คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 797

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายอำนาจตัวแทนต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ สัญญาประนีประนอมยอมความจะผูกพันได้เมื่อตัวแทนมีอำนาจ
พนักงานบริษัทจำเลยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยให้มาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับโจทก์ และได้ทำข้อตกลงกับ โจทก์ในเรื่องค่าเสียหายที่บริษัทจำเลยจะชดใช้ให้โจทก์ ดังนี้พนักงานบริษัทจำเลยผู้นั้นอาจเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยได้โดยผลของการให้สัตยาบัน แต่บริษัทจำเลยมิได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของพนักงานบริษัทจำเลยดังกล่าว บริษัทจำเลยจึงใช้เอกสารข้อตกลงดังกล่าวมาผูกมัดโจทก์หาได้ไม่
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์ แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจตัวแทน: การมอบอำนาจรับเงินกู้ ไม่ครอบคลุมถึงการเป็นตัวแทนจ่ายเงินให้จำเลย
การเป็นตัวแทน จะต้องมีการแต่งตั้งจากตัวการโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้มีอำนาจทำการแทนตัวการ และตัวแทนตกลงที่จะทำการเช่นว่านั้น
จำเลยมีหนังสือขอกู้เงินโจทก์และทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้มีชื่อเป็นตัวแทนมารับเงินจากโจทก์ ผู้มีชื่อนั้นได้รับเงินกู้จากโจทก์แล้ว แต่มิได้นำไปมอบให้แก่จำเลย
แม้ผู้มีชื่อนั้นจะรับรองต่อโจทก์ว่าจะนำเงินกู้ไปจ่ายให้แก่จำเลยก็ดี และจะจัดให้ผู้กู้ผู้ค้ำประกันลงชื่อในสัญญากู้สัญญาค้ำประกันก็ดี ก็มิใช่เป็นเรื่องโจทก์มอบอำนาจให้ไปจัดการผู้มีชื่อนั้นจึงหาใช่เป็นตัวแทนของโจทก์ไม่
การกู้เงินของจำเลยจากโจทก์ มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้กู้ยืม และตัวแทนซึ่งจำเลยมอบอำนาจให้มารับเงินกู้จากโจทก์ก็ได้รับเงินไปแล้ว ดังนี้ จำเลยซึ่งเป็นตัวการย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปภายในขอบอำนาจ แม้ตัวแทนจะมิได้นำเงินกู้ไปมอบแก่จำเลยโจทก์ก็ฟ้องร้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนขายพลอย: ศาลยึดตามคำพิพากษาคดีอาญาเดิมว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วน ผู้รับเช็คต้องรับผิดชอบเช็คเอง
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เมื่อในคำพิพากษาคดีอาญาซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลย ศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับพลอยจากโจทก์ไปขายให้ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อชำระเงินค่าพลอยให้มาเป็นเช็ค จำเลยก็นำเช็คทั้งหมดมอบให้โจทก์ ดังนี้ในคดีแพ่งซึ่งโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าพลอยจากจำเลย โจทก์จะเถียงข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้รับเช็คค่าพลอยไว้จากจำเลยยังไม่ครบถ้วนหาได้ไม่
จำเลยเป็นตัวแทนนำพลอยของโจทก์ไปขายผู้ซื้อชำระค่าพลอยให้มาเป็นเช็คลงวันสั่งจ่ายล่วงหน้า จำเลยก็นำเช็คทั้งหมดมามอบให้โจทก์ เช็คบางฉบับก่อนจะถึงกำหนดวันสั่งจ่าย ผู้ซื้อยังไม่มีเงินในบัญชีของธนาคาร ขอให้จำเลยไปติดต่อกับโจทก์ขอเปลี่ยนเช็คใหม่โดยขยายเวลาออกไปอีก โจทก์ก็ยอม เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ ได้ใช้ให้จำเลยไปดูพลอยที่ขายในร้านผู้ซื้อเพื่อจะเอาคืนมา จำเลยก็ไปดูให้ เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งของในร้านผู้ซื้อเหลืออยู่ จำเลยก็กลับมาแจ้งให้โจทก์ทราบ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนครบถ้วนแล้ว จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นเรื่องโจทก์จะต้องว่ากล่าวเอาแก่ผู้สั่งจ่ายเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแทน, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และขอบเขตของข้อตกลงในสัญญาเช่า (การเช่าทรัพย์สิน)
หนังสือมอบอำนาจระบุให้อำนาจตัวแทนทำกิจการแทนตัวการไว้หลายอย่างและให้ยื่นฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับทรัพย์สินของตัวการได้ด้วย ดังนี้ ตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจนั้นย่อมมีอำนาจฟ้องคดีแทนตัวการได้หาจำต้องมีการมอบอำนาจกันเฉพาะเรื่องเฉพาะรายไม่
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 801 บัญญัติว่า ตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไปไม่อาจยื่นฟ้องต่อศาลได้นั้น มีความหมายแต่เพียงว่า หากการมอบอำนาจมิได้ระบุไว้ว่าให้ตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลแทนตัวการ ตัวแทนก็ไม่อาจยื่นฟ้องได้
หนังสือบอกกล่าวของผู้ให้เช่าถึงผู้เช่า มีข้อความว่า'ขอรับตึกแถวดังกล่าวคืนจากการเช่าจากท่าน เพื่อมาทำการปรับปรุง' ถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแม้จะมีข้อความต่อไปว่า หากผู้เช่าขัดข้องอย่างไรก็ขอได้กรุณาแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบด้วย ก็เป็นแต่เพียงการแสดงความสุภาพในการใช้ถ้อยคำเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงความประสงค์ของผู้ให้เช่าอันเป็นสาระสำคัญที่จะเลิกการเช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีกำหนดเวลา 1 ปี และมีข้อสัญญาข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้เช่าชำระค่าเช่าให้ตามกำหนดและปฏิบัติตามข้อสัญญาครบถ้วน ผู้เช่าจะอยู่ในสถานที่เช่าได้โดยสบายตลอดระยะเวลาที่เช่าซึ่งกล่าวแล้ว เว้นเสียต่อทางการหรือรัฐบาลต้องการเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ แล้ว แม้แต่ยังไม่ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าผู้เช่าจำต้องส่งสถานที่เช่าคืนภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ให้เช่าบอกกล่าวข้อสัญญานี้ย่อมมีผลใช้บังคับเฉพาะภายในกำหนดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเท่านั้น เมื่อสัญญาเช่าระงับเมื่อครบ 1 ปี ข้อสัญญาดังกล่าวย่อมระงับไปด้วย. ไม่มีผลใช้บังคับถึงการเช่าต่อมาโดยไม่มีกำหนดเวลา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแทน, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และผลผูกพันของข้อสัญญาเช่าเมื่อสัญญาเดิมสิ้นสุด
หนังสือมอบอำนาจ ระบุให้อำนาจตัวแทนทำกิจการแทนตัวการไว้หลายอย่างและให้ยื่นฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับทรัพย์สินของตัวการได้ด้วยดังนี้ ตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจนั้นย่อมมีอำนาจฟ้องคดีแทนตัวการได้หาจำต้องมีการมอบอำนาจกันเฉพาะเรื่องเฉพาะรายไม่
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 801 บัญญัติว่าตัวแทน ได้รับมอบอำนาจทั่วไปไม่อาจยื่นฟ้องต่อศาลได้นั้นมีความหมายแต่เพียงว่า หากการมอบอำนาจมิได้ระบุไว้ว่าให้ตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลแทนตัวการ ตัวแทนก็ไม่อาจยื่นฟ้องได้
หนังสือบอกกล่าวของผู้ให้เช่าถึงผู้เช่า มีข้อความว่า'ขอรับตึกแถวดังกล่าวคืนจากการเช่าจากท่าน เพื่อมาทำการปรับปรุง' ถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแม้จะมีข้อความต่อไปว่า หากผู้เช่าขัดข้องอย่างไร ก็ขอได้กรุณาแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบด้วย ก็เป็นแต่เพียงการแสดงความสุภาพในการใช้ถ้อยคำเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงความประสงค์ของผู้ให้เช่าอันเป็นสาระสำคัญที่จะเลิกการเช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีกำหนดเวลา 1 ปี และมีข้อสัญญาข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้เช่าชำระค่าเช่าให้ตามกำหนดและปฏิบัติตามข้อสัญญาครบถ้วน ผู้เช่าจะอยู่ในสถานที่เช่าได้โดยสบายตลอดระยะเวลาที่เช่าซึ่งกล่าวแล้ว เว้นเสียต่อทางการหรือรัฐบาลต้องการเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ แล้ว แม้แต่ยังไม่ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าผู้เช่าจำต้องส่งสถานที่เช่าคืนภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ให้เช่าบอกกล่าวข้อสัญญานี้ย่อมมีผลใช้บังคับเฉพาะภายในกำหนดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเท่านั้น เมื่อสัญญาเช่าระงับเมื่อครบ 1 ปี ข้อสัญญาดังกล่าวย่อมระงับไปด้วย. ไม่มีผลใช้บังคับถึงการเช่าต่อมาโดยไม่มีกำหนดเวลา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาตัวแทน vs. จ้างทำของ: ความรับผิดของตัวการเมื่อตัวแทนผิดสัญญาซื้อขาย
จ. ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำสัญญากับบริษัท ว. มีข้อความสำคัญว่า ผู้ว่าจ้าง (จ) ตกลงให้ผู้รับจ้าง (ว) ขายหรือเลหลังที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท หรือหากต่ำกว่าราคานี้ก็ต่อเมื่อผู้รับจ้าง (ว) ได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้าง (จ) ให้ขายได้ ดังนี้ ย่อมมีความหมายว่า ถ้ามีผู้ซื้อเสนอขอซื้อในราคาที่กำหนดไว้นี้แล้ว ว. มีอำนาจเป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อได้เลยและสัญญานั้นมีผลผูกพัน จ. และเมื่อ ว. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อไว้ในนามของ ว. แต่เวลาจะโอนกรรมสิทธิ์ จ. ซึ่งเป็นเจ้าของต้องจัดการโอนให้ ไม่ใช่ว่า ว. จะทำการโอนขายไปเป็นผลสำเร็จได้เองดังนี้ แม้ ว. จะเป็นผู้มีอาชีพประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าขายทอดตลาดก็ไม่ทำให้สัญญาระหว่าง จ. กับ ว. เป็นเรื่อง ตัวแทนค้าต่าง
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาตัวแทนกับการรับผิดในสัญญาซื้อขาย: ตัวแทนมีหน้าที่คืนเงินและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อผิดสัญญา
จ. ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำสัญญากับบริษัท ว.มีข้อความสำคัญว่าผู้ว่าจ้าง (จ) ตกลงให้ผู้รับจ้าง (ว) ขายหรือเลหลังที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท หรือหากต่ำกว่าราคานี้ก็ต่อเมื่อผู้รับจ้าง (ว) ได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้าง (จ) ให้ขายได้ ดังนี้ ย่อมมีความหมายว่า ถ้ามีผู้ซื้อเสนอขอซื้อในราคาที่กำหนดไว้นี้แล้ว ว. มีอำนาจเป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อได้เลยและสัญญานั้นมีผลผูกพันจ. และเมื่อ ว. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อไว้ในนามของ ว. แต่เวลาจะโอนกรรมสิทธิ์ จ. ซึ่งเป็นเจ้าของต้องจัดการโอนให้ ไม่ใช่ว่า ว. จะทำการโอนขายไปเป็นผลสำเร็จได้เองดังนี้ แม้ ว. จะเป็นผู้มีอาชีพประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าขายทอดตลาดก็ไม่ทำให้สัญญาระหว่าง จ. กับ ว. เป็นเรื่องตัวแทนค้าต่าง
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสีย ดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081-2087/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการทรัพย์สินบุตรผู้เยาว์ & หนังสือมอบอำนาจ/มอบกรรมสิทธิ์: ผลผูกพันทางกฎหมาย
บิดาผู้ใช้อำนาจปกครองมีอำนาจจัดการและจำหน่ายทรัพย์สินอันเป็นสังหาริมทรัพย์ของบุตรผู้เยาว์ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมของบุตร เว้นแต่ในกิจการใดประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจปกครองขัดกับประโยชน์ของผู้เยาว์ จะต้องได้รับอนุญาตของศาลก่อน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
