พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,393 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5503/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ และการฎีกาที่ไม่อาจทำได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 ซึ่งโจทก์ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าวแล้ว ต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 ดังนั้น คำร้องของโจทก์ที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์เท่ากับเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์นั่นเอง เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยคำร้องของโจทก์ที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นจึงเป็นการไม่ชอบ และเมื่อเป็นกรณีเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ซึ่งถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์จึงฎีกาต่อมาอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5503/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ที่ต้องห้ามและการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ กรณีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้ว
คดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ซึ่งโจทก์ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 คำร้อง ของ โจทก์ ที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งไม่รับอุทธรณ์นั้น เท่ากับเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคำร้องดังกล่าวของโจทก์อีก จึงเป็นการไม่ชอบและเมื่อเป็นกรณีเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้นโจทก์จึงฎีกาต่อมาอีกไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5476/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีต้องดำเนินการต่อเนื่องภายใน 10 ปีนับจากวันมีคำพิพากษา มิใช่แค่นำยื่นคำขอออกหมายบังคับคดี
คำว่า ร้องขอให้บังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271หาได้มีความหมายแต่เพียงว่ายื่นคำขอต่อศาลเพื่อออกหมายบังคับคดีเท่านั้นไม่ แต่มีความหมายรวมไปถึงหน้าที่อื่น ๆที่ผู้ขอให้บังคับคดีจึงพึงต้องกระทำเพื่อต้องกระทำเพื่อให้การบังคับคดีดำเนินไปได้อีกด้วย โจทก์ร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2521 แล้วมิได้ดำเนินการใด ๆ ใน ทางบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 อีกเลย คงแถลงต่อเจ้าพนักงาน บังคับคดีให้ยึดแต่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เท่านั้น โจทก์เพิ่มจะมาร้องขอ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ ของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2533 และนำเจ้าพนักงาน บังคับคดีไปยึดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2533 ซึ่งพ้นสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะบังคับคดี แก่ทรัพย์ของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5444/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องหมายการค้าปลอม แม้มีเครื่องหมายการค้าของจำเลย ก็ไม่ทำให้เครื่องหมายการค้าปลอมกลายเป็นของแท้
ถุงเท้าที่มีการนำตราเครื่องหมายการค้าปลอมของผู้เสียหายติดอยู่บริเวณข้อเท้า ถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 แล้ว ถึงแม้จะมีตราฉลากเครื่องหมายการค้าของจำเลยติดอยู่ด้วย ก็หาทำให้เครื่องหมายการค้าปลอมของผู้เสียหายที่ติดอยู่กลับเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5444/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินค้าติดเครื่องหมายการค้าปลอม แม้มีเครื่องหมายการค้าของจำเลย ก็ยังคงเป็นสินค้าปลอมตามกฎหมาย
การที่ถุงเท้าของกลางมีเครื่องหมายการค้าปลอมของผู้เสียหายติดอยู่ แม้จะมีเครื่องหมายการค้าของจำเลยติดอยู่ด้วย ก็หาทำให้เครื่องหมายการค้าปลอมที่ติดอยู่กลับเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงไม่ และถุงเท้าดังกล่าวย่อมถือเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 275 ประกอบมาตรา 273 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: ปฏิเสธการป้องกันตัว
จำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน ในคืนเกิดเหตุจำเลยได้พกมีดปลายแหลมของกลางติดตัวไปในงานเลี้ยงทำขวัญนาคที่บ้าน ส.แล้วจำเลยใช้มีดเล่มดังกล่าวแทงผู้ตาย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกแทงผู้ตายที่ชายโครงขวาด้านหลังด้านนอกซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญเป็นแผลแรก ขณะที่ผู้ตายยังไม่รู้ตัวและไม่ได้ต่อสู้ เมื่อผู้ตายรู้ตัวหันมาหาจำเลย ก็ถูกแทงเป็นแผลที่สองที่ชายโครงซ้ายด้านหน้าซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญอีกเช่นกันเป็นแผลฉกรรจ์ถึงขนาดลำไส้ทะลักออกมาให้เห็นและไม่อาจต่อสู้ได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยแทงผู้ตายเต็มแรงเพียงฝ่ายเดียว โดยผู้ตายไม่มีโอกาสต่อสู้ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว แต่ฟังได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: พฤติการณ์การแทงผู้ตาย 2 ครั้งบ่งชี้เจตนาฆ่า
จำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน ในคืนเกิดเหตุจำเลยได้พกมีดปลายแหลมของกลางติดตัวไปในงานเลี้ยงทำขวัญนาค ที่บ้าน ส. แล้วจำเลยใช้มีดเล่มดังกล่าวแทงผู้ตาย 2 ครั้งโดยครั้งแรกแทงผู้ตายที่ชายโครงขวาด้านหลังด้านนอก ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญเป็นแผลแรก ขณะที่ผู้ตายยังไม่รู้ตัว และไม่ได้ต่อสู้ เมื่อผู้ตายรู้ตัวหันมาหาจำเลย ก็ถูกแทง เป็นแผลที่สองที่ชายโครงซ้ายด้านหน้าซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ อีกเช่นกันเป็นแผลฉกรรจ์ถึงขนาดลำไส้ทะลักออกมาให้เป็น และไม่อาจต่อสู้ได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยแทงผู้ตายเต็มแรง เพียงฝ่ายเดียว โดยผู้ตายไม่มีโอกาสต่อสู้ ฟังไม่ได้ว่า จำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว แต่ฟังได้ว่าจำเลย แทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4772/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้และอ้างเอกสารราชการปลอม การปลอมแปลงและใช้ตราประทับปลอม
เมื่อจำเลยเป็นคนนำใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมไปมอบให้ ช.โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเอกสารปลอม และใบอนุญาตขับรถยนต์ดังกล่าวได้มีรอยตราประทับของกรมการขนส่งทางบกซึ่งมิใช่รอยตราประทับที่แท้จริง จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้รอยตราปลอมและการที่จำเลยรับจะเป็นคนติดต่อทำใบอนุญาตขับรถยนต์ให้แก่ผู้ประสงค์จะมีใบอนุญาตดังกล่าวโดยไม่ต้องผ่านการสอบของกรมการขนส่งทางบกย่อมหมายความว่าจำเลยสามารถจะนำใบอนุญาตที่แท้จริงมาให้แก่บุคคลดังกล่าวได้เมื่อจำเลยนำใบอนุญาตปลอมมาให้จึงเท่ากับเป็นการอ้างแก่บุคคลเหล่านั้นว่าเป็นเอกสารราชการที่แท้จริง จำเลยจึงมีความผิดฐานอ้างเอกสารราชการปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4529/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดท้าทายชกต่อยเจ้าพนักงานสรรพสามิต ไม่ถือเป็นการดูหมิ่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136
หลังจากผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตยึดสุราของจำเลยไปแล้ว จำเลยตามไปที่ห้องเปรียบเทียบปรับกรมสรรพสามิต จำเลยพูดกับผู้เสียหายว่าพวกมึงเก่งแต่จับเหล้าไปต่อยกับกูข้างนอกไหมเป็นคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเป็นการพูดเปรยขึ้นมาเพื่อประชดประชันผู้เสียหายโดยเจตนาท้าทายผู้เสียหายให้ออกไปชกต่อยกับจำเลยเท่านั้นหาใช่เป็นการเหยียดหยามดูหมิ่นผู้เสียหายไม่ จึงไม่ผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4462/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด การพิจารณาจากบาดแผลและผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ
จำเลยใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 4-5 นิ้ว แทงผู้เสียหายที่ชายโครงทำให้เส้นเลือดใหญ่ในช่องท้องของผู้เสียหายฉีกขาด มีบาดแผลถูกลำไส้ใหญ่ 2 แผล และมีเลือดออกในช่องท้องมาก แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80