คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 695 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3158/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมที่ทำในขณะที่ผู้ทำไม่มีสติสัมปชัญญะเป็นโมฆะ และบุตรที่บิดารับรองมีสิทธิรับมรดก
มีผู้จับมือเจ้ามรดกเขียนชื่อในขณะที่เจ้ามรดกมีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์เท่ากับว่าเจ้ามรดกไม่ได้แสดงเจตนาทำพินัยกรรม เอกสารที่ทำไว้จึงไม่เป็นพินัยกรรม ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้แสดงออกต่อผู้อื่นว่าบุตรเป็นบุตรของตนและให้ใช้นามสกุลตลอดมา ถือว่าเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้ว จึงมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1639

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างมาตรากฎหมายในคำพิพากษา: ศาลอุทธรณ์ไม่ต้องระบุซ้ำหากศาลชั้นต้นระบุไว้แล้ว
แม้ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยไม่ได้ระบุมาตราที่ยกขึ้นปรับก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดโดยระบุมาตรานั้นไว้แล้วจึงเป็นการที่ศาลอุทธรณ์ได้ระบุอ้างมาตราที่ยกขึ้นปรับแก่คดีโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 186(7) ประกอบมาตรา 214 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุเมื่อถูกข่มขู่ด้วยสิ่งของที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง
จำเลยกับผู้เสียหายมีสาเหตุทะเลาะกันมาบ่อยครั้งแต่ก็ยังไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันรุนแรง การที่ผู้เสียหายเดินถือเก้าอี้ที่ไม่ใหญ่โตหรือมีน้ำหนักที่จะทำอันตรายร้ายแรงเข้าหาจำเลยแล้ว จำเลยตอบโต้ด้วยการใช้มีดฟันผู้เสียหายจนได้รับบาดแผลเป็นอันตรายสาหัสเช่นนี้ จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คด้วยชื่อร้าน ถือเป็นการลงลายมือชื่อของตน ผูกพันตามเช็ค
คำว่า "บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เขียนลายมือชื่อด้วยตนเองหรือนิติบุคคลตามกฎหมายที่ผู้มีอำนาจกระทำการแทนลงลายมือชื่อกระทำการแทนโดยจะลงชื่อสมมติ หรือนามแฝงหรือชื่อเสียงที่ใช้ในการค้าอันเป็นที่แน่นอนว่าหมายถึงบุคคลใดซึ่งมีเจตนาให้ลายมือชื่อที่ลงในตั๋วเงินนั้นเป็นชื่อของตน การที่จำเลยที่ 2 เขียนคำว่า "แสงรุ้งเรือง" ซึ่งเป็นชื่อร้านของจำเลยที่ 2 ลงด้านหลัง เช็คพิพาททั้งสองฉบับ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เจ้าของร้านเป็นผู้ลงลายมือชื่อของตนในเช็คดังกล่าวจึงเป็นการลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 900 วรรคแรก,919,989 วรรคแรก เมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คผู้ถือจำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้ประกัน (อาวัล) จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายตามมาตรา 921,940 และ 989 วรรคแรก ย่อมอยู่ในฐานะต้องผูกพันใช้เงินตามเนื้อความในเช็คเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายตามมาตรา 967,989 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงชื่อสลักหลังเช็คด้วยชื่อร้านค้า ถือเป็นการลงลายมือชื่อของตนตามกฎหมาย
คำว่า บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 900 วรรคแรก หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เขียนลายมือชื่อด้วยตนเองหรือนิติบุคคลตามกฎหมายที่ผู้แทนผู้มีอำนาจกระทำการแทนลงลายมือชื่อกระทำการแทน โดยจะลงชื่อสมมติหรือนามแฝงหรือชื่อเสียงที่ใช้ในทางการค้าซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าหมายถึงบุคคลใด โดยมีเจตนาให้ลายมือชื่อที่ลงในตั๋วเงินเป็นชื่อของตน การที่จำเลยที่ 2เขียนคำว่า แสงรุ้งเรือง ซึ่งเป็นชื่อร้านของจำเลยที่ 2ลงด้านหลังเช็คพิพาททั้งสองฉบับ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อของตนในเช็คดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คมีมูลหนี้จากดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย เช็คเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยสั่งจ่ายเช็คมอบให้แก่โจทก์เป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่จำเลยกู้ยืมเงินจากโจทก์ ซึ่งค่าผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวก็คือดอกเบี้ยซึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อเช็คพิพาทมีมูลหนี้ที่เกิดจากดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3(ก) มูลหนี้ตามเช็คพิพาทจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ตามเช็คพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2212/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความในคดีแพ่งเพื่อสนับสนุนข้ออ้างทางคดี ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยบรรยายฟ้องในคดีที่จำเลยเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยขอให้เพิกถอนโจทก์จากการเป็นผู้อนุบาลของ จ. และตั้งจำเลยเป็นผู้อนุบาลแทนว่าโจทก์เล่นการพนัน ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้อนุบาลจ. แม้ในคดีดังกล่าวศาลจะมิได้ตั้งประเด็นเรื่องคุณสมบัติของโจทก์ไว้โดยตรง แต่ก็มีข้อที่จะต้องพิจารณาว่าโจทก์หรือจำเลยควรจะเป็นผู้อนุบาลของ จ. การที่จำเลยเบิกความว่า บ้านของโจทก์ตั้งเป็นบ่อนการพนันก็เพื่อสนับสนุนคดีของจำเลยในข้อที่ว่าจำเลยเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นผู้อนุบาลของ จ. ส่วนโจทก์ไม่เหมาะสม ถือได้ว่าข้อความดังกล่าวเป็นข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 331

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2172/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินก่อนล้มละลาย: การจดทะเบียนแก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ มิใช่การโอนทรัพย์สินเพื่อเลี่ยงการบังคับชำระหนี้
ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านที่ 1 และ ส. มิใช่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนการโอนที่ดินดังกล่าว เป็นเพียงจดทะเบียนใส่ชื่อผู้คัดค้านที่ 1 และ ส.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินให้ถูกต้องตามความเป็นจริงเท่านั้นหาใช่เป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 โอนทรัพย์สินหรือกระทำการใด ๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำในระหว่างระยะเวลาสามปีก่อนมีการขอให้ล้มละลายและภายหลังนั้น อันจะทำให้ผู้ร้องมีสิทธิขอให้เพิกถอนตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทกฎหมายไม่ชัดเจน ศาลพิจารณาจากคำบรรยายฟ้องเพื่อลงโทษตามกฎหมายที่ถูกต้อง
คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถึงการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.อ.มาตรา 336 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 13 โดยชัดแจ้งแล้ว การที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 13 ก็คงหมายถึง ป.อ.มาตรา 336 ทวิ ที่เพิ่มเติมขึ้นมานั่นเอง เพียงแต่โจทก์อ้างบทกฎหมายไม่ชัดเจนเท่านั้น เมื่อพิจารณาประกอบกับคำบรรยายฟ้องแล้วเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 336 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทกฎหมายไม่ชัดเจน ศาลพิจารณาจากเนื้อหาฟ้องและลงโทษตามบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถึงการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ13 โดยชัดแจ้งแล้ว การที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 13 จึงหมายถึงโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 ทวิ ที่เพิ่มเติมขึ้นมานั่นเอง เพียงแต่อ้างบทกฎหมายไม่ชัดเจนเท่านั้น
of 70