คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สถิตย์ ไพเราะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,395 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพและพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำผิดคดียาเสพติด ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
พยานโจทก์ทั้งสามเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนในคดีเป็นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยที่1น่าเชื่อว่าเบิกความไปตามความจริงชั้นจับกุมจำเลยที่1ให้การรับสารภาพและชั้นสอบสวนจำเลยที่1ให้การว่าในชั้นจับกุมจำเลยที่1ยอมรับว่าได้ร่วมกับจำเลยที่2ขายเมทแอมเฟตามีนโดยแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งเป็นกำไรคนละครึ่งโดยมิได้โต้แย้งว่าคำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมไม่ถูกต้องบันทึกจับกุมดังกล่าวสอดคล้องกับพฤติการณ์ของจำเลยที่1ตามคำเบิกความของพยานโจทก์ผู้ร่วมตรวจค้นจับกุมจึงสนับสนุนกันให้พยานโจทก์ที่นำสืบมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานขัดแย้ง ขาดประจักษ์พยานยืนยันการกระทำความผิด จำเลยมีสิทธิได้รับการยกฟ้อง
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นขณะคนร้ายลักทรัพย์คงมีแต่พยานแวดล้อมจ. พยานโจทก์คนหนึ่งซึ่งเบิกความว่าจำเลยได้นำของกลางมาขายให้จ. โดยบอกว่าผู้เสียหายให้เป็นค่าแรงก็ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและจับของกลางได้จากจ. ซึ่งชั้นจับกุมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักทรัพย์ด้วยตนเองและท. พยานโจทก์เองก็เบิกความว่าเห็นชายสองคนเข็นรถบรรทุกวงกบบานประตูไปจากบ้านที่เกิดเหตุโดยจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยพยานโจทก์ทั้งสองปากนี้สอดคล้องกับคำเบิกความของจำเลยที่ว่าไม่ได้กระทำความผิดส. พยานโจทก์อีกปากเบิกความว่าเห็นจำเลยเข็นรถบรรทุกบานประตูของกลางในเวลากลางคืนซึ่งไฟฟ้ามีแสงสว่างเพียงลางๆไม่แน่นอนว่าจะเห็นคนร้ายและจำได้ว่าเป็นจำเลยและของกลางนั้นเป็นทรัพย์ของผู้เสียหายหรือไม่ส่วนว. ก็เป็นลูกจ้างจ. เบิกความขัดกับคำให้การรับสารภาพชั้นจับกุมของจ. สำหรับส. พยานโจทก์อีกปากหนึ่งก็ไม่ได้เป็นผู้เห็นเหตุการณ์คำพูดของสามีจำเลยก็ไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์พยานโจทก์ขัดกันและเลื่อนลอยจึงไม่มีน้ำหนักพอฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท: การเปลี่ยนแปลงชื่อโฉนดหลังมรณะ ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องคดีเพื่อขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อในโฉนดที่พิพาทมาเป็นของโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของป. เจ้าของที่แท้จริงจึงนำอายุความคดีมรดกมาใช้บังคับไม่ได้แม้ป.ถึงแก่ความตายนับถึงวันฟ้องในเวลา7ปีฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งทางทะเล: จำเลยไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่ง แม้ติดต่อหน่วยงานราชการและส่งใบสั่งปล่อยสินค้า
เมื่อเรือเทียบท่าแล้วบริษัทส. เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าโดยบริษัทฟ. เป็นผู้ว่าจ้างจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้าส่วนใบสั่งปล่อยสินค้านั้นเรือจะออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้จำเลยเพียงแต่เป็นผู้ส่งใบปล่อยสินค้าให้แก่ผู้รับและเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้าดังนี้จำเลยเป็นผู้ติดต่อการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อขอนำเรือเทียบท่าและติดต่อกรมศุลกากรเท่านั้นจำเลยจึงไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่งสินค้าพิพาทกับบริษัทฟ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ประกอบการติดต่อท่าเรือและศุลกากรไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่ง
เมื่อเรือเทียบท่าแล้วบริษัท ส. เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าโดยบริษัท ฟ. เป็นผู้ว่าจ้าง จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้า ส่วนใบสั่งปล่อยสินค้านั้นเรือจะออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้จำเลยเพียงแต่เป็นผู้ส่งใบปล่อยสินค้าให้แก่ผู้รับและเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้า ดังนี้ จำเลยเป็นผู้ติดต่อการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อขอนำเรือเทียบท่าและติดต่อกรมศุลกากรเท่านั้น จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่งสินค้าพิพาทกับบริษัท ฟ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่งสินค้า แม้ติดต่อการท่าเรือและศุลกากร เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าโดยตรง
เมื่อเรือเทียบท่าแล้วบริษัท ส.เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าโดยบริษัท ฟ.เป็นผู้ว่าจ้าง จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้า ส่วนใบสั่งปล่อยสินค้านั้นเรือจะออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้ จำเลยเพียงแต่เป็นผู้ส่งใบปล่อยสินค้าให้แก่ผู้รับและเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้า ดังนี้ จำเลยเป็นผู้ติดต่อการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อขอนำเรือเทียบท่าและติดต่อกรมศุลกากรเท่านั้น จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ร่วมขนส่งสินค้าพิพาทกับบริษัท ฟ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งร่วมและการสูญหายของสินค้า
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่แจ้งให้ผู้รับสินค้าปลายทางทราบถึงการที่เรือมาถึง จำเลยที่ 2 ออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้จำเลยที่ 1 เพื่อให้จำเลยที่ 1ไปติดต่อผู้รับใบตราส่งเท่านั้น จำเลยที่ 1 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้าจากเรือไปยังสถานที่เก็บหรือการเปิดตู้สินค้า จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้ร่วมทำการขนส่ง จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 3 เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือและมอบให้จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 เป็นผู้เปิดตู้คอนเทนเนอร์แล้วขนสินค้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของการท่าเรือฯ และเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้า จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นผู้ร่วมขนส่งหลายคนหลายทอด ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 618ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง
ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้นำค่าใช้จ่ายอีก10 เปอร์เซ็นต์รวมเข้าเป็นค่าเสียหายด้วยไม่ถูกต้อง ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นศาลชั้นต้นและในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ตามใบตราส่งปรากฏชัดว่าสินค้ามีรวมทั้งหมด 5 หีบห่อ และได้มีการบรรจุสินค้าเข้าตู้สินค้าครบถ้วน เมื่อปรากฏว่าสินค้าสูญหายไป 4 หีบห่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า สินค้าสูญหายไประหว่างการขนส่งของผู้ขนส่ง จำเลยที่ 3ซึ่งเป็นผู้ร่วมขนส่งต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ร่วมขนส่งสินค้าสูญหาย: การแบ่งแยกความรับผิดของแต่ละทอด
จำเลยที่1มีหน้าที่แจ้งให้ผู้รับสินค้าปลายทางทราบถึงการที่เรือมาถึงจำเลยที่2ออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้จำเลยที่1เพื่อให้จำเลยที่1ไปติดต่อผู้รับใบตราส่งเท่านั้นจำเลยที่1ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้าจากเรือไปยังสถานที่เก็บหรือการเปิดตู้สินค้าถือไม่ได้ว่าจำเลยที่1เป็นผู้ร่วมทำการขนส่งจำเลยที่1จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ส่วนจำเลยที่3เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือและมอบให้จำเลยที่2โดยจำเลยที่2เป็นผู้เปิดตู้คอนเทนเนอร์แล้วขนสินค้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าและเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้าจำเลยที่2และที่3จึงเป็นผู้ร่วมขนส่งหลายคนหลายทอดต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา618ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งร่วม: การสูญหายของสินค้าขณะขนส่งทางทะเล
จำเลยที่1มีหน้าที่แจ้งให้ผู้รับสินค้าปลายทางทราบถึงการที่เรือมาถึงจำเลยที่2ออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้จำเลยที่1เพื่อให้จำเลยที่1ไปติดต่อผู้รับใบตราส่งเท่านั้นจำเลยที่1ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้าจากเรือไปยังสถานที่เก็บหรือการเปิดตู้สิ้นค้าจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่1เป็นผู้ร่วมทำการขนส่งจำเลยที่1จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่3เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือและมอบให้จำเลยที่2จำเลยที่2เป็นผู้เปิดตู้คอนเทนเนอร์แล้วขนสินค้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของการท่าเรือฯและเป็นผู้ออกใบสั่งปล่อยสินค้าจำเลยที่2และที่3จึงเป็นผู้ร่วมขนส่งหลายคนหลายทอดต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา618ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง ที่จำเลยที่2ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้นำค่าใช้จ่ายอีก10เปอร์เซ็นต์รวมเข้าเป็นค่าเสียหายด้วยไม่ถูกต้องปรากฎว่าจำเลยที่2มิได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นศาลชั้นต้นและในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง ตามใบตราส่งปรากฎชัดว่าสินค้ามีรวมทั้งหมด5หีบห่อและได้มีการบรรจุสินค้าเข้าตู้สินค้าครบถ้วนเมื่อปรากฎว่าสินค้าสูญหายไป4หีบห่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสินค้าสูญหายไประหว่างการขนส่งของผู้ขนส่งจำเลยที่3ซึ่งเป็นผู้ร่วมขนส่งต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ส่งให้ทนายความเพียงคนเดียว และปิดหมายที่ภูมิลำเนาทนายความ
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยสั่งให้ส่งหมายนัดตามข้อความในคำสั่งของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา76วรรคหนึ่งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ปิดหมายนัดจึงชอบแล้ว ว.เป็นทนายโจทก์โดยครั้งหลังสุดว. แจ้งที่อยู่ตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่าอยู่บ้านเลขที่49/4หมู่11ถนนสุขาภิบาล3แขวงมีนบุรีเขตมีนบุรี ฉะนั้นบ้านเลขที่ดังกล่าวจึงเป็นภูมิลำเนาของว. การที่เจ้าพนักงานเดินหมายปิดหมายไว้ณบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งเป็นภูมิลำเนาของว. จึงชอบแล้วและแม้โจทก์จะมีทนายความ2คนแต่ว. ก็เป็นทนายความซึ่งโจทก์ตั้งแต่งให้ว่าคดีการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้แก่ว.เพียงคนเดียวจึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา75ถือได้ว่าฝ่ายโจทก์ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยชอบแล้ว
of 140