พบผลลัพธ์ทั้งหมด 249 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รอการลงโทษ จำเลยมีพฤติการณ์ขนไม้เถื่อนและใช้เครื่องวิทยุสื่อสารดักฟังตำรวจ
แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนแต่ปรากฏตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติ ว่าจำเลยมีอาชีพรับจ้างขับรถไถลากไม้เถื่อน จากเขตแดน ประเทศไทย- พม่า และใช้เครื่องวิทยุคมนาคมของกลาง เพื่อดักฟังการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานตำรวจขณะจำเลย ขนไม้เถื่อน ทั้งการมีและพาอาวุธปืนของกลางก็เป็นไป เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวด้วย พฤติการณ์แห่งคดีจึง ไม่สมควรรอการลงโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองเป็นคนละกรรม, เจตนาใช้อาวุธเป็นภัยต่อสังคม ไม่รอการลงโทษ
หลังจากจำเลยที่ 1 ลักอาวุธปืนของผู้เสียหายไปจำเลยที่ 1 ได้ครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวติดต่อกันตลอดมาจนถึงวันจับกุมเป็นเวลา 1 ปีเศษ โดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตลอดเวลาที่ครอบครองอาวุธปืนอยู่จนกระทั่ง ถูกจับกุม ส่วนการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิด ในขณะใดขณะหนึ่งเท่านั้น การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็น ความผิดหลายกรรมต่างกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ลักอาวุธปืนของนายจ้างแล้วครอบครองพาติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะแสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาจะใช้อาวุธปืนดังกล่าว นับว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของสุจริตชนโดยทั่วไป และกระทบต่อ ความสงบเรียบร้อยของสังคม สมควรที่จะปราบปรามอย่างเด็ดขาด จึงไม่รอการลงโทษให้จำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4683/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืน และการย้ายศพเพื่อปิดบังความตาย
จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามฟ้องโจทก์แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน โจทก์นำสืบแต่เพียงว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ โดยโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลย เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนหรือไม่ และอาวุธปืนดังกล่าวมีเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน ประทับหรือไม่ เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาพยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอลงโทษจำเลยในฐานะนี้ สำหรับความผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายข้อเท็จจริง เมื่อปรากฏจากการนำสืบของโจทก์ว่า ศพของผู้ตายถูกเคลื่อนย้ายไปเพียง 20 เมตรและย้ายไปอยู่ในที่เปิดเผยสามารถถูกพบได้โดยง่ายจึงไม่มีลักษณะเป็นการย้ายเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายอันจะเป็นความผิดในฐานนี้จำเลยจึงไม่มีความผิดในฐานนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2960/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายลักษณะตัวจำเลยในคำฟ้อง และการแยกความผิดฐานมีอาวุธปืน
โจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดครบองค์ประกอบความผิดตามที่โจทก์มีคำขอให้ลงโทษจำเลยในคำขอท้ายฟ้องแล้ว แม้ตามคำฟ้องโจทก์จะมิได้ระบุเลขที่บ้านของจำเลยก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้ระบุว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์อันเป็นที่อยู่ของจำเลย และบรรยายด้วยว่า จำเลยชื่อ ก. อายุ 38 ปี เชื้อชาติไทยสัญชาติไทย ดังนี้ ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้บรรยายชื่อตัว นามสกุล อายุ ที่อยู่ ชาติและบังคับของจำเลยครบถ้วนตาม ป.วิ.อ.มาตรา 158 (4) แล้ว
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะหรือในที่ชุมนุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริง การมหรสพโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน แม้จำเลยจะกระทำความผิดทั้งสองฐานนี้ในวาระเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ.มาตรา 91
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะหรือในที่ชุมนุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริง การมหรสพโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน แม้จำเลยจะกระทำความผิดทั้งสองฐานนี้ในวาระเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ.มาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2960/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของคำฟ้องอาญา และการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนกับพาอาวุธปืน แม้กระทำในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรม
โจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้ กระทำความผิดครบองค์ประกอบความผิดตามที่โจทก์มีคำขอให้ ลงโทษจำเลยในคำขอท้ายฟ้องแล้ว แม้ตามคำฟ้องโจทก์จะมิได้ ระบุเลขที่บ้านของจำเลยก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้ระบุว่าจำเลย ตั้งบ้านเรือนอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยใหญ่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ อันเป็นที่อยู่ของจำเลย และบรรยายด้วยว่า จำเลยชื่อ ก. อายุ 38 ปีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ดังนี้ ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้บรรยายชื่อตัว นามสกุล อายุ ที่อยู่ ชาติและบังคับของจำเลยครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(4) แล้ว ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะหรือในที่ชุมนุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อ การรื่นเริง การมหรสพโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควรและโดย ไม่ได้รับอนุญาต เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกันและเป็นความผิดต่างฐานกัน แม้จำเลย จะกระทำความผิดทั้งสองฐานนี้ในวาระเดียวกัน การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2713/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ร่วมในคดีอาญา: การพิสูจน์ความเสียหายโดยตรงและการฎีกาเมื่อศาลยกฟ้อง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7,8ทวิ,72,72 ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้ได้รับความเสียหายตามกฎหมาย จึงเป็นโจทก์ร่วมในความผิดฐานดังกล่าวไม่ได้ ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้าม มิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิฎีกาในความผิดฐานดังกล่าวเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5239/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืน แม้มีข้อกฎหมายต่างกัน ศาลรวมกรรมเดียวลงโทษตามโทษหนักสุดได้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ในครอบครอง กับความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้โดยชอบด้วยกฎหมายไว้ในครอบครอง เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน แม้ข้อกฎหมายที่ลงโทษต่างกัน กล่าวคือความผิดฐานมีอาวุธปืน ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ในครอบครอง ต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนมาตรา 72 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้โดยชอบด้วยกฎหมายไว้ในครอบครองต้องระวางโทษตามมาตรา 72 วรรคสามก็ตาม แต่วัตถุที่ต้องห้ามทั้ง 2 กรณีดังกล่าว กฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน โดยบัญญัติบทความผิดกับบทลงโทษในบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยมีไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท และลงโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง ที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยมิได้ฎีกาในข้อนี้ศาลฎีกาก็ปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5239/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนผิดกฎหมาย: กรรมเดียวผิดหลายบท, ลงโทษตามบทหนักสุด
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ในครอบครอง กับความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้โดยชอบด้วยกฎหมายไว้ในครอบครอง เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน แม้ข้อกฎหมายที่ลงโทษต่างกัน กล่าวคือ ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ในครอบครอง ต้องระวางโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้โดยชอบด้วยกฎหมายไว้ในครอบครอง ต้องระวางโทษตามมาตรา72 วรรคสามก็ตาม แต่วัตถุที่ต้องห้ามทั้ง 2 กรณีดังกล่าว กฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกันโดยบัญญัติบทความผิดกับบทลงโทษในบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยมีไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท และลงโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง ที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยมิได้ฎีกาในข้อนี้ศาลฎีกาก็ปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนในทางสาธารณะเป็นคนละกรรมกัน ศาลมีอำนาจริบของกลาง
จำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองมีความผิดมาตั้งแต่เริ่มครอบครองเป็นกรรมหนึ่งและมีเจตนาที่จะพกอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะโดยผิดกฎหมายก็เป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งจึงเป็นความผิดสองกรรม อาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานประทับและเครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา32แม้โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาเรื่องของกลางก็ตามแต่เมื่อโจทก์มีคำขอให้ริบของกลางมาแล้วทั้งมิใช่กรณีเพิ่มเติมโทษจำเลยก็ชอบที่จะวินิจฉัยในเรื่องของกลางด้วยศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ริบของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5305/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้มีไว้ในวันเดียวกัน ศาลต้องลงโทษทุกกรรม
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา7,72วรรคหนึ่งและการมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา55,78วรรคหนึ่งการที่กฎหมายบัญญัติความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตราย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่ามีความประสงค์ที่จะแยกความผิด2ฐานนี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภทแสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกันและความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายฉะนั้นแม้จำเลยจะมีไว้ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน