คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 339

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1836/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีตัวการร่วม การรู้เห็นเป็นใจและการร่วมวางแผนกระทำผิด
จำเลยเข้าชกต่อยทำร้ายผู้เสียหาย แล้วแย่งเอากระเป๋าถือของผู้เสียหายวิ่งไปขึ้นรถแทกซี่ซึ่งจอดรออยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 15 เมตร ในรถมีคนนั่งรออยู่ 2 คน คือคนขับรถและอีกคนหนึ่งซึ่งแต่งกายเป็นสตรี การที่คนแต่งกายเป็นสตรีนั่งรอจำเลยอยู่ในรถแท็กซี่ของกลางพร้อมคนขับใกล้ชิดกับที่เกิดเหตุ เฝ้าดูการกระทำของจำเลยตลอดเวลา และหนีไปพร้อมกับจำเลยหลังเกิดเหตุ ทั้งเมื่อพยานโจทก์ขับรถจักรยานยนต์ติดตามเข้าไปใกล้จำเลยและคนแต่งกายเป็นสตรีหันมามองพยานโจทก์ แสดงถึงความไม่พอใจที่มีคนติดตามมานั้น พฤติการณ์บ่งชัดว่าคนแต่งกายเป็นสตรีคน ขับรถ และจำเลยรู้เห็นคบคิดร่วมกันมาก่อนคนแต่งกายเป็นสตรีจึงเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วย จำเลยต้องมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์ด้วยการขู่เข็ญ: การแย่งเงินจากผู้ถูกข่มขู่ ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ แม้เงินยังไม่ได้ส่งมอบ
จำเลยบังคับให้ บ. ยืมเงิน ท. มาให้จำเลย การที่จำเลยถือปืนขู่ บ. เป็นการขู่ ท. อยู่ในตัว ท. หยิบเงินออกมายังไม่ทันส่งมอบแก่ บ. จำเลยเอาเงินไปจากมือ ท. เป็นชิงทรัพย์ ท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์ต้องใช้กำลังประทุษร้ายหรือข่มขู่ หากไม่มีองค์ประกอบนั้นเข้าข่ายลักทรัพย์
จำเลยขึ้นไปบนเรือนผู้เสียหายแล้วลักเอานกเขาพร้อมกรงของผู้เสียหายนางสาวดำเห็นเข้าจึงเข้าแย่งกรงนั้นแต่สู้กำลังจำเลยไม่ได้ จำเลยจึงแย่งเอากรงและนกเขาของผู้เสียหายไปได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ เพราะจำเลยไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้ายแก่กายหรือจิตใจของนางสาวดำแต่ประการใด จำเลยคงมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ vs. ชิงทรัพย์: การใช้กำลังแย่งทรัพย์โดยไม่ประทุษร้ายกายจิตใจ
จำเลยขึ้นไปบนเรือนผู้เสียหายแล้วลักเอานกเขาพร้อมกรงของผู้เสียหายนางสาวดำเห็นเข้าจึงเข้าแย่งกรงนั้นแต่สู้กำลังจำเลยไม่ได้ จำเลยจึงแย่งเอากรงและนกเขาของผู้เสียหายไปได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เพราะจำเลยไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้ายแก่กาย หรือจิตใจของนางสาวดำแต่ประการใด จำเลยคงมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญเพื่อเรียกทรัพย์สินในอนาคต ไม่ถือเป็นความพยายามชิงทรัพย์
จำเลยขอเงินโดยขู่ว่าถ้าไม่ให้จะเผาบ้าน จะขว้างลูกระเบิด ห้ามแจ้งตำรวจมิฉะนั้นจะทำร้าย แสดงว่าไม่ใช่ทำร้ายในทันใดนั้น แต่จะทำร้ายในภายหน้า ไม่เป็นชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์กับชิงทรัพย์: การลงโทษฐานชิงทรัพย์เมื่อไม่ฟังว่าร่วมปล้นทรัพย์
องค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ก็คือองค์ความผิดฐานชิงทรัพย์ที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ฟ้องโจทก์ในความผิดฐานปล้นทรัพย์จึงคลุมถึงการกระทำในความผิดฐานชิงทรัพย์ด้วย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันปล้นทรัพย์เมื่อศาลไม่ฟังว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดด้วย แต่ฟังว่าจำเลยที่ 2 กับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ของผู้เสียหาย ศาลย่อมลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานชิงทรัพย์ได้ ไม่เป็นการลงโทษไม่ตรงต่อฐานความผิด
