจ่ายน้ำมันที่เป็นต้นฉบับสูญหายถูกทำลายไป สำเนาเอกสารก็รับฟังเป็นพยานได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1854/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้เช็คก่อนมีคำพิพากษา ทำให้คดีอาญาตาม พ.ร.บ.เช็ค ระงับ
ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยได้วางเงินจำนวน 400,000 บาท ต่อสำนักงานวางทรัพย์กลางเพื่อชำระหนี้ตามมูลหนี้ในเช็คพิพาทซึ่งโจทก์ร่วมก็ยอมรับโดยไม่คัดค้าน ถือได้ว่าหนี้ที่จำเลยออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นได้สิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีจึงเป็นอันเลิกกันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 7อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดซึ่ง ป.อ.มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ไม่ว่าในทางใด สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1854/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้เช็คหลังฟ้องคดี ทำให้คดีอาญาเลิกกันตามกฎหมายเช็คใหม่
ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยได้วางเงินจำนวน 400,000 บาท ต่อสำนักงานวางทรัพย์กลาง เพื่อชำระหนี้ตามมูลหนี้ในเช็คพิพาทซึ่งโจทก์ร่วมก็ยอมรับ โดยไม่คัดค้าน ถือได้ว่าหนี้ที่จำเลยออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้น ได้สิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีจึงเป็นอันเลิกกันตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 7อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดและเป็นคุณแก่ ผู้กระทำความผิดซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมาย ในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ไม่ว่าในทางใด สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป
of 116