พบผลลัพธ์ทั้งหมด 178 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3764/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีล้มละลาย: ทรัพย์สินมากกว่าหนี้ ไม่เข้าข่ายล้มละลาย
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายนั้น ประเด็นสำคัญแห่งคดีมีอยู่ว่า จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอให้ล้มละลายเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวซึ่งมีกำหนดจำนวนหนี้สินแน่นอนเกินกว่าห้าหมื่นบาทหรือไม่ คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันว่าจำเลยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้อง ยังไม่มีเหตุสมควรให้จำเลยล้มละลายและพิพากษายกฟ้อง ดังนี้เมื่อจำเลยนำสืบฟังได้ว่า จำเลยมีทรัพย์สินรวมกันมีมูลค่าสูงกว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้อง ปัญหาว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องชี้ขาดในชั้นนี้ ดังนั้นการที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ดังที่จำเลยฎีกามานั้น ก็หาทำให้ผลแห่งคำพิพากษาคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3764/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้มละลาย: ทรัพย์สินจำเลยมีมูลค่าสูงกว่าหนี้ แม้มีหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลไม่เห็นเหตุให้ล้มละลาย
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายนั้นประเด็นสำคัญแห่งคดีมีอยู่ว่า จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอให้ล้มละลายเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวซึ่งมีกำหนดจำนวนหนี้สินแน่นอนเกินกว่าห้าหมื่นบาทหรือไม่ คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันว่าจำเลยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องยังไม่มีเหตุสมควรให้จำเลยล้มละลายและพิพากษายกฟ้องดังนี้เมื่อจำเลยนำสืบฟังได้ว่า จำเลยมีทรัพย์สินรวมกันมีมูลค่าสูงกว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้อง ปัญหาว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องชี้ขาดในชั้นนี้ ดังนั้นการที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ดังที่จำเลยฎีกามานั้น ก็หาทำให้ผลแห่งคำพิพากษาคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3636/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาเกินคำขอในคดีครอบครองปรปักษ์และการเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องที่ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาททั้งแปลงโดยการครอบครองปรปักษ์ โดยผู้คัดค้านอ้างว่าผู้คัดค้านได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทบางส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์ จ.บิดาผู้ร้องจดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่ชอบและฟ้องแย้งขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทบางส่วน และขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของ จ. ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าจ.จดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่ชอบ พิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาทของ จ. ซึ่งตรงตามคำขอท้ายฟ้องแย้งของผู้คัดค้านไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ คำขอท้ายฟ้องแย้งของผู้คัดค้านที่ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนที่ดินของ จ. เป็นคำขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินพิพาทของบุคคลภายนอกอันเป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิของบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีด้วย ศาลจึงพิพากษาคดีให้ตามคำขอท้ายฟ้องแย้งในส่วนนี้ของผู้คัดค้านไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3636/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำพิพากษาและการพิพากษาเกินคำขอในคดีครอบครองปรปักษ์และการเพิกถอนนิติกรรม
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาททั้งแปลง ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านทั้งสองได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทบางส่วน จ. บิดาผู้ร้องจดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาทในฐานะผู้รับมรดกจากเจ้าของที่ดินเดิมมาเป็นของตนคนเดียวทั้งแปลงเป็นการไม่ชอบและฟ้องแย้งขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้คัดค้านทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทบางส่วน และขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของ จ. ด้วยศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า จ. จดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่ชอบ แล้วพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนที่ดินของ จ. ด้วยเช่นนี้เป็นการพิพากษาตรงตามคำขอท้ายฟ้องแย้งของผู้คัดค้านทั้งสองไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ แต่คำขอท้ายฟ้องแย้งของผู้คัดค้านทั้งสองที่ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนที่ดินของ จ.เป็นคำขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินพิพาทของบุคคลภายนอกอันเป็นการกระทบกระเทือนถึงกรรมสิทธิ์ของบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีด้วย จึงพิพากษาคดีให้ตามคำขอท้ายฟ้องแย้งในส่วนนี้ของผู้คัดค้านทั้งสองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบการนำชี้ที่เกิดเหตุใช้ยันจำเลยได้ แม้ผู้เสียหายไม่เบิกความ
ผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวแม้โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาลได้ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพซึ่งสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายและพยานบุคคล สามารถรับฟังใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3383/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีค่าจ้างและค่าชดเชยโดยไม่ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หากกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้
กรณีที่จะต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนแล้วจึงจะฟ้องได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8 วรรคสองนั้นจะต้องเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหรือกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์บัญญัติไว้เช่นนั้นแต่โจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกค่าจ้างค้างชำระและค่าชดเชยจาก จำเลยทั้งสอง นอกจากจะมิใช่คดีเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ โดยเป็นคดีเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานแล้ว ในการฟ้องเรียกเงินดังกล่าวก็ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานกำหนดให้ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามขั้นตอนตามวิธีการที่กำหนด โจทก์ทั้งสองจึงมีสิทธิฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3382/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาภาษีอากรที่ถูกต้อง ศาลต้องเปิดโอกาสให้สืบพยานเพื่อพิสูจน์ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด
ศาลภาษีอากรกลางสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้ว วินิจฉัยว่าราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและ แบบแสดงรายการการค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดและพิพากษา ให้โจทก์ชนะคดี ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงยังไม่เป็นที่ยุติว่าราคาแท้จริง ในท้องตลาดของสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือราคาเท่าใด คำสั่งงดสืบพยาน และคำพิพากษาและศาลภาษีอากรกลางดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ให้ย้อนสำนวนก็ตาม แต่เมื่อศาลฎีกาเห็นว่า กรณีไม่อาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีตามคำขอในอุทธรณ์ของจำเลย ได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษา ศาลภาษีอากรกลาง แล้วย้อนสำนวนไปให้ศาลภาษีอากรกลาง ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3382/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานก่อนยุติข้อเท็จจริงเรื่องราคาสินค้าเป็นวิธีพิจารณาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกามีอำนาจย้อนสำนวน
ศาลภาษีอากรกลางสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่าราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดง-รายการการค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดและพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ทั้ง ๆที่ข้อเท็จจริงยังไม่เป็นที่ยุติว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือราคาเท่าใด คำสั่งงดสืบพยานและคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ให้ย้อนสำนวนก็ตาม แต่เมื่อศาลฎีกาเห็นว่า กรณีไม่อาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีตามคำขอในอุทธรณ์ของจำเลยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง แล้วย้อนสำนวนไปให้ศาลภาษีอากรกลางดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3241/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดิน: ข้อจำกัดด้านมูลค่าและระยะเวลาการฎีกา
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ไม่เคยอาศัยสิทธิของจำเลย โจทก์ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทด้วยความสงบเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินพิพาทจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ดินพิพาทราคา 50,000 บาท และโจทก์ยื่นฎีกาภายหลังจากวันที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534 มาตรา 18 ใช้บังคับแล้ว โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามมาตรา 248 วรรคแรก ที่แก้ไขใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องซ้ำซ้อนเรื่องผู้จัดการมรดก ศาลต้องไต่สวนคำคัดค้าน แม้มีคำสั่งก่อนหน้า
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ ว.ผู้ตาย ต่อศาลชั้นต้นและคดีอยู่ในระหว่างไต่สวน ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการของ ว. ในเรื่องเดียวกันต่อศาลอื่นอีกเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173วรรคสอง และเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต แม้ศาลนั้นจะมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของ ว.ก็ตาม คำสั่งดังกล่าวก็ไม่ผูกพันผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุคคลภายนอก