คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เริงธรรม ลัดพลี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตเลื่อนคดีและงดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์ต้องโต้แย้งทันทีจึงมีสิทธิอุทธรณ์
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและงดสืบพยานโจทก์จำเลย และอยู่ในระหว่างนัดฟังคำพิพากษา เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งก่อนศาลนั้นได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 และมิใช่คำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามมาตรา 24 และมาตรา 227 เพราะที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ประเด็นข้อพิพาทมีว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ภาระการ พิสูจน์ตกโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ฟังได้ตามคำฟ้อง โจทก์จึงต้องแพ้คดีนั้นเป็นการวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ ตามฟ้อง มิได้วินิจฉัยชี้ขาดในปัญหาข้อกฎหมายที่พิพาทกันในคดีแต่ อย่างใด ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2531 เวลา 9.45 นาฬิกาซึ่งทนายโจทก์ก็มาศาลใน วันดังกล่าว และศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาในวันที่ 2 ธันวาคม 2531 เวลา 10 นาฬิกาโจทก์ย่อมมีเวลาเพียงพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ แต่มิได้โต้แย้ง จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม. ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหาย และโจทก์ก็ได้ยื่นหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
ประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้เป็นเรื่อง เกี่ยวกับโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ไม่ถูกต้อง เมื่อโจทก์มี ป. มาเบิกความยืนยันประกอบหนังสือมอบอำนาจว่าโจทก์ได้มอบอำนาจ ให้ ม.ดำเนินคดีแทน จำเลยมิได้สืบโต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นจึงฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ดำเนินคดีแทน การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ ฟ้องของโจทก์เสียหาย และหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้วกรณีนี้ หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.ผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนคนเดิม ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหายและหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทน โจทก์ก็ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว กรณีไม่จำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานอีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอคัดค้านการขายทอดตลาดต้องเป็นคำร้องและชำระค่าธรรมเนียม มิเช่นนั้นศาลไม่รับคำขอ
คำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลยเป็นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ต้องทำเป็นคำร้องและต้องเสียค่าธรรมเนียมตามตาราง 2 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ข้อ (3) เป็นค่าคำร้องเป็นเงิน20 บาท และข้อ (7) เป็นค่าคำสั่งเป็นเงิน 50 บาท ด้วย โดยต้องชำระเมื่อยื่นคำขอเช่าว่านั้นต่อศาล จำเลยยื่นคำขอดังกล่าวโดยมิได้ชำระค่าธรรมเนียมในขณะที่ยื่นคำขอ จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบศาลไม่รับคำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลย คำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลยมิใช่คำร้องเพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความ จึงมิใช่คำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(5) ศาลจะสั่งคืนคำขอให้จำเลยไปชำระค่าธรรมเนียมเสียให้ถูกต้องตามมาตรา 18 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมคำขอคัดค้านการขายทอดตลาด จำเป็นต้องชำระก่อนยื่นคำขอ มิฉะนั้นศาลไม่รับคำขอ
คำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลยเป็นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสองซึ่งคำขอดังกล่าวต้องทำเป็นคำร้องต่อศาลและต้องเสียค่าธรรมเนียมตามตาราง 2 ท้าย ป.วิ.พ. ข้อ (3) เป็นค่าคำร้องเป็นเงิน 20 บาทและ ข้อ (7) เป็นค่าคำสั่งเป็นเงิน 50 บาท โดยต้องชำระเมื่อยื่นคำขอเช่นว่านั้นต่อศาลเมื่อจำเลยยื่นคำขอคัดค้านการขายทอดตลาดโดยมิได้ชำระค่าธรรมเนียมในขณะที่ยื่นคำขอ จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติดังกล่าว ศาลชอบที่จะไม่รับคำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลย คำขอคัดค้านการขายทอดตลาดของจำเลยมิใช่คำร้องเพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความ จึงมิใช่คำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1(5)ซึ่งศาลจะต้องคืนให้จำเลยไปชำระค่าธรรมเนียมตามมาตรา 18 หากแต่เป็นคำร้องขอให้ศาลกำหนดวิธีการใดอย่างใด ๆ ที่บัญญัติไว้ในภาค 4 การที่ศาลล่างไม่รับคำขอจึงมีผลเท่ากับยกคำขอของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงจำเลยที่ไม่เคยอุทธรณ์ กรณีหนี้ไม่อาจแบ่งแยกได้
คดีเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยที่ 2ไม่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 255(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานทำและมีสุรากลั่น/แช่หลายกรรมต่างกัน ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการกระทำผิดหลายกระทง และฎีกาขอรอการลงโทษเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
จำเลยทำความผิดข้อหาทำสุราแช่กับมีสุราแช่ และข้อหาทำสุรากลั่นกับมีสุรากลั่นคนละวันเวลากัน มิใช่ทำผิดในวันเวลาเดียวกันหรือในคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษรวม 4 กระทงทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการสืบพยาน และการขาดความเอาใจใส่ของทนายโจทก์ ทำให้ศาลไม่อนุญาตเลื่อนคดีและถือว่าไม่มีพยาน
ในวันนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายโจทก์ป่วย โดยไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง แต่ศาลไม่อนุญาต และให้สืบพยานคือตัวจำเลยโดยให้ทนายโจทก์ถามค้านในนัดหน้า แต่นัดต่อมาทนายโจทก์กลับแถลงไม่ติดใจถามค้านพยานจำเลยที่เบิกความไปแล้ว หลังจากนั้นจำเลยนำสืบพยานอื่นอีกจนหมดพยาน และโจทก์ขอเลื่อนคดีไปเพื่อยื่นบัญชีพยานฉบับใหม่เพราะบัญชีพยานฉบับเดิมศาลสั่งไม่รับอ้างว่าล่วงพ้นกำหนดตามกฎหมาย ดังนี้ พฤติการณ์ของทนายโจทก์แสดงว่าไม่เอาใจใส่และไม่ให้ความสำคัญแก่คดีของโจทก์เอง ชอบที่ศาลจะไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณประโยชน์ การรุกล้ำลำรางสาธารณะ และอำนาจหน้าที่ของเทศบาลในการดูแลรักษา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์มีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินสาธารณประโยชน์ในเขตเทศบาล จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารเลขที่ 54/8 รุกล้ำเข้าไปในลำรางสาธารณะที่ตื้นเขินกลายสภาพเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ในเขตเทศบาล เนื้อที่ 4.4 ตารางวา ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของโจทก์ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วโจทก์ไม่ต้องแสดงโฉนดหรือหลักฐานแห่งที่ดินว่าเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างไร เพราะการเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่เป็นไปตามสภาพของที่ดิน และโจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องว่า ที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งหมดมีเนื้อที่เท่าใดจำเลยปลูกสร้างอาคารรุกล้ำตั้งแต่เมื่อใด มีเขตกว้างยาวเท่าใดเพราะเป็นรายละเอียดที่คู่ความอาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ลำรางสาธารณประโยชน์สำหรับระบายน้ำจากภูเขาซึ่งมีมานานแล้วเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน แม้ต่อมาจะไม่มีสภาพเป็นทางระบายน้ำต่อไปและไม่มีราษฎรใช้ประโยชน์เมื่อยังไม่มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามมาตรา 8 ประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ดินนั้นยังเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่เช่นเดิม ที่งอกริมตลิ่ง หมายถึงที่ดินที่งอกไปจากตลิ่งตามธรรมชาติซึ่งเกิดจากการที่สายน้ำพัดพาดินจากที่อื่นมาทับถมกันริมตลิ่งจนเกิดที่งอกขึ้น มิใช่งอกจากที่อื่นเข้ามาหาตลิ่ง โจทก์มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาสาธารณสมบัติของแผ่นดินในเขตเทศบาลตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
of 33