คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธวัชชัย พิทักษ์พล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 785 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3796/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาผูกพันคู่ความเดิม: คำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนหน้าเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินมีผลผูกพันผู้ร้อง
สามีของผู้ร้องและบุตรของผู้ร้องอีก 4 คนได้ร่วมกันฟ้องผู้ประกันเกี่ยวกับที่พิพาท ศาลฎีกาพิพากษาว่าที่พิพาทในคดีนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่พิพาทในคดีดังกล่าวเป็นของผู้ประกันต่อมาผู้ประกันได้ฟ้องขับไล่ผู้ร้องและบุตรออกจากที่พิพาทศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้พิพากษาถึงที่สุดว่าที่พิพาทเป็นของผู้ประกันให้ขับไล่ผู้ร้องและพวกผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงผูกพันผู้ร้อง ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 วรรคแรก ผู้ร้องจะกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ผู้ประกันจึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3781/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องเกินกำหนด: ศาลต้องไต่สวนก่อนตัดสิน
เมื่อตามคำร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ทราบการฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใดข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องเกินกำหนด 8 วัน นับแต่ทราบพฤติการณ์แห่งการฝ่าฝืนตาม ป.วิ.พ.มาตรา 296 วรรคสองหรือไม่ ศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนเสียก่อน ที่ศาลชั้นต้นด่วนยกคำร้องของผู้ร้องโดยไม่ได้ทำการไต่สวนเสียก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3781/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการไต่สวนคำร้องคัดค้าน การดำเนินการตามกฎหมายต้องพิสูจน์ทราบเวลาที่ผู้ร้องทราบเหตุฝ่าฝืนเสียก่อน
เมื่อตามคำร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ทราบการฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใด ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องเกินกำหนด8 วัน นับแต่ทราบพฤติการณ์แห่งการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองหรือไม่ศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนเสียก่อน ที่ศาลชั้นต้นด่วนยกคำร้องของผู้ร้องโดยไม่ได้ทำการไต่สวนเสียก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3621/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีและเสพเมทแอมเฟตามีนเป็นความผิดคนละกรรม ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นนี้และพิจารณารอการลงโทษ
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองและการเสพเมทแอมเฟตามีนที่มีไว้ในครอบครองเป็นความผิดคนละกรรมกันเพราะเป็นเจตนาในการกระทำผิดคนละอย่างและแยกการกระทำออกจากกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3621/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเมทแอมเฟตามีนกับเสพ เป็นความผิดคนละกรรม
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองและการเสพเมทแอมเฟ-ตามีนที่มีไว้ในครอบครองเป็นความผิดคนละกรรมกัน เพราะเป็นเจตนาในการกระทำผิดคนละอย่างและแยกการกระทำออกจากกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดฐานตัวการในคดีร่วมกันฆ่า แม้ไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้ลงมือ
จำเลยได้ร่วมกับพวกมาหาเรื่องกับกลุ่มผู้ตาย โดยจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย ตามพฤติการณ์ย่อมเล็งเห็นได้ว่าอาจจะมีการใช้อาวุธปืนยิงคนในกลุ่มผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ดังนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้แน่ชัดเพียงว่ามีคนในกลุ่มจำเลยซึ่งไม่แน่ว่าจะเป็นจำเลยหรือไม่ ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายและผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็นตัวการด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้เป็นผู้ลงมือเอง
จำเลยได้ร่วมกับพวกมาหาเรื่องกับกลุ่มผู้ตาย โดยจำเลย มีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย ตามพฤติการณ์ย่อมเล็งเห็นได้ว่าอาจจะ มีการใช้อาวุธปืนยิงคนในกลุ่มผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้แน่ชัดเพียงว่ามีคนในกลุ่มจำเลยซึ่งไม่แน่ว่า จะเป็นจำเลยหรือไม่ ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายและ ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็น ตัวการด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม - การบรรยายรายละเอียดลูกค้าในคำฟ้องไม่จำเป็น หากมีรายละเอียดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหาและข้อเรียกร้อง
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุม ยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดเนื้อหาในประเด็นแห่งคดี ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายระบุวันเดือนปีที่จำเลยไปเก็บเงินจากลูกค้าจำนวนเงินที่เก็บแต่ละครั้ง และระบุว่าจำเลยได้ทำบันทึกยอมรับสภาพหนี้กับโจทก์ตามเอกสารท้ายคำฟ้องเป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ส่วนรายละเอียดว่าลูกค้าของโจทก์ชื่ออะไรอยู่บ้านเลขที่เท่าไร ถนน ตำบล อำเภออะไร และใบเสร็จรับเงินนั้น โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้รายละเอียดบางส่วนยังไม่สมบูรณ์ ศาลไม่ยกฟ้อง
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุม ยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดเนื้อหาในประเด็นแห่งคดี ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายระบุวันเดือนปีที่จำเลย ไปเก็บเงินจากลูกค้าจำนวนเงินที่เก็บแต่ละครั้ง และระบุว่าจำเลยได้ทำบันทึกยอมรับสภาพหนี้ไว้กับโจทก์ตามเอกสารท้ายคำฟ้อง เป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ส่วนรายละเอียดว่าลูกค้าของโจทก์ชื่ออะไร อยู่บ้านเลขที่เท่าไร ถนน ตำบล อำเภออะไร และใบเสร็จรับเงินนั้น โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ซ้ำหลังคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ไม่ได้บังคับคดี สิทธิยังคงมี การฟ้องใหม่ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่จำเลย แต่จำเลยยังครอบครองที่พิพาทอยู่ตลอดมาโดยที่โจทก์ไม่ได้ดำเนินการร้องขอบังคับคดีตามคำพิพากษาจนครบกำหนดระยะเวลาการบังคับคดีแล้ว ต่อมาโจทก์จึงมาฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่พิพาทเป็นคดีนี้ ดังนี้เป็นการขอให้บังคับตามสิทธิของโจทก์ที่เกิดขึ้นจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนซึ่งโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้และไม่เป็นฟ้องซ้ำแต่อย่างใด
of 79