คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสริม บุญทรงสันติกุล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 569 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4867/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ไปให้การตามนัดสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ทำให้หมดสิทธิเสนอพยานหลักฐานต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้ขอเลื่อนการสอบสวนตามคำขอรับชำระหนี้ โดยอ้างว่ายังหาเอกสารที่จะใช้ประกอบการสอบสวนไม่พบ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เลื่อนวันนัดสอบสวนเจ้าหนี้ไปตามที่เจ้าหนี้ขอ แต่ถึงวันนัดเจ้าหนี้ไม่ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ย่อมถือได้ว่าเจ้าหนี้ไม่ติดใจให้การสอบสวนและส่งเอกสารประกอบคำให้การ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์งดการสอบสวนพยานหลักฐานของเจ้าหนี้ได้
เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อพิสูจน์ว่าหนี้ดังกล่าวมีอยู่จริง เมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์งดการสอบสวนพยานหลักฐานของเจ้าหนี้โดยชอบแล้ว เจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิเสนอพยานหลักฐาน และในชั้นสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลชั้นต้นย่อมไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรับพยานหลักฐานนั้นไว้แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้โดยไม่พิจารณาพยานหลักฐานที่เจ้าหนี้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4867/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามกำหนด และผลต่อการเสนอพยานหลักฐานในคดีล้มละลาย
เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อพิสูจน์ว่าหนี้ดังกล่าวมีอยู่จริงเมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์งดการสอบสวนพยานหลักฐานของเจ้าหนี้โดยชอบแล้วเจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิเสนอพยานหลักฐานและในชั้นสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ศาลชั้นต้นย่อมไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรับพยานหลักฐานนั้นไว้แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้โดยไม่พิจารณาพยานหลักฐานที่เจ้าหนี้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4867/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำหลักฐานในคำขอรับชำระหนี้, การงดสอบสวน, ศาลไม่มีอำนาจรับเอกสารแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
การสอบสวนเรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อพิสูจน์ให้ได้ความตามข้ออ้างของตนว่าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้มีอยู่จริงเมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์งดการสอบสวนพยานหลักฐานของเจ้าหนี้โดยชอบแล้วเจ้าหนี้ย่อมหมดสิทธิที่จะเสนอเอกสารเป็นพยานหลักฐานของตนต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในภายหลังได้อีก ในชั้นสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะคับพยานหลักฐานแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์การที่เจ้าหนี้เสนอพยานหลักฐานต่อศาลชั้นต้นเพื่อให้ศาลชั้นต้นส่งไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา105การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไปโดยไม่พิจารณาพยานหลักฐานที่เจ้าหนี้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4859/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากไฟฟ้าดูดในสวนสาธารณะ และการประเมินค่าเสียหายจากการบาดเจ็บถาวร
ว. และจำเลยที่ 1 ต่างทำหน้าที่ในสวนสาธารณะที่เกิดเหตุของเทศบาลจำเลยที่ 3 ได้เสียบ ปลั๊กและปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันหนูไม่ให้มากัดทำลายต้นกล้าไม้ในสวนซึ่งเป็นของจำเลยที่ 3 เป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของ จำเลยที่ 3 ถือว่าเป็นงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3 ส. เป็นเพียงผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชาย น. ในการดำเนินคดีแทนเด็กชาย น. มิได้เป็นโจทก์ในฐานะส่วนตัวจำเลยที่ 3 จะอ้างการกระทำของ ส. ซึ่งมิได้เป็นผู้ต้องเสียหายเพื่อให้พ้นความรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 หาได้ไม่ เด็กชาย น. ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายถึงสมองฝ่อเป็นอัมพาต ตลอดชีวิต พูดไม่ได้ ย่อมจะต้องได้รับการดูแลรักษาในสภาพที่ป่วยเจ็บจนกว่าจะถึงแก่ความตาย ตามสภาพเช่นนี้ค่าดูแลรักษาที่จะต้องใช้จ่ายต่อไปจึงมีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายอันต้องเสียไปอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดให้เสียหายแก่ร่างกายในอนาคตและเด็กชาย น. ย่อมเสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงทั้งในเวลาปัจจุบันและในเวลาอนาคตโจทก์ชอบที่จะเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยทั้งสามได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4859/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากไฟฟ้าดูดในสวนสาธารณะ และการคำนวณค่าเสียหายจากการบาดเจ็บทางร่างกายถาวร
โจทก์ได้รับบรรยายฟ้องถึงที่มาของค่าเสียหายว่าเป็นค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ส. โรงพยาบาล ห. และที่บ้านเป็นเงินรวม100,000บาทเป็นการบรรยายในรายละเอียดแล้วส่วนหลักฐานใบเสร็จรับเงินโจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ฟ้องโจทก์ในส่วนเรียกค่าเสียหายไม่เคลือบคลุม ว. และจำเลยที่1ต่างทำหน้าที่ในสวนสาธารณะของจำเลยที่3การเสียบปลั๊กและปล่อยกระแสไฟฟ้าก็เพื่อป้องกันหนูมิให้กัดทำลายต้นกล้าไม้ในสวนอันเป็นของจำเลยที่3ย่อมเป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่3เป็นงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่3 จำเลยที่3มิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ว่าจำเลยที่1มิได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อและจำเลยที่2กระทำไปโดยพลการจำเลยที่3ฎีกาในข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกคำให้การศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ส. บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมดำเนินคดีแทนเด็กชาย ส. มิได้เป็นโจทก์ในฐานะส่วนตัวจำเลยที่3จะอ้างเอาการกระทำของ ส.มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้พ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา442ประกอบด้วยมาตรา223หาได้ไม่ เด็กชาย ส. ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายถึงสมองฝ่อเป็นอัมพาตตลอดชีวิตพูดไม่ได้ย่อมจะต้องได้รับการดูแลรักษาในสภาพที่ป่วยเจ็บจนกว่าจะถึงแก่ความตายค่าดูแลรักษาที่จะต้องใช้จ่ายต่อไปจึงมีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดให้เสียหายแก่ร่างกายในอนาคตนั่นเองและเด็กชาย ส.ย่อมเสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคตโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา444วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4859/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิด - ค่าเสียหายต่อเนื่อง - ความรับผิดของผู้กระทำละเมิด
โจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงที่มาของค่าเสียหายว่าเป็นค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ส.โรงพยาบาล ห. และที่บ้านเป็นเงินรวม 100,000 บาทเป็นการบรรยายในรายละเอียดแล้ว ส่วนหลักฐานใบเสร็จรับเงินโจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์ในส่วนเรียกค่าเสียหายไม่เคลือบคลุม
ว.และจำเลยที่ 1 ต่างทำหน้าที่ในสวนสาธารณะของจำเลยที่ 3การเสียบปลั๊กและปล่อยกระแสไฟฟ้าก็เพื่อป้องกันหนูมิให้กัดทำลายต้นกล้าไม้ในสวนอันเป็นของจำเลยที่ 3 ย่อมเป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 3 เป็นงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 มิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ว่า จำเลยที่ 1 มิได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อ และจำเลยที่ 2 กระทำไปโดยพลการ จำเลยที่ 3 ฎีกาในข้อนี้ จึงเป็นฎีกานอกคำให้การ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ส. บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมดำเนินคดีแทนเด็กชาย ส. มิได้เป็นโจทก์ในฐานะส่วนตัว จำเลยที่ 3 จะอ้างเอาการกระทำของ ส.มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้พ้นความรับผิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 หาได้ไม่
เด็กชาย ส.ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายถึงสมองฝ่อเป็นอัมพาตตลอดชีวิต พูดไม่ได้ ย่อมจะต้องได้รับการดูแลรักษาในสภาพที่ป่วยเจ็บจนกว่าจะถึงแก่ความตาย ค่าดูแลรักษาที่จะต้องใช้จ่ายต่อไปจึงมีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดให้เสียหายแก่ร่างกายในอนาคตนั่นเอง และเด็กชาย ส.ย่อมเสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคตโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายดังกล่าวได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 444 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4859/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากไฟฟ้าดูด: นายจ้างต้องรับผิดชอบการกระทำของลูกจ้าง และค่าเสียหายจากการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง
ว. และจำเลยที่1ต่างทำหน้าที่ในสวนสาธารณะที่เกิดเหตุของเทศบาลจำเลยที่3ได้เสียบปลั๊กและปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันหนูไม่ให้มากัดทำลายต้นกล้าไม้ในสวนซึ่งเป็นของจำเลยที่3เป็นการทำงานเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่3ถือว่าเป็นงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่3 ส. เป็นเพียงผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชายน. ในการดำเนินคดีแทนเด็กชายน. มิได้เป็นโจทก์ในฐานะส่วนตัวจำเลยที่3จะอ้างการกระทำของส. ซึ่งมิได้เป็นผู้ต้องเสียหายเพื่อให้พ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา442ประกอบด้วยมาตรา223หาได้ไม่ เด็กชายน.ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายถึงสมองฝ่อเป็นอัมพาตตลอดชีวิตพูดไม่ได้ย่อมจะต้องได้รับการดูแลรักษาในสภาพที่ป่วยเจ็บจนกว่าจะถึงแก่ความตายตามสภาพเช่นนี้ค่าดูแลรักษาที่จะต้องใช้จ่ายต่อไปจึงมีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายอันต้องเสียไปอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดให้เสียหายแก่ร่างกายในอนาคตและเด็กชายน. ย่อมเสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงทั้งในเวลาปัจจุบันและในเวลาอนาคตโจทก์ชอบที่จะเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากจำเลยทั้งสามได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา444วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยตรงและลำดับทายาท: ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
เมื่อผ. ถึงแก่ความตายทรัพย์มรดกของผ. จึงตกได้แก่บุตรทั้งหกคนของผ. แต่ยังไม่ทันที่จะจัดการแบ่งทรัพย์มรดกกันระหว่างทายาทล. ก็ถึงแก่ความตายเสียก่อนทรัพย์มรดกส่วนที่เป็นของล. จึงตกได้แก่ผู้คัดค้านที่1ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1599กรณีเป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่1ได้รับมรดกของล. โดยตรงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่1เข้ารับมรดกแทนที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1639ผู้คัดค้านที่1จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผ. ผู้ตายชอบที่จะร้องขอให้จัดการมรดกของผ. ผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยตรงของทายาทเมื่อทายาทก่อนเสียชีวิตและสิทธิในการจัดการมรดก
เมื่อ ผ. ถึงแก่ความตายทรัพย์มรดกของ ผ. จึงตกได้แก่บุตรทั้งหกคนของ ผ. แต่ยังไม่ทันที่จะจัดการแบ่งทรัพย์มรดกกันระหว่างทายาท ล.ก็ถึงแก่ความตายเสียก่อน ทรัพย์มรดกส่วนที่เป็นของ ล. จึงตกได้แก่ผู้คัดค้านที่ 1ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 กรณีเป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับมรดกของ ล.โดยตรง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้คัดค้านที่ 1 เข้ารับมรดกแทนที่ ตาม ป.พ.พ. มาตรา1639 ผู้คัดค้านที่ 1 จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของ ผ. ผู้ตาย ชอบที่จะร้องขอให้จัดการมรดกของ ผ.ผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3718/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัว ระงับเมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรม สิทธิไม่ตกทอดไปยังทายาท
การร้องขอให้ศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกโดยสภาพเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ร้องเมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายสิทธินั้นย่อมระงับไม่ตกทอดไปยังทายาทฉะนั้น จ. ซึ่งเป็น ทายาทผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนผู้ร้องหาได้ไม่เมื่อไม่อาจเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ได้ จ. จึงเป็น บุคคลนอกคดีไม่อยู่ในฐานะที่จะฎีกาได้
of 57