บิดานำหุ้นของบุตรผู้เยาว์ไปโอนตีใช้หนี้ส่วนตัวของบิดาประโยชน์ของบิดาผู้ใช้อำนาจปกครองย่อมขัดกับประโยชน์ของบุตรผู้เยาว์หากทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล แม้บุตรผู้เยาว์จะทำหนังสือให้ความยินยอมด้วย ก็เป็นโมฆะ
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบกรรมสิทธิ์ในหุ้นของตนให้บิดา บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ แต่ทำการโอนหุ้นกันไม่ได้ เพราะขัดกับข้อบังคับของบริษัท ดังนี้ ผู้ถือหุ้นนั้นไม่ต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์เพราะไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบอำนาจให้บิดานำหุ้นของตนไปจำนำประกันเงินกู้ ขายโอนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ ถือได้ว่าเป็นการก่อนิติสัมพันธ์ตามที่ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งผูกพันผู้ถือหุ้นซึ่งมอบอำนาจนั้นด้วย เมื่อต่อมาปรากฏว่าโอนหุ้นให้โจทก์ไม่ได้ ผู้ถือหุ้นย่อมต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081-2087/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการทรัพย์สินบุตรผู้เยาว์ & นิติสัมพันธ์จากการมอบอำนาจ/มอบกรรมสิทธิ์
บิดาผู้ใช้อำนาจปกครองมีอำนาจจัดการและจำหน่ายทรัพย์สินอันเป็นสังหาริมทรัพย์ของบุตรผู้เยาว์ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมของบุตร เว้นแต่ในกิจการใดประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจปกครองขัดกับประโยชน์ของผู้เยาว์ จะต้องได้รับอนุญาตของศาลก่อน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
บิดานำหุ้นของบุตรผู้เยาว์ไปโอนตีใช้หนี้ส่วนตัวของบิดาประโยชน์ของบิดาผู้ใช้อำนาจปกครองย่อมขัดกับประโยชน์ของบุตรผู้เยาว์หากทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล แม้บุตรผู้เยาว์จะทำหนังสือให้ความยินยอมด้วย ก็เป็นโมฆะ
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบกรรมสิทธิ์ในหุ้นของตนให้บิดา บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ แต่ทำการโอนหุ้นกันไม่ได้ เพราะขัดกับข้อบังคับของบริษัท ดังนี้ ผู้ถือหุ้นนั้นไม่ต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์เพราะไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบอำนาจให้บิดานำหุ้นของตนไปจำนำประกันเงินกู้ ขายโอนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ ถือได้ว่าเป็นการก่อนิติสัมพันธ์ตามที่ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งผูกพันผู้ถือหุ้นซึ่งมอบอำนาจนั้นด้วย เมื่อต่อมาปรากฏว่าโอนหุ้นให้โจทก์ไม่ได้ ผู้ถือหุ้นย่อมต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1880/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดลงสัญญาซื้อขายแทนห้างหุ้นส่วน ต้องรับผิดร่วมกันในสัญญา
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดในห้างจำเลยที่ 1ซึ่งจดทะเบียนเป็นหุ้นส่วนจำกัด ห้างจำเลยที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 2 กระทำการแทนห้างจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานกรุงเทพฯ จำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อทำสัญญาขายปอให้แก่โจทก์ในนามห้างจำเลยที่ 1 และประทับตราห้างจำเลยที่1 ด้วย ดังนี้ ห้างจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญานั้น
การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดได้เข้าทำสัญญาขายปอในนามห้างจำเลยที่ 1 โดยลงชื่อตนเองและประทับตราห้างจำเลยที่ 1 อันเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วย
of 89