คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 249 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 แม้ไม่นำปืนขึ้นทะเบียนภายใน 90 วัน ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่เห็นว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่า ถ้าผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่อาจขออนุญาตได้ตามกฎหมาย นำปืนมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ต่อมาโจทก์จะฎีกาว่าในขณะที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ได้เลยกำหนดให้นำอาวุธปืนไปขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตแล้วและจำเลยก็มิได้นำไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนด จึงต้องมีความผิดฐานนี้อยู่ ดังนี้ ฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาถูกต้องตามบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาพิพากษาคดีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนเถื่อนและพกพาในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร เป็นความผิดหลายกรรม
การมีปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของนายทะเบียนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และยังได้พกปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนนั้นไปในทางสาธารณะในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 เป็นสองกรรมต่างกันหาใช่กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนผิดกฎหมายและการพกพาในทางสาธารณะ ถือเป็นความผิดหลายกรรม
การมีปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของนายทะเบียนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และยังได้พกปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนนั้นไปในทางสาธารณะในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 เป็นสองกรรมต่างกันหาใช่กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2303/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษสำหรับความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องลงโทษทั้งจำและปรับตามบทบัญญัติ
การที่จำเลยมีปลอกกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 7 จะต้องระวางโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งมิใช่วรรคสอง เพราะวรรคสองเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 7เฉพาะกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้น เมื่อวรรคหนึ่งมีบทกำหนดโทษจำคุกและปรับจึงต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับโดยศาลอุทธรณ์ ไม่ถือเป็นการแก้บท ฎีกาโจทก์ขอลงโทษทั้งจำและปรับ เป็นปัญหาดุลพินิจข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุกจำเลย 3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนผิดกฎหมาย, ยกเว้นโทษ, นำไปจดทะเบียน, ทำสูญหาย, ไม่ได้รับการยกเว้นโทษ
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษไปแล้ว ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ฯ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2510) ออกมาให้ผู้มีอาวุธปืน กระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย นำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 90 วัน จึงจะได้รับการยกเว้นโทษ เมื่อจำเลยได้ทำอาวุธปืน กระสุนปืนสูญหายเสียในวันเกิดเหตุ จึงไม่มีอาวุธปืน กระสุนปืนผิดกฎหมายไปจดทะเบียนขออนุญาต ฉะนั้นจำเลยย่อมไม่ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนผิดกฎหมายและการยกเว้นโทษตาม พรบ.อาวุธปืนฯ โดยจำเลยอ้างว่าอาวุธปืนสูญหาย
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษไปแล้ว ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนฯ ฉบับที่ 4(พ.ศ.2510) ออกมาให้ผู้มีอาวุธปืน กระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย นำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 90 วัน จึงจะได้รับการยกเว้นโทษ เมื่อจำเลยได้ทำอาวุธปืนกระสุนปืนสูญหายเสียในวันเกิดเหตุ จึงไม่มีอาวุธปืน กระสุนปืนผิดกฎหมายไปจดทะเบียนขออนุญาต ฉะนั้นจำเลยย่อมไม่ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน (ฉบับที่ 4) กรณีอาวุธสูญหาย
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต. ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษไปแล้ว. ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์. ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนฯ ฉบับที่ 4(พ.ศ.2510) ออกมาให้ผู้มีอาวุธปืน กระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย. นำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 90 วัน. จึงจะได้รับการยกเว้นโทษ. เมื่อจำเลยได้ทำอาวุธปืนกระสุนปืนสูญหายเสียในวันเกิดเหตุ. จึงไม่มีอาวุธปืน. กระสุนปืนผิดกฎหมายไปจดทะเบียนขออนุญาต. ฉะนั้นจำเลยย่อมไม่ได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาวุธปืน: การลงโทษฐานมีส่วนหนึ่งของอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พิจารณาโทษตามบทหนักที่สุด
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 บัญญัติห้ามมิให้ทำหรือมีไว้ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน. เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ฝ่าฝืนให้ลงโทษตามมาตรา72. พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 3 วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'อาวุธปืน'หมายความรวมตลอดถึงอาวุธปืนทุกชนิด ฯลฯ และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญ. และได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'เครื่องกระสุนปืน'หมายความรวมตลอดถึงหัวกระสุนโดด กระสุนปลาย กระสุนแตก ฯลฯหรือเครื่อง หรือสิ่งสำหรับอัด หรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน. กฎกระทรวงฉบับที่ 3(พ.ศ.2491) กำหนดว่า ส่วนของอาวุธปืนที่จะกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน คือลำกล้อง เครื่องลั่นไก หรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องลั่นไก. พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2510 มาตรา 3 บัญญัติให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 72(วรรคหนึ่ง) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 3 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท (วรรคสอง). ถ้าการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี. หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท.หรือทั้งจำทั้งปรับ. ดังนี้ ข้อกฎหมายที่จะลงโทษจำเลยจึงมี 2 ประการ. ประการแรกเกี่ยวกับอาวุธปืนประการหลังเกี่ยวกับเครื่องกระสุนปืน. ซึ่งจะต้องวางโทษตามมาตรา 72 วรรคสอง วรรคหนึ่ง ตามลำดับ. และลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาวุธปืน: การลงโทษฐานมีส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 บัญญัติห้ามมิให้ทำหรือมีไว้ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ฝ่าฝืนให้ลงโทษตามมาตรา 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 3 วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'อาวุธปืน'หมายความรวมตลอดถึงอาวุธปืนทุกชนิด ฯลฯ และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง วิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'เครื่องกระสุนปืน'หมายความรวมตลอดถึงหัวกระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ฯลฯหรือเครื่อง หรือสิ่งสำหรับอัด หรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ.2491) กำหนดว่า ส่วนของอาวุธปืนที่จะกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน คือลำกล้อง เครื่องลั่นไก หรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องลั่นไกพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2510 มาตรา 3 บัญญัติให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 72(วรรคหนึ่ง) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 3 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท (วรรคสอง) ถ้าการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ. ดังนี้ ข้อกฎหมายที่จะลงโทษจำเลยจึงมี 2 ประการประการแรกเกี่ยวกับอาวุธปืนประการหลังเกี่ยวกับเครื่องกระสุนปืน ซึ่งจะต้องวางโทษตามมาตรา 72วรรคสอง วรรคหนึ่ง ตามลำดับและลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ได้
of 25