คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิฑูรย์ สุทธิประภา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่ลงลายมือชื่อไม่ตรงตามตำแหน่งผู้กู้ ยังคงเป็นหลักฐานการกู้ยืมได้
เมื่อจำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง การที่จำเลยที่ 2ซึ่งในสัญญาตอนต้นระบุว่าเป็นผู้กู้ลงลายมือชื่อในช่องพยานและจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้โดยไม่มีชื่อเป็นผู้กู้ในตอนต้นของสัญญา หาทำให้เอกสารดังกล่าวไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคแรกไม่ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดตามข้อความในเอกสารดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารกู้ยืมที่ไม่ติดอากรแสตมป์ & อำนาจแต่งตั้งทนายความของผู้รับมอบอำนาจ
ปัญหาว่าเอกสารหลักฐานแห่งการกู้ยืมมิได้ปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าตามประมวลรัษฎากร ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาได้ ใบยืมของชั่วคราวมีข้อความเพียงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม2528 จำเลยยืมเงินไป 40,000 บาท และมีลายมือชื่อจำเลยในช่องผู้รับของ เป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ มิใช่สัญญากู้ยืม จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ โจทก์มอบอำนาจให้ ด.เป็นตัวแทนมีอำนาจฟ้องคดีด.จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความว่าความแทนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลไม่อนุญาตเรียกบุคคลภายนอกเข้าเป็นจำเลยร่วม ไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความ, อุทธรณ์ระหว่างพิจารณาต้องห้าม
คำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดีมิใช่คำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1(5) เพราะมิได้ตั้งประเด็นระหว่างคู่ความดังนั้น คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี จึงมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความและเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2994/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดหุ้น: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดสินทรัพย์/หนี้สิน หากข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณะ
จำเลยกล่าวอ้างว่าการประกาศขายทอดตลาดหุ้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้แจ้งให้ผู้พบเห็นทราบว่าบริษัทผู้ออกหุ้นมีหุ้นอยู่ทั้งหมดเท่าใด มีสินทรัพย์และหนี้สินเท่าใด ผู้ที่ประมูลซื้อคงมีเฉพาะผู้ที่ทราบสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทเท่านั้นการขายทอดตลาดย่อมต้องมีการสมยอมกัน เป็นการไม่ชอบ จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบให้เห็นดังที่กล่าวอ้าง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้นแต่ละหุ้นของบริษัทจำกัดย่อมปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นและหนังสือบริคณห์สนธิที่ได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียน และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะ ทางการเงินของบริษัทจำกัดคือสินทรัพย์และหนี้สิน ย่อมปรากฏอยู่ในบัญชีงบดุลซึ่งได้ส่งไว้ต่อนายทะเบียนเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี เอกสารเหล่านี้บุคคลทั่วไปตลอดจนผู้จะเข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดหุ้นสามารถตรวจสอบก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดได้อยู่แล้ว แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้แจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวในประกาศขายทอดตลาด ก็ไม่เป็นเหตุให้การขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมเป็นคนละกระทง แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ใช้เครื่องหมายการค้าปลอมและผลิตอาหารปลอม รวมจำเลยที่ 2 จำคุก3 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 11,000 บาท ศาลอุทธรณ์แก้เป็น ฐานปลอมและใช้เครื่องหมายการค้าปลอมเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษฐานปลอมเครื่องหมายการค้า ตาม ป.อ. มาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักโดยลดโทษแล้ว จำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี จำเลยที่ 3 ปรับ 500 บาท เป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อย และยังคงจำคุกไม่เกินห้าปี คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ลงชื่อในคำพิพากษาอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ข้อเท็จจริงนั้นก็ต้องยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตอาหารปลอมลักษณะของการกระทำผิดแยกจากกัน เมื่อมีการปลอมเครื่องหมายการค้าและนำไปใช้ก็เป็นความผิดสำเร็จกระทงหนึ่ง เมื่อนำอาหารที่ส่วนประกอบไม่ใช่สูตรของแท้มาปิดเครื่องหมายการค้าปลอมเพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นอาหารสูตรของแท้ก็เป็นความผิดฐานผลิตอาหารปลอมอีกกระทงหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขายทอดตลาด: เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจกำหนดลำดับขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ แม้การขายแปลงแรกไม่พอชำระหนี้
ที่ดินทั้งสองแปลงที่ยึดมาขายทอดตลาดมีราคาประเมินรวมทั้งสองแปลงแล้วไม่พอชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำการขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่มีราคาน้อยก่อน ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจที่จะกำหนดลำดับการขายทรัพย์ที่ยึดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309(3) การขายที่ดินแปลงนี้เป็นการปฏิบัติโดยชอบแล้ว และเมื่อขายทรัพย์รายแรกได้เงินไม่พอชำระหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินอีกแปลงหนึ่งเป็นอันดับต่อมา แม้การขายทรัพย์สินรายการหลังจะได้เงินพอแก่การชำระหนี้ก็ไม่ทำให้การขายทอดตลาดทรัพย์รายการแรกที่เสร็จไปแล้วโดยชอบนั้นเสียไปหรือถูกยกเลิกไป จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยุบสภาทำให้คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันเป็นไปไม่ได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรแต่ระหว่างพิจารณาได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป คดีจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้หลักทรัพย์ประกันตัวที่ถูกยึดเป็นประกันอีกครั้ง ถือละเมิดอำนาจศาล
ที่ดินตาม น.ส.3 รายนี้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เคยนำไปยื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวจำเลยในคดีอาญา แล้วผิดสัญญาประกันศาลสั่งปรับและยึดที่ดินตาม น.ส.3 ดังกล่าวเพื่อนำออกขายทอดตลาด ต่อมามีผู้ทุจริตลักลอบนำเอา น.ส.3 ฉบับดังกล่าวออกมาในระหว่างดำเนินการเพื่อจะขายทอดตลาด ไปให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นำไปเป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) ในอีกคดีหนึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิที่จะไปเกี่ยวข้องกับ น.ส.3 ฉบับนี้อีกแต่ก็ยังฝ่าฝืนนำเอา น.ส.3 ฉบับนี้มายื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) ต่อศาลอีก โดยอ้างว่าไม่มีภาระผูกพันใด ๆ จนกระทั่งศาลหลงเชื่อและได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) การกระทำดังกล่าวถือว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 31(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น มิฉะนั้นเป็นเหตุต้องห้าม
ตามคำร้อง ของ จำเลยอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งจำเลยต้องยื่นคัดค้านเสียก่อนที่การบังคับคดีได้เสร็จลงหรือภายใน 8 วัน นับแต่วันที่ทราบถึงการฝ่าฝืนนั้นแม้จำเลยจะไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ก็ตาม แต่จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากที่การบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการบังคับคดีที่เกินกำหนดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง แม้ไม่ทราบวันขายทอดตลาด ก็ต้องยื่นคัดค้านก่อนบังคับคดีเสร็จ
จำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้น แม้จะฟังได้ว่าจำเลยไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 306 ก็ตามแต่เมื่อจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงคำร้องของจำเลยจึงต้องห้ามตามกฎหมาย
of 7