การที่ศาลไม่ฟังว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดด้วยนั้นเป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่ใช่เหตุในส่วนลักษณะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินมีผลต่อความผิดฐานชิงทรัพย์ แม้มีพฤติการณ์ข่มขู่
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ท.ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ยกเครื่องเลื่อยพิพาทให้ผู้เสียหายเพื่อตีใช้หนี้นั้นยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กับจำเลย และ ท.หาได้ยกเครื่องเลื่อยให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายไม่ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายจึงไม่ใช่เจ้าของหรือเจ้าของรวมในเครื่องเลื่อยรายพิพาท แต่กลับฟังได้ว่าเป็นของจำเลย ฉะนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยยกปืนจ้องไปทาง ป.ซึ่งครอบครองเลื่อยของจำเลยเป็นทำนองมิให้ขัดขวาง เพราะ ป.ไม่ยอมให้แล้วจำเลยเอาเครื่องเลื่อยไปเช่นนี้ หาเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและการชิงทรัพย์: ผู้ครอบครองไม่ใช่เจ้าของจึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ท.ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ยกเครื่องเลื่อยพิพาทให้ผู้เสียหายเพื่อตีใช้หนี้นั้นยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กับจำเลย และท.หาได้ยกเครื่องเลื่อยให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายไม่ ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายจึงไม่ใช่เจ้าของหรือเจ้าของรวมในเครื่องเลื่อยรายพิพาท แต่กลับฟังได้ว่าเป็นของจำเลย ฉะนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยยกปืนจ้องไปทาง ป.ซึ่งครอบครองเครื่องเลื่อยของจำเลย เป็นทำนองมิให้ขัดขวางเพราะป.ไม่ยอมให้แล้วจำเลยเอาเครื่องเลื่อยไปเช่นนี้ หาเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิ่งราวทรัพย์ vs. ลักทรัพย์: การแย่งทรัพย์สินและคำขู่ที่ไม่ชัดเจน
จำเลยลูบคลำตามเสื้อกางเกงผู้เสียหาย และพูดขอแว่นตาที่ผู้เสียหายสวมอยู่ ผู้เสียหายไม่ให้จำเลยแย่งแว่นตาไปจากผู้เสียหายผู้เสียหายแย่งคืนมาได้ จำเลยแย่งไปได้อีกแล้วพูดว่าถ้าเอ็งมีอาวุธกูแทงเสียแล้ว และเอามือล้วงใต้เสื้อตรงขอบกางเกงหน้าท้อง ดังนี้เป็นการวิ่งราวแว่นตา แต่ไม่เป็นการขู่ว่าจะทำร้าย โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยฉกฉวยเอาทรัพย์ไปซึ่งหน้า ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ ศาลลงโทษแต่ฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการกระทำผิด ยิงผู้อื่น และขับรถหลบหนี
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันกระทำผิด โดยมาขอนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ อ. ขับขี่ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพวกของจำเลยสั่งให้หยุดแล้วใช้อาวุธปืนยิง อ. ที่ท้ายทอยตกจากรถจากนั้นจำเลยขับรถจักรยานยนต์พาพวกหลบหนีไป ดังนี้ จำเลยไม่ใช่ผู้กระทำผิดโดยมีหรือใช้อาวุธปืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี คงมีความผิดตามมาตรา 339 และ มาตรา 288,80,83 เท่านั้น
of 35