พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีตามคำท้าของคู่ความ และการขอพิจารณาใหม่หลังคำพิพากษาถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาไปตามคำท้าของคู่ความ มิใช่เป็นกรณีการพิจารณาโดยขาดนัด อันจะเป็นเหตุให้คู่ความร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจวินิจฉัยไปตามคำท้า ก็จะต้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานต่อไป จะขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคดีอาญาเป็นข้อตกลงแพ้ชนะ: ศาลต้องรอคำพิพากษาถึงที่สุด
การที่คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลคดีอาญาหมายเลขดำที่1758/2531 ของศาลชั้นต้นเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้นั้น ไม่ได้หมายถึงผลของคำพิพากษาในศาลชั้นต้น การอ้างเลขคดีของศาลชั้นต้นเป็นแต่เพียงการอ้างผลคดีดำที่คู่ความท้ากันเท่านั้น เมื่อคู่ความท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาย่อมต้องหมายถึงผลคำพิพากษาที่ถึงที่สุดแล้ว
คู่ความไม่ได้ตกลงท้ากัน ให้ถือเอาผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีโดยถือเอาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยไม่รอผลคำพิพากษาถึงที่สุด และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เป็นการพิพากษาคดีไปโดยไม่ตรงตามคำท้าเป็นการไม่ชอบ แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ของศาลฎีกาปรากฏว่าคดีอาญาที่คู่ความท้ากันนั้น ศาลฎีกาได้พิพากษาแล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
คู่ความไม่ได้ตกลงท้ากัน ให้ถือเอาผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีโดยถือเอาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยไม่รอผลคำพิพากษาถึงที่สุด และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เป็นการพิพากษาคดีไปโดยไม่ตรงตามคำท้าเป็นการไม่ชอบ แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ของศาลฎีกาปรากฏว่าคดีอาญาที่คู่ความท้ากันนั้น ศาลฎีกาได้พิพากษาแล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าเสียหายระหว่างบังคับคดี ไม่ถือเป็นการยอมรับว่าไม่มีการฉ้อฉล
การที่โจทก์รับเงินที่จำเลยที่1วางเป็นค่าเสียหายที่ต้องชดใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งเป็นการดำเนินการชั้นบังคับคดีเมื่อจำเลยที่1ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์นั้นหาใช่เป็นการยอมรับว่าจำเลยทั้งสองมิได้ฉ้อฉลโจทก์ดังที่โจทก์ฟ้องและไม่ประสงค์ดำเนินคดีต่อไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095-1097/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยระบุเจาะจงคดี การนำเงินไปชำระหนี้อื่นขัดต่อกฎหมาย
จำเลยที่5ซึ่งเป็นลูกหนี้ได้ชำระหนี้โดยระบุด้านหลังเช็คทุกฉบับไว้ชัดว่าให้นำไปชำระหนี้ตามคดีกลุ่มที่พิพากษาในปี2526ทั้งสามสำนวนในคดีนี้โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์คัดค้านแต่ประการใดการที่โจทก์นำเงินจำนวนตามเช็คดังกล่าวไปเฉลี่ยชำระหนี้ของจำเลยที่5ตามคดีกลุ่มที่พิพากษาในปี2528ซึ่งเป็นหนี้รายอื่นนอกจากที่จำเลยที่5ระบุไว้จึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา328วรรคหนึ่งโจทก์ไม่มีสิทธิกระทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: การปฏิเสธการรับโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนจากกรรมสิทธิ์ร่วม และสิทธิในการบังคับตามสัญญา
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำจากโจทก์ทั้งสองการที่จำเลยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีผลทำให้สัญญาระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยระงับไปแต่อย่างใดจำเลยยังคงมีความผูกพันกับโจทก์ทั้งสองตามสัญญาโจทก์ทั้งสองจึงมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายได้อย่างไรก็ตามแต่เหตุที่ทำให้จำเลยไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสองตามสัญญาได้เกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอกที่มิได้เกี่ยวข้องในระหว่างสัญญาระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่อยู่นอกเหนือวิสัยและความรับผิดชอบของจำเลยกรณีจะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ได้เช่นเดียวกันจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในเบี้ยปรับและค่าเสียหายตามที่โจทก์ทั้งสองเรียกร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำร้องเพิกถอนการเป็นคนไร้ความสามารถ การส่งหมายถึงผู้คัดค้านโดยผู้รับแทน ถือว่าผู้คัดค้านทราบแล้ว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถต่อศาลชั้นต้นเดียวกันกับที่มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของผู้คัดค้านโดยแนบคำร้องและคำสั่งในคดีที่ผู้คัดค้านขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถมาพร้อมคำร้องแม้ปรากฏว่ามีการลงเลขคดีดำใหม่ในคำร้องก็เป็นเพียงทางปฏิบัติในทางธุรการของศาลถือได้ว่าผู้ร้องได้เสนอคำร้องต่อศาลในคดีที่ได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา7(4)แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านต่อมาผู้ร้องนำพนักงานเดินหมายไปส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านณภูมิลำเนาของผู้คัดค้านโดยผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้คัดค้านรับไว้แทนถือว่าผู้คัดค้านทราบเรื่องที่ผู้ร้องยื่นคำร้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องเพิกถอนคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ: การเสนอคำร้องในคดีเดิม แม้มีการลงเลขคดีดำใหม่
ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเดียวกันกับที่มีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของผู้คัดค้านทั้งได้อ้างในคำร้องถึงรายละเอียดในคดีดังกล่าวโดยแนบคำร้องและคำสั่งศาลมาพร้อมและมีคำขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแม้จะมีการลงเลขคดีดำใหม่ในคำร้องก็เป็นเพียงทางปฏิบัติทางธุรการของศาลถือว่าผู้ร้องได้เสนอคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา7(4)แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องเพิกถอนคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถต่อศาลเดิม และการรับทราบคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความ-สามารถต่อศาลชั้นต้นเดียวกันกับที่มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของผู้คัดค้าน โดยแนบคำร้องและคำสั่งในคดีที่ผู้คัดค้านขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถมาพร้อมคำร้อง แม้ปรากฏว่ามีการลงเลขคดีดำใหม่ในคำร้องก็เป็นเพียงทางปฏิบัติในทางธุรการของศาล ถือได้ว่าผู้ร้องได้เสนอคำร้องต่อศาลในคดีที่ได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7 (4) แล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ต่อมาผู้ร้องนำพนักงานเดินหมายไปส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ณ ภูมิลำเนาของผู้คัดค้านโดยผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้คัดค้านรับไว้แทน ถือว่าผู้คัดค้านทราบเรื่องที่ผู้ร้องยื่นคำร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ต่อมาผู้ร้องนำพนักงานเดินหมายไปส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ณ ภูมิลำเนาของผู้คัดค้านโดยผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้คัดค้านรับไว้แทน ถือว่าผู้คัดค้านทราบเรื่องที่ผู้ร้องยื่นคำร้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเลือกตั้ง: ผู้สมัครยังไม่ได้สมัคร จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯระหว่างวันที่17มกราคม2535ถึงวันที่7กุมภาพันธ์2535แต่ในระยะเวลาดังกล่าวโจทก์ยังไม่ได้สมัครรับเลือกตั้งจึงไม่เป็นผู้เสียหายตามป.วิ.อ.มาตรา2(4)และพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯมาตรา93จัตวาและไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ต้องพิจารณาว่าสิทธิเรียกร้องทางแพ่งอาศัยมูลความผิดทางอาญาหรือไม่
ในการวินิจฉัยว่าคดีใดเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาหรือไม่จะต้องพิจารณาว่าสิทธิเรียกร้องในทางแพ่งได้อาศัยมูลความผิดในทางอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ทำการปิดบังยักย้ายทรัพย์มรดก อันเป็นเหตุให้จำเลยถูกกำจัดมิให้รับมรดกตามกฎหมาย ซึ่งมิได้อาศัยมูลคดีอันเกิดจากการกระทำความผิดอาญาของจำเลย ที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ จึงมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาตาม ป.วิ.อ.มาตรา 46
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ทำการปิดบังยักย้ายทรัพย์มรดก อันเป็นเหตุให้จำเลยถูกกำจัดมิให้รับมรดกตามกฎหมาย ซึ่งมิได้อาศัยมูลคดีอันเกิดจากการกระทำความผิดอาญาของจำเลย ที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ จึงมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาตาม ป.วิ.อ.มาตรา 46