พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนนัดสืบพยานเนื่องจากทนายจำเลยป่วยและยื่นคำร้องหลังศาลสั่งงดสืบพยาน ศาลใช้ดุลพินิจชอบแล้ว
ตามคำร้อง ของ ทนายจำเลยขอเลื่อนวันนัดสืบพยานจำเลย ซึ่งนัดเวลา 13.30 นาฬิกา ปรากฏว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรงก่อนวันนัด 1 วัน นั้น ทนายจำเลยมีโอกาสยื่นคำร้องขอเลื่อนได้ก่อนเวลา 13.30 น. ของวันนัด แต่เสมียนทนายจำเลยยื่นคำร้องดังกล่าวในวันนัดเวลา 14.00 น.หลังจากศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยแล้ว ดังนี้การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนการสืบพยานจึง ชอบ แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองหลังมีคำพิพากษาคดีเดิมแล้ว ศาลฎีกาไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจากเจ้าของเดิม จำเลยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมปลูกบ้านในที่ดินพิพาทบางส่วน โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนออกไปแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทต่อจากบิดามารดา ด้วยความสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินสิบปีย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการโต้เถียงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง มิใช่เป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จำเลยย่อมมีสิทธิฟ้องแย้งได้ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้งแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปจำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้พิจารณาก็ตาม แต่ศาลอุทธรณ์มิได้ทำคำสั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ในระหว่างที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งเมื่อคดีเดิมศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาเสร็จจนถึงศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปแล้ว และคดีอยู่ระหว่างที่จำเลยฎีกาแม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรงแต่ก็ไม่มีเหตุที่จะให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้ง และรื้อฟื้นพิจารณาพิพากษาประเด็นข้อนี้ใหม่ เพราะถ้าจำเลยเห็นว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองก็ชอบที่จำเลยจะดำเนินคดีเรียกร้องได้ เนื่องจากคำพิพากษาคดีเดิมไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะเรียกร้องได้ตามสิทธิของตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องแย้งกรณีโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และผลกระทบต่อการพิจารณาคดีเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามขนย้ายทรัพย์สินและรื้อบ้านออกไปจากที่ดินแปลงที่พิพาท กับให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยทั้งสามให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสามได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสาม ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยทั้งสามโต้เถียงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยทั้งสามย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องแย้งได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์จากการครอบครองเมื่อคดีเดิมดำเนินไปแล้ว ศาลฎีกาไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามขนย้ายทรัพย์สินและรื้อบ้านออกไป กับให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยทั้งสามให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสามครอบครองที่พิพาท ซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดต่อจากบิดามารดาด้วยความสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินสิบปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดย การครอบครอง โจทก์ซื้อที่พิพาทโดย ไม่สุจริตไม่เสียค่าตอบแทน ทั้งทราบการครอบครองของจำเลยทั้งสามแล้ว จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสามโดย การครอบครอง ห้ามมิให้โจทก์เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยทั้งสามโต้เถียงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมโดยตรง มิใช่เป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมจำเลยทั้งสามย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องแย้งได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มิได้ทำคำสั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ในระหว่างอุทธรณ์คำสั่งและบัดนี้คดีเดิมศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาเสร็จจนถึงศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปแล้ว คดีอยู่ระหว่างที่จำเลยทั้งสามฎีกา จึงไม่มีเหตุที่จะให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งและรื้อฟื้นพิจารณาพิพากษาประเด็นตามฟ้องแย้งนั้นใหม่ถ้าจำเลยทั้งสามเห็นว่า จำเลยทั้งสามได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง ก็ชอบที่จำเลยทั้งสามจะดำเนินคดีเรียกร้องเป็นคดีต่างหากได้ เพราะคำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ตัดสิทธิของจำเลยทั้งสามที่จะเรียกร้องได้ตามสิทธิของตน.