คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เริงธรรม ลัดพลี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3793/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับประกันภัย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 70-0608 นครปฐม โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 มกราคม2528 จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 70-0608 นครปฐมไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 1 จ -7807 กรุงเทพมหานครซึ่งโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยได้รับความเสียหาย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 1 จ -7807กรุงเทพมหานคร ไปแล้ว เป็นเงิน 13,678 บาท โจทก์จึงเข้ารับช่วงสิทธิมาเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวจาก จำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิดจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 70-0608นครปฐม ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์ เช่นนี้ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดแล้วว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 70-0608นครปฐม ฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 3 จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3780/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าเพิงพักแผงลอยเป็นเคหสถานตามกฎหมายอาญา เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีลักทรัพย์
ผู้เสียหายเช่าแผงลอยที่ทางราชการจัดแบ่งให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าเป็นที่ขายสินค้าเป็นล็อกซึ่งกันไว้เป็นสัดส่วนแล้วทำเพิงพักใช้เป็นที่ขายสินค้าและพักอาศัยในบริเวณที่ค้าขายนั้นด้วย เพิงพักแผงลอยของผู้เสียหายจึงเป็นเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3581/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบต้องยื่นคำร้องภายใน 1 เดือนนับแต่วันลงมติ
การร้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ ซึ่งได้นัดเรียกประชุมฝ่าฝืนบทบัญญัติในมาตรา 1175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต้องร้องขอเพิกถอนภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ลงมตินั้นตามมาตรา 1195 เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่พ้นกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ลงมติ จึงหมดสิทธิที่จะร้องขอให้เพิกถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3581/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ต้องยื่นคำร้องภายใน 1 เดือน นับแต่วันลงมติ หากพ้นกำหนดสิทธิขาด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่โดยอ้างว่าผู้คัดค้านนัดเรียกประชุมไม่ถูกต้องเป็นผลให้การประชุมใหญ่และการลงมติในที่ประชุมไม่ถูกต้อง ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ผู้ร้องต้องร้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ภายใน 1 เดือน นับแต่วันลงมติเมื่อได้ความจากคำร้องของผู้ร้องว่าผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อพ้นกำหนดคดีจึงพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน ที่ศาลชั้นต้นงดทำการไต่สวนจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3577/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และการใช้ดุลยพินิจในการลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจน และได้แนบสำเนาประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาท้ายฟ้องด้วยประกาศนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลใช้บังคับแล้ว จึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วที่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า พนักงานเจ้าหน้าที่จากที่ใดนำประกาศดังกล่าวไปปิดประกาศไว้สถานที่เกิดเหตุในคดีนี้ หรือไม่ อย่างไรแต่เมื่อใดนั้นหาใช่ข้อสาระสำคัญที่โจทก์ต้องบรรยายไว้ในฟ้องไม่ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3528/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อหลังสืบพยานเสร็จสิ้น การเพิกถอนผลตรวจพิสูจน์ที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ในระหว่างสืบพยานจำเลยทนายจำเลยแถลงขอให้ศาลส่งลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ตามที่ปรากฏในตั๋วสัญญาใช้เงินไปให้ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจตรวจพิสูจน์ โดยเปรียบเทียบกับลายมือชื่ออันแท้จริงของจำเลยที่ 2 ในเอกสารหมาย จ.8 และ จ.34 ศาลชั้นต้นอนุญาตและให้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อต่อหน้าศาลส่งไปตรวจพิสูจน์ด้วยโจทก์ไม่คัดค้าน ต่อมาศาลชั้นต้นได้ส่งเอกสารที่มีลายมือชื่ออันแท้จริงของจำเลยที่ 2 ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจเพิ่มเติมตามที่ขอมา ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจ ได้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์มายังศาลชั้นต้นว่า ลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ในตั๋วสัญญาใช้เงินกับลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ในเอกสารตัวอย่างไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลเดียวกัน แม้ต่อมาโจทก์จะยื่นคำแถลงคัดค้านว่าจำเลยที่ 2 มิได้จัดหาต้นฉบับอันแท้จริงของเอกสารหมาย จ.8 และ จ.34และมิได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าศาลเพื่อส่งไปให้ตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมในครั้งหลังก็ตามก็เป็นเรื่องสืบพยานของจำเลยที่ 2 มิใช่ของโจทก์เพราะโจทก์ก็ได้นำสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว โจทก์จะขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาและผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว และขอให้มีการตรวจพิสูจน์ใหม่หลังจากจำเลยที่ 2 ได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้นไปแล้วไม่ได้ เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคแรก เหตุไม่ได้ระบุข้อผิดพลาดทางกฎหมายในคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ฎีกาโจทก์ไม่ได้กล่าวว่าข้อนำสืบของจำเลย ข้อวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายในข้อไหนอย่างไรให้ชัดแจ้ง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากเงินโดยนิติบุคคล แม้กรรมการจะทำธุรกรรมส่วนตัว หากสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ฝาก ย่อมผูกพันนิติบุคคลตามหลักตัวแทนเชิด
การที่โจทก์นำเช็คเงินสดจำนวน 2,000,000บาท ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการเรียกเก็บเงินแล้วไปที่บริษัทจำเลย พนักงานของจำเลยได้รับฝากเงินจำนวนดังกล่าวแล้วดำเนินการออกเช็คพิพาท ซึ่ง พ.กับง.กรรมการของบริษัทจำเลยร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายพร้อมกับแจ้งให้โจทก์ทราบว่าจำเลยรับฝากเงินจำนวนดังกล่าวของโจทก์มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และโจทก์ได้รับของขวัญและของที่ระลึกต่าง ๆมีชื่อบริษัทจำเลยพร้อมตราประทับจากบริษัทจำเลย ทั้งจำเลยเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพัฒนาและเพื่อการเคหะ จำเลยสามารถกู้ยืมเงินและรับเงินจากประชาชนโดยตกลงจ่ายดอกเบี้ยไม่เกินอัตราตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยอันเป็นวิธีการจัดหามาซึ่งเงินทุนของจำเลย พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตหลงเข้าใจได้ว่าการรับฝากเงินเป็นกิจการของจำเลยและอยู่ในวัตถุประสงค์ข้อบังคับของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยรับฝากเงินและรู้เห็นเอง โดยจำเลยเชิดพ.และง. เป็นตัวแทน จำเลยต้องผูกพันรับผลการกระทำของพ.และง. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3474/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การพิจารณาค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลและภาระหน้าที่ของผู้กระทำละเมิด
ค่าใช้จ่ายในการที่โจทก์ต้องเรียนซ้ำชิ้นใหม่ เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้แน่นอนว่าแม้โจทก์จะไม่ได้รับบาดเจ็บและไปเรียนตามปกติแล้ว โจทก์จะสามารถสอบไล่ได้และไม่ต้องเรียนซ้ำชั้นพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะให้จำเลยต้องรับผิดในส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3474/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายเรียนซ้ำชั้น: จำเลยต้องรับผิดเมื่อโจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าสอบผ่านแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ค่าใช้จ่ายในการที่โจทก์ต้องเรียนซ้ำชั้นใหม่ เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้แน่นอนว่าแม้โจทก์จะไม่ได้รับบาดเจ็บและไปเรียนตามปกติแล้ว โจทก์จะสามารถสอบไล่ได้และไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังไม่เพียงพอที่จะให้จำเลยต้องรับผิดในส่วนนี้
of 33