พบผลลัพธ์ทั้งหมด 485 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3209/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาพ้นกำหนดระยะเวลา ทำให้ศาลไม่อนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
จำเลยยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นพร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาคดีอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โดยยื่นเมื่อล่วงเลยระยะเวลาฎีกาตามกฎหมายแล้วฎีกาจำเลยจึงไม่มีประโยชน์ที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาคดีจะอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3192/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการซื้อที่ดินโดยไม่สุจริต ทำให้สิทธิในที่ดินตกเป็นของผู้ครอบครอง
จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทในส่วนที่โจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิ์โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีจึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ก่อนตกลงซื้อที่ดินพิพาท โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยครอบครองทำประโยชน์ปลูกพืชผลและปลูกบ้านอยู่ในที่ดินพิพาทจนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว โจทก์จะอ้างว่าจดทะเบียนโดยสุจริตหาได้ไม่ เมื่อจำเลยเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรมแม้จะยังมิได้จดทะเบียนก็ยกเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ซึ่งมิได้จดทะเบียนโดยสุจริตได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง โจทก์ทั้งสามบรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิจากเจ้าของเดิม โจทก์ทั้งสามไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท โดยไม่ได้บรรยายฟ้องถึงเรื่องที่จำเลยเช่าที่ดินเพื่อเลี้ยงปลา คดีจึงไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทตามสัญญาเช่าเพื่อเลี้ยงปลาที่โจทก์ที่ 2และที่ 3 ฎีกาว่า การเช่าที่ดินของจำเลยซึ่งเช่าจากโจทก์ที่ 2และที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนลักษณะของการเช่าที่ดินจากการเช่าเพื่อทำนามาเป็นการเช่าเพื่อเลี้ยงปลา ย่อมไม่ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่เช่าแล้ว โจทก์ที่ 2และที่ 3 จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยนั้น เป็นเรื่องนอกประเด็นแห่งคดีศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3162/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตประเด็นพิพาท: ศาลวินิจฉัยค่าเช่าบริการวิทยุติดตามตัวได้ แม้ประเด็นพิพาทกว้าง
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทว่า ค่าเสียหายของโจทก์มีเพียงใดหรือไม่เป็นการกำหนดประเด็นอย่างกว้าง ๆเมื่อค่าเสียหายตามคำฟ้องของโจทก์มีทั้ง ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาเช่าใช้บริการวิทยุติดตามตัว อันได้แก่ค่าเช่าใช้บริการที่ค้างชำระเป็นต้น และค่าเสียหายอันเกิดจากการขาดประโยชน์ที่จำเลยไม่ส่งมอบวิทยุติดตามตัวคืนโจทก์จึงไม่สามารถนำออกให้เช่าหาประโยชน์ได้ด้วย ดังนั้นคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับค่าเช่าใช้บริการวิทยุติดตามตัวจึงไม่นอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3086/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจรเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้ถูกจับพร้อมกัน เหตุเกิดต่างเวลากัน
โจทก์ฟ้องคดีทั้งสามสำนวนข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยบรรยายว่าระหว่างเวลาที่ทรัพย์ถูกลักไปซึ่งแตกต่างกัน จนถึงวันที่เจ้าพนักงานจับจำเลยได้วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยรับของโจรจึงเป็นความผิดต่างกรรมกัน เพราะว่าเวลาที่จำเลยทั้งสองกระทำความผิดฐานรับของโจรแตกต่างกัน แม้จำเลยทั้งสองจะถูกจับพร้อมรถจักรยานยนต์ทั้งสามคันในขณะเดียวกัน ก็หาทำให้การกระทำดังที่โจทก์บรรยายฟ้อง กลายเป็นความผิดกระทงเดียวและกรรมเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3070/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อ: ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิได้รับคืน แม้จำเลยใช้รถกระทำผิด
เดิมรถจักรยานยนต์ของกลางที่ศาลมีคำสั่งให้ริบเป็นของ ว.ซึ่งจำเลยที่ 1 ไปติดต่อขอเช่าซื้อมา แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1มีเงินไม่พอจึงไปติดต่อผู้ร้องเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อ ผู้ร้องจึงได้ซื้อรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจาก ว. และได้ให้จำเลยที่ 1เช่าซื้ออีกทอดหนึ่ง ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถจักรยานยนต์จึงตกเป็นของผู้ร้องแล้วโดยผู้ร้องไม่จำเป็นต้องเอารถจักรยานยนต์เข้ามาอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องก่อน และไม่จำต้องโอนใส่ชื่อผู้ร้องในคู่มือการจดทะเบียนด้วย ทั้งการทำสัญญาเช่าซื้อนี้ก็มิใช่นิติกรรมอำพรางการกู้เงินของจำเลยที่ 1 เพื่อไปซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางด้วย เมื่อผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 จึงต้องคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3058/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนใจโดยมีอาวุธและการกระทำโดยข่มขู่จนผู้เสียหายจำยอม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมเป็นอาวุธจี้ขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อร่างกายผู้เสียหาย และฉุดบังคับผู้เสียหายไปกับจำเลย แล้วบังคับจับกดให้ผู้เสียหายนอนลงกับพื้นดิน โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า จำเลยข่มขืนใจผู้เสียหายให้ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้เสียหาย จนผู้เสียหายต้องจำยอมต่อสิ่งนั้น เป็นการบรรยายการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ตลอดจนข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 158 (5) จึงครบองค์ประกอบความผิดตามป.อ.มาตรา 309 วรรคสอง แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3058/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่น (มาตรา 309) ต้องระบุรายละเอียดการข่มขืนใจให้ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมเป็นอาวุธจี้ขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อร่างกายผู้เสียหาย และฉุดบังคับผู้เสียหายไปกับจำเลย แล้วบังคับจับกดให้ผู้เสียหายนอนลงกับพื้นดิน โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า จำเลยข่มขืนใจผู้เสียหายให้ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้เสียหายจนผู้เสียหายต้องจำยอมต่อสิ่งนั้น เป็นการบรรยายการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ตลอดจนข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 158(5)จึงครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 วรรคสอง แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2995/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารปลอม – ป้ายทะเบียนรถ – โฆษณา – ไม่เข้าข่าย – ยกฟ้อง
จำเลยได้นำแผ่นกระดาษซึ่งมีข้อความ และตัวเลขว่าเหมือนกับแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร 9ง-9999 ของทางราชการ แล้วนำไปใส่กรอบโลหะติดไว้กับรถจักรยานยนต์ของจำเลย ซึ่งจำเลยอยู่ในระหว่างดำเนินการขอหมายเลขทะเบียนจากทางราชการ เมื่อแผ่นป้ายดังกล่าวมิได้ทำขึ้นด้วยแผ่นโลหะเช่นของทางราชการ ทั้งยังปรากฎข้อความอย่างอื่นในแผ่นกระดาษนั้นว่า คุ้มครองป้ายทะเบียนและห.จ.ก.รวมการช่าง ผู้ถือสิทธิบัตรอยู่ด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นป้ายที่ใช้เป็นตัวอย่างในการโฆษณา การจัดทำป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายของห้างดังกล่าว กรณีจึงมิใช่การทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงเอกสารแผ่นป้ายดังกล่าวจึงมิใช่เอกสารปลอม แม้จำเลยจะนำไปติดไว้กับรถจักรยานยนต์ของจำเลย จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2995/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ไม่ใช่เอกสารปลอม หากมีเจตนาเพื่อโฆษณาและไม่ใช่แผ่นโลหะ
จำเลยได้นำแผ่นกระดาษซึ่งมีข้อความ และตัวเลขว่าเหมือนกับแผนป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร 9 ง - 9999 ของทางราชการ แล้วนำไปใส่กรอบโลหะติดไว้กับรถจักรยานยนต์ของจำเลย ซึ่งจำเลยอยู่ในระหว่างดำเนินการขอหมายเลขทะเบียนจากทางราชการ เมื่อแผ่นป้ายดังกล่าวมิได้ทำขึ้นด้วยแผ่นโลหะเช่นของทางราชการ ทั้งยังปรากฏข้อความอย่างอื่นในแผ่นกระดาษนั้นว่า คุ้มครองป้ายทะเบียนและ ห.จ.ก.รวมการช่าง ผู้ถือสิทธิบัตรอยู่ด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นป้ายที่ใช้เป็นตัวอย่างในการโฆษณา การจัดทำป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายของห้างดังกล่าว กรณีจึงมิใช่การทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง เอกสารแผ่นป้ายดังกล่าวจึงมิใช่เอกสารปลอม แม้จำเลยจะนำไปติดไว้กับรถจักรยานยนต์ของจำเลย จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสาร-ปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2995/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารปลอมต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริง การติดแผ่นกระดาษโฆษณาป้ายทะเบียนไม่ถือเป็นเอกสารปลอม
จำเลยได้นำแผ่นกระดาษซึ่งเขียนข้อความให้เหมือนกับแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กรุงเทพมหานคร 9ง-9999 ที่ทางราชการได้ทำขึ้นแล้วนำไปใส่กรอบโลหะติดไว้กับรถจักรยานยนต์ของจำเลย ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการขอหมายเลขทะเบียนจากทางราชการ เมื่อแผ่นป้ายดังกล่าวมิได้ทำขึ้นด้วยแผ่นโลหะเช่นของทางราชการ ทั้งยังปรากฏข้อความว่า คุ้มครองป้ายทะเบียนและห้างหุ้นส่วนจำกัดรวมการช่างผู้ถือสิทธิบัตรเลขที่ 1091 อยู่ด้วย อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นป้ายที่ใช้เป็นตัวอย่างในการโฆษณาการจัดทำป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายของห้างร้านผู้จัดทำจำหน่าย กรณีจึงมิใช่การทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่า เป็นเอกสารที่แท้จริง เอกสารดังกล่าวจึงมิใช่เอกสารปลอม แม้จำเลยจะนำเอกสารนั้นไปติดไว้กับรถจักรยานยนต์ จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม