พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องฐานชิงทรัพย์-พยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339,288,80 โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายหลายครั้งจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บความผิดฐานชิงทรัพย์ นั้นมีการกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายรวมอยู่ด้วย แม้ข้อเท็จจริงจะไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์คงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยได้ร่วมทำร้ายผู้เสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดข่มขืนใจ กรรโชกทรัพย์ และความรับผิดร่วมกันของจำเลยหลายคนในการชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องความผิดตามป.อ.มาตรา148,339ว่าจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบข่มขืนใจกรรโชกให้ผู้เสียหายมอบเนื้อกระบือชำแหละแล้ว140กิโลกรัมให้แก่จำเลยกับพวกมิฉะนั้นจำเลยกับพวกจะยึดเนื้อกระบือชำแหละแล้ว500กิโลกรัมไปตรวจสอบและจะจับกุมผู้เสียหายกับพวกดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้วโจทก์ไม่จำต้องระบุในฟ้องว่าจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาทุจริต กรณีที่มีจำเลยหลายคนร่วมกันกระทำความผิดการบังคับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ต้องบังคับตามป.พ.พ.มาตรา432ซึ่งจำเลยแต่ละคนจะต้องชำระหนี้ทั้งหมดโดยสิ้นเชิงอันมีฐานะเช่นเดียวกับลูกหนี้ร่วม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้ไขเพียงการริบของกลาง ไม่กระทบโทษจำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อยขัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงว่าไม่ริบอาวุธปืนลูกโม่พร้อมด้วยกระสุนปืน5นัดกับปลอกกระสุนปืน1ปลอกของนายช.ไม่ได้แก้บทแก้โทษที่ลงแก่จำเลยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากแก้ไขเล็กน้อย การริบของกลาง ไม่กระทบโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงว่า ไม่ริบอาวุธปืนลูกโม่พร้อมด้วยกระสุนปืน 5 นัด กับปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกของนาย ช. ไม่ได้แก้บทแก้โทษที่ลงแก่จำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2118/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิดชิงทรัพย์จนผู้อื่นถึงแก่ความตาย: ความรับผิดของผู้ให้ความช่วยเหลือ
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก2คนร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นตายปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ช่วยวางแผนให้คนร้าย2คนไปกระทำผิดในสวนยางและขณะคนร้าย2คนไปกระทำความผิดตามแผนที่วางแผนไว้จำเลยยืนอยู่นอกสวนยางห่างสวนยางชั่วระยะตะโกนกันได้ยินในช่วงระยะเวลาที่คนร้าย2คนดังกล่าวกระทำความผิดนางสาวอ.บุตรผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ผ่านจำเลยเข้าไปในสวนยางที่เกิดเหตุจำเลยก็มิได้ส่งสัญญาณให้คนร้าย2คนดังกล่าวทราบหรือเข้าช่วยคนร้าย2คนนั้นคงยืนอยู่เฉยๆเมื่อคนร้าย2คนนั้นกระทำความผิดตามที่วางแผนไว้สำเร็จแล้วคนร้ายคนหนึ่งหลบหนีไปทางอื่นคนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายผ่านหน้าจำเลยไปแล้วจำเลยก็กลับบ้านการกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับคนร้าย2คนนั้นโดยแบ่งหน้าที่กันทำแต่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่คนร้าย2คนดังกล่าวกระทำความผิดจำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของคนร้าย2คนดังกล่าว. เมื่อปรากฏว่าคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไปจนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายมี2คนการกระทำของคนร้าย2คนดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339วรรคท้าย. เสื้อแจกเกตของคนร้ายที่ทิ้งไว้รวมกับบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ตายที่คนร้ายชิงไปถือไม่ได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดนอกจากนี้เสื้อดังกล่าวยังมิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดศาลจะริบเสื้อดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2118/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาแก้โทษและไม่ริบเสื้อของกลาง
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก 2 คน ร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นตายปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ช่วยวางแผนให้คนร้าย 2 คน ไปกระทำผิดในสวนยางและขณะคนร้าย 2 คน ไปกระทำความผิดตามแผนที่วางแผนไว้ จำเลยยืนอยู่นอกสวนยางห่างสวนยางชั่วระยะตะโกนกันได้ยิน ในช่วงระยะเวลาที่คนร้าย 2 คน ดังกล่าวกระทำความผิด อ. บุตรผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ผ่านจำเลยเข้าไปในสวนยางที่เกิดเหตุ จำเลยก็มิได้ส่งสัญญาณให้คนร้าย 2 คน ดังกล่าวทราบหรือเข้าช่วยคนร้าย 2 คนนั้น คงยืนอยู่เฉย ๆ เมื่อคนร้าย 2 คนนั้นกระทำความผิดตามที่วางแผนไว้สำเร็จแล้วคนร้ายคนหนึ่งหลบหนีไปทางอื่น คนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายผ่านหน้าจำเลยไปแล้วจำเลยก็กลับบ้าน การกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับคนร้าย 2 คนนั้น โดยแบ่งหน้าที่กันทำ แต่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่คนร้าย 2 คนดังกล่าวกระทำความผิด จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของคนร้าย 2 คนดังกล่าว
เมื่อปรากฏว่าคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไปจนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายมี 2 คน การกระทำของคนร้าย 2 คนดังกล่าว จึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคท้าย
เสื้อแจกเกตของคนร้ายที่ทิ้งไว้รวมกับบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ตายที่คนร้ายชิงไปถือไม่ได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด นอกจากนี้เสื้อดังกล่าวยังมิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิด ศาลจะริบเสื้อดังกล่าวไม่ได้
เมื่อปรากฏว่าคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ไปจนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายมี 2 คน การกระทำของคนร้าย 2 คนดังกล่าว จึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคท้าย
เสื้อแจกเกตของคนร้ายที่ทิ้งไว้รวมกับบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ตายที่คนร้ายชิงไปถือไม่ได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด นอกจากนี้เสื้อดังกล่าวยังมิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิด ศาลจะริบเสื้อดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: พฤติการณ์นำทรัพย์ชิงทรัพย์ไปจำนำโดยไม่มีเอกสาร และให้การขัดแย้งในชั้นสอบสวน เป็นเหตุเชื่อได้ว่ารู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด
จำเลยมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์ได้นำรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายซึ่งถูกชิงทรัพย์ไปจำนำโดยมิได้นำทะเบียนรถไปแสดงเมื่อถูกกล่าวหาก็อ้างแต่เพียงว่าเป็นรถของส.โดยมิได้นำตัวส.มาสืบดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ช่วยจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำผิดอันเป็นความผิดฐานรับของโจรแม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339ก็ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรตามมาตรา357ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192.(ที่มา-เนติฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์เน้นค้นหาทรัพย์สิน แม้มีข่มขู่ทำร้าย ถือเป็นความผิดพยายามชิงทรัพย์ ไม่ใช่ความผิดฐานอนาจาร
จำเลยใช้มีดปลายแหลมจี้คอผู้เสียหายพร้อมกับขู่ไม่ให้ร้องมิฉะนั้นจะปล้ำเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามก็โยนเหล็กปลายแหลมทิ้งแล้วกอดผู้เสียหายไว้ใช้มือคลำคอผู้เสียหายถามหาสร้อยคอเมื่อทราบว่าไม่มีก็ถามถึงแหวนที่ผู้เสียหายสวมอยู่พอทราบว่าเป็นของปลอมก็ปล่อยมือจากการกอดผู้เสียหายวิ่งหนีไปได้พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้เสียหายเป็นสำคัญเพราะเสาะหาแต่สร้อยคอกับแหวนเท่านั้นการที่จำเลยใช้เหล็กปลายแหลมขู่จะปล้ำผู้เสียหายก็ดีกอดตัวผู้เสียหายเมื่อค้นหาทรัพย์ก็ดีเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและใช้กำลังประทุษร้ายตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา339การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์6ปี8เดือนฐานกระทำอนาจาร4เดือนรวมจำคุก7ปี2เดือนและลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี7เดือนยังไม่ถูกต้องเมื่อรวมโทษแล้วต้องเป็นจำคุก7ปีลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี6เดือนปัญหาข้อนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาแต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ให้ถูกต้องได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามชิงทรัพย์: การประสงค์ต่อทรัพย์เป็นสำคัญ แม้มีการข่มขู่และลวนลาม
จำเลยใช้มีดปลายแหลมจี้คอผู้เสียหายพร้อมกับขู่ไม่ให้ร้องมิฉะนั้นจะปล้ำเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามก็โยนเหล็กปลายแหลมทิ้งแล้วกอดผู้เสียหายไว้ใช้มือคลำคอผู้เสียหายถามหาสร้อยคอเมื่อทราบว่าไม่มีก็ถามถึงแหวนที่ผู้เสียหายสวมอยู่พอทราบว่าเป็นของปลอมก็ปล่อยมือจากการกอดผู้เสียหายวิ่งหนีไปได้พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้เสียหายเป็นสำคัญเพราะเสาะหาแต่สร้อยคอกับแหวนเท่านั้นการที่จำเลยใช้เหล็กปลายแหลมขู่จะปล้ำผู้เสียหายก็ดีกอดตัวผู้เสียหายเมื่อค้นหาทรัพย์ก็ดีเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและใช้กำลังประทุษร้ายตามความหมายแห่งป.อ.มาตรา339การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์6ปี8เดือนฐานกระทำอนาจาร4เดือนรวมจำคุก7ปี2เดือนและลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี7เดือนยังไม่ถูกต้องเมื่อรวมโทษแล้วต้องเป็นจำคุก7ปีลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี6เดือนปัญหาข้อนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาแต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทลงโทษฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องฟังว่าการตายเกิดจากการชิงทรัพย์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยมีส่วนกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ของผู้ตายในเวลากลางคืน ไม่พอฟังว่าผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะเหตุถูกชิงทรัพย์และปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง โจทก์ไม่อุทธรณ์ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ หรือในการชิงทรัพย์ครั้งนี้เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการตายของผู้ตายจึงต้องฟังตามที่ศาลชั้นต้นฟังว่าผู้ตายมิได้ถึงแก่ความตายเพราะเหตุถูกชิงทรัพย์ครั้งนี้ แม้คดีจะน่าเชื่อว่าจำเลยฆ่าผู้ตายเพื่อความสะดวกในการชิงทรัพย์และได้ชิงเอาเงิน 19,500 บาท ของผู้ตายไปก็จะปรับบทเป็นความผิดตามมาตรา 339 วรรคห้าไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักเอาเงินสด 19,500 บาทของผู้ตายไปโดยใช้ไม้ตีและมีดแทงผู้ตายหลายแห่งโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ และนำสืบเช่นนั้น แต่ศาลชั้นต้นฟังพยานหลักฐานของโจทก์แต่เพียงว่าจำเลยมีส่วนในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ และไม่ฟังว่าการตายของผู้ตายเกิดจากการชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นการที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงของคู่ความว่าจะเชื่อได้เพียงใดมิใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักเอาเงินสด 19,500 บาทของผู้ตายไปโดยใช้ไม้ตีและมีดแทงผู้ตายหลายแห่งโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ และนำสืบเช่นนั้น แต่ศาลชั้นต้นฟังพยานหลักฐานของโจทก์แต่เพียงว่าจำเลยมีส่วนในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ และไม่ฟังว่าการตายของผู้ตายเกิดจากการชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นการที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงของคู่ความว่าจะเชื่อได้เพียงใดมิใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง