คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุชาติ ถาวรวงษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4506/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันที่กำหนดวันสิ้นสุดสัญญา ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลัง
จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันในวันเดียวกับที่จำเลยที่ 1ทำสัญญากู้เงินจากโจทก์โดยระบุว่า จำเลยที่ 1 จะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2523 ซึ่งแสดงว่าได้กำหนดวันสิ้นสุดของสัญญาให้จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันทราบ ตามปกติจำเลยที่ 2ต้องรับผิดเฉพาะหนี้ที่จำเลยที่ 1 ก่อขึ้นไว้ต่อโจทก์ ภายในวันที่31 มีนาคม 2523 เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ยินยอมหรือร่วมรู้เห็นด้วยในการที่โจทก์และจำเลยที่ 1 กู้เงินกันและชำระเงินกันโดยไม่ถือเอากำหนดเวลาสิ้นสุดของสัญญากู้เงินเป็นสาระสำคัญ และกรณีมิใช่เป็นเรื่องโจทก์เจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่จะถือเอาว่าจำเลยที่ 2 รับรู้ด้วยตามข้อยกเว้นในสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในหนี้เงินกู้ที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่ 31 มีนาคม 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4416/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทขับรถทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและการหลบหนีไม่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องอ้างเหตุว่า การที่จำเลยไม่อยู่ให้ความช่วยเหลือตามสมควร ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีโดยจำเลยได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 78 นั้น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัส คดีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 วรรคสองได้ และปัญหาข้อนี้แม้คู่ความจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4410-4411/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คหลายฉบับเพื่อชำระหนี้รายเดียวกันถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลมีดุลพินิจหักวันคุมขังได้
การที่จำเลยออกเช็คแต่ละฉบับชำระหนี้รายเดียวกันถือได้ว่ามีเจตนาให้จ่ายเงินตามเช็คแต่ละฉบับแยกจากกันเป็นคนละส่วนคนละจำนวนแม้ได้ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกันก็เป็นความผิดที่เกิดขึ้นต่างหากแยกจากกันได้โดยชัดเจนเป็นการเฉพาะของเช็คแต่ละฉบับจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก ทั้งมิใช่กรณีที่หากโจทก์ไม่มีคำขอขึ้นมาศาลก็วินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4410-4411/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเช็คหลายกรรมต่างกัน-หักวันคุมขัง-ข้อจำกัดการยกเหตุในชั้นฎีกา
แม้ เช็คพิพาท 2 ฉบับที่จำเลยสั่งจ่ายชำระหนี้รายเดียวกัน โดยลงวันที่เดียวกัน และธนาคารปฏิเสธการ จ่ายเงินทั้งสองฉบับในวันเดียวกัน แต่การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนในเช็ค ณ วันที่ที่ลงในเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีเจตนาให้จ่ายเงิน ตามเช็ค แต่ละ ฉบับแยกจากกันเป็นคนละส่วนคนละ จำนวน ไม่ได้ ร่วมเป็นเช็คฉบับเดียวกัน ความผิดเกิดขึ้นต่างหากแยกจากกันได้ โดยชัดเจนเป็นการ เฉพาะตัว ของ เช็ค แต่ละ ฉบับจึงเป็นความผิดต่างกรรมกัน เป็นคนละกระทงความผิดแยกจากกัน การที่ศาลจะสั่งให้หักจำนวนวันที่จำเลยถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาออกจากโทษ จำคุกตามคำพิพากษา หรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก ทั้งมิใช่กรณีที่หาก โจทก์ไม่มีคำขอ ขึ้น มา ศาล ก็ วินิจฉัย ให้ไม่ได้ ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้น ระบุ ในคำพิพากษา โดยชัดแจ้งว่า หัก วันที่ จำเลย ถูก คุมขัง ให้ เฉพาะ วัน ถูกคุมขังที่ไม่ซ้ำซ้อนนั้นจึงชอบแล้ว ที่ จำเลยฎีกาว่า คำฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลย ออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อ ชำระหนี้เป็นการ บรรยายฟ้อง ไม่ครบ องค์ประกอบ ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ซึ่ง เป็น กฎหมายที่ออกใช้บังคับภายหลังอันเป็นคุณแก่จำเลย จึงลงโทษ จำเลยไม่ได้นั้น เป็นข้อที่ จำเลย มิได้ ยกขึ้น ว่ากันมาแล้ว ใน ศาลอุทธรณ์ จำเลยเพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกาจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบกับมาตรา 225 และ แม้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยก็ตาม แต่ศาลฎีกา เห็นสมควร ไม่รับ วินิจฉัย ให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4405/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้ไต่สวนราคาทรัพย์ขายทอดตลาดต้องมีคำขอให้ยกเลิกการขาย หากศาลไต่สวนแต่ไม่ยกเลิก ก็ไม่เป็นผล
ตามคำร้อง ของ จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องเพื่อขอให้จำเลยพิสูจน์ถึงราคาทรัพย์ที่ขายทอดตลาดที่แท้จริงดังนั้น แม้หากศาลได้ไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยตามที่จำเลยฎีกา กรณีก็ไม่อาจยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดได้เนื่องจากจำเลยมิได้มีