คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 249 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2264/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายึดถือเพื่อตนเป็นสำคัญในการครอบครองอาวุธปืน แม้จะเก็บรักษาไว้นาน หากมิได้มีเจตนาเป็นเจ้าของ ไม่ถือว่ามีความผิด
ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯคำว่า มี หมายความว่า มีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในครอบครอง และคำว่า ครอบครอง นั้น มิได้บัญญัติให้มีความหมายเป็นพิเศษ จึงต้องถือว่าต้องมีเจตนายึดถือเพื่อตน ทั้งนี้ตามหลักกฎหมายทั่วไป
การที่ปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของปืนนำมาฝากบุตรภรรยาจำเลยไว้ชั่วคราว และลืมทิ้งไว้โดยเจ้าของยังมิได้มารับคืนไป จำเลยเป็นแต่เพียงยึดถือไว้แทนเจ้าของเท่านั้น มิได้ยึดถือเพื่อตน แม้การยึดถือปืนจะมีระยะเวลา 3-4 วัน มิใช่เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนายึดถือเพื่อตน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองปืนของกลางอันเป็นความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2088/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในเรื่องดุลพินิจศาลเกี่ยวกับโทษจำคุกที่ไม่เกิน 1 ปี และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยฐานมีอาวุธปืนฯ 1 ปี และฐานพกอาวุธปืนฯ 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษ การที่โจทก์ฎีกา ขอมิให้รอการลงโทษจำเลยนั้น เป็นฎีกาในเรื่องดุลพินิจของศาล จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จะปรับว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาในฐานความผิดเป็นกระทงๆ ไป คดีนี้เป็นความผิด 2 กระทง แต่ละกระทงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย โจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต: การยกเว้นโทษเมื่อขอจดทะเบียนอาวุธปืนแล้ว
จำเลยมีอาวุธปืนของกลางที่จำเลยนำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตของจำเลยไว้แล้ว แต่นายทะเบียนยังไม่ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ และมีกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนของกลางด้วย ดังนี้ เฉพาะอาวุธปืนนั้น จำเลยได้นำไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ การที่นายทะเบียนผู้รับขึ้นทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยจึงหามีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีกไม่ ส่วนกระสุนปืนนั้น จำเลยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีและไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน กรณีจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนที่ขอจดทะเบียนแล้วไม่ต้องรับโทษ แต่การมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตยังคงเป็นความผิด
จำเลยมีอาวุธปืนของกลางที่จำเลยนำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตของจำเลยไว้แล้ว แต่นายทะเบียนยังไม่ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ และมีกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนของกลางด้วย ดังนี้ เฉพาะอาวุธปืนนั้น จำเลยได้นำไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ การที่นายทะเบียนผู้รับขึ้นทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยจึงหามีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีกไม่ ส่วนกระสุนปืนนั้น จำเลยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีและไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน กรณีจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตอาวุธปืนและการรับสารภาพในชั้นศาลมีผลต่อการตัดสินคดีอาญา
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 การที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ก็ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน .22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า "จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา" แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตอาวุธปืนภายหลังกฎหมายฉบับแก้ไข และการรับสารภาพในชั้นศาล
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษการที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ก็ ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียนจำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน.22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การรับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า 'จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา' แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็มีผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพกพาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผิดประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4 (1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2501 มาตรา 3 บัญญัติว่า "อาวุธปืนหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแกส หรืออัดลม หรือเครื่องกลไกอย่างใดซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฏกระทรวง" มิได้บัญญัติว่าอาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้หรือจะเป็นอาวุธปืนและแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญ และได้ระบุไว้ในกฏกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนพกสั้นออโตเมติก ชนิดประกอบขึ้นเองขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้ปืนดังกล่าวไม่อาจใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 และปืนดังกล่าวเป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อจำเลยพาไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ด้วย (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็มีผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพกพาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4(1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 3 พ.ศ.2501 มาตรา 3 บัญญัติว่า "อาวุธปืนหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลม หรือเครื่องกลไกอย่างใดซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงานและส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง" มิได้บัญญัติว่าอาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้จึงจะเป็นอาวุธปืนและแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนพกสั้นออโตเมติก ชนิดประกอบขึ้นเองขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้ปืนดังกล่าวไม่อาจใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490มาตรา 7 และปืนดังกล่าวเป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อจำเลยพาไปในเมืองและทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ด้วย (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายฉบับแก้ไข หากดำเนินการขออนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลาง ไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ในระหว่างนั้นได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับให้ผู้มีอาวุธปืนดังกล่าวนำไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนด 90 วันไม่ต้องรับโทษและขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครองนั้นยังอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะนำอาวุธปืนนั้น ไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายได้จึงต้องถือว่าในขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองนั้น กฎหมายยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตภายหลังกฎหมายยกเว้นโทษ ศาลยกฟ้องหากอยู่ในระยะเวลาที่ขออนุญาตได้
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลาง ไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ในระหว่างนั้นได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับ ให้ผู้มีอาวุธปืนดังกล่าวนำไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯลฯ ต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนด 90 วันไม่ต้องรับโทษ และขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครองนั้นยังอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะนำอาวุธปืนนั้นไปขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ จึงต้องถือว่าในขณะที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองนั้น กฎหมายยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ
of 25