คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 339

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อาญา มาตรา 76 ต้องลดจากอัตราโทษขั้นสูง-ต่ำ ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลกำหนด
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76คือการลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งแล้วจึงลงโทษระหว่างนั้น หาใช่ศาลกำหนดโทษลงไว้ก่อนแล้วลดจากโทษที่กำหนดไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องลดจากอัตราโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่จากโทษที่ศาลกำหนด
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 คือการลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งแล้วจึงลงโทษระหว่างนั้น หาใช่ศาลกำหนดโทษลงไว้ก่อนแล้วลดจากโทษที่กำหนดไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและการป้องกันสิทธิ: การประเมินภยันตรายเฉพาะหน้าและการใช้สิทธิป้องกันตนเอง
น. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายจับกุมจำเลยใช้ปืนขู่บังคับจำเลยเพื่อจะพาไปหาผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างทางมีคนแย่งเอาปืนจาก น.ไปได้แล้ว จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟัน น. ถูกที่ศีรษะกลางหลังและบั้นเอวดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นป้องกัน
ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยชิงทรัพย์โดยใช้มีดขอฟันทำร้ายจนเกิดอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่มีเจตนาเอาทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและการป้องกันสิทธิ: การใช้ความรุนแรงหลังพ้นจากภยันตรายไม่ใช่การป้องกัน
น. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายจับกุมจำเลยใช้ปืนขู่บังคับจำเลยเพื่อจะพาไปหาผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างทางมีคนแย่งเอาปืนจาก น. ไปได้แล้ว จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟัน น. ถูกที่ศีรษะกลางหลังและบั้นเอวดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นป้องกัน
ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยชิงทรัพย์โดยใช้มีดขอฟันทำร้ายจนเกิดอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่มีเจตนาเอาทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่เข็ญเพื่อชิงทรัพย์ทำให้ความผิดฐานลักทรัพย์กลายเป็นปล้นทรัพย์
น้องชายเจ้าทรัพย์นำโคกระบือของเจ้าทรัพย์ไปเลี้ยง และมีคนอื่นหลายคนเลี้ยงโคกระบืออยู่ที่นั่นด้วย จำเลยกับพวกรวม 8 คนมาทักทายคนเลี้ยงโคกระบือ แล้วจำเลยกับพวกจูงโคของเจ้าทรัพย์ไป 1 ตัว และยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด โดยไม่ได้หันมามองดูน้องชายเจ้าทรัพย์ซึ่งอยู่ห่างราว 10 วา เช่นนี้แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนายิงปืนขู่เข็ญพวกคนเลี้ยงโคกระบือซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่เข็ญเพื่อชิงทรัพย์โค เปลี่ยนเป็นปล้นทรัพย์เนื่องจากมีคนร้ายหลายคนและใช้ปืน
น้องชายเจ้าทรัพย์นำโคกระบือของเจ้าทรัพย์ไปเลี้ยง และมีคนอื่นหลายคนเลี้ยงโคกระบืออยู่ที่นั่นด้วย จำเลยกับพวก รวม 8 คนมาทักทายคนเลี้ยงโคกระบือ แล้วจำเลยกับพวกจูงโคของเจ้าทรัพย์ไป 1 ตัวและยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด โดยไม่ได้หันมามองดูน้องชายเจ้าทรัพย์ซึ่งอยู่ห่างราว 10 วา เช่นนี้แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนายิงปืนขู่เข็ญพวกคนเลี้ยง โคกระบือซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดชิงทรัพย์ vs. ปล้นทรัพย์: การกระทำของจำเลยเป็นเอกเทศหรือไม่
จำเลยกับพวกอีก 3 คนร่วมกันลักโคของผู้เสียหายไป ผู้เสียหายกับชาวบ้านติดตามไปทันในระยะเวลากระชั้นชิดกันนั้นเอง พวกของจำเลยทั้ง 3 คนหลบหนีไปได้ก่อน คงเหลือแต่จำเลยผู้เดียวถูกผู้เสียหายกับชาวบ้านล้อมจับ จำเลยยิงปืนต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และใช้ปืนตีทำร้ายผู้เสียหายจนถูกจับไว้ได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเฉพาะตัว พวกของจำเลยมิได้ร่วมประทุษร้ายหรือขู่เข็ญผู้เสียหายกับพวกด้วย จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่หามีความผิดฐานปล้นทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์ vs. ปล้นทรัพย์: การกระทำเฉพาะตัวของผู้ต้องหา และการร่วมกระทำผิดของผู้อื่น
จำเลยกับพวกอีก 3 คนร่วมกันลักโคของผู้เสียหายไป ผู้เสียหายกับชาวบ้านติดตามไปทันในระยะเวลากระชั้นชิดกันนั้นเอง พวกของจำเลยทั้ง 3 คนหลบหนีไปได้ก่อน คงเหลือแต่จำเลยผู้เดียวถูกผู้เสียหายกับชาวบ้านล้อมจับ จำเลยยิงปืนต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และใช้ปืนตีทำร้ายผู้เสียหายจนถูกจับไว้ได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเฉพาะตัว พวกของจำเลยมิได้ร่วมประทุษร้ายหรือขู่เข็ญผู้เสียหายกับพวกด้วย จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่หามีความผิดฐานปล้นทรัพย์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการลดโทษ: ลดมาตราส่วนโทษก่อนกำหนดโทษตามอายุและเหตุบรรเทาโทษ
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 นั้น หมายความว่า ลดมาตราส่วนโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดที่จำเลยกระทำ (ก่อนกำหนดโทษจำเลย) มิใช่กำหนดโทษจำเลยเสียก่อน แล้วจึงลดมาตราส่วนโทษลง ส่วนมาตรา 54 นั้น เป็นเรื่องการคำนวณการเพิ่มโทษหรือลดโทษ (จากโทษที่ได้กำหนดแล้ว)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการลดโทษ: ลดมาตราส่วนก่อนกำหนดโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 76 และความแตกต่างจากมาตรา 54
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 นั้นหมายความว่าลดมาตราส่วนโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดที่จำเลยกระทำ (ก่อนกำหนดโทษจำเลย) มิใช่กำหนดโทษจำเลยเสียก่อนแล้วจึงลดมาตราส่วนโทษลง ส่วนมาตรา 54 นั้น เป็นเรื่องการคำนวณการเพิ่มโทษหรือลดโทษ (จากโทษที่ได้กำหนดแล้ว)
of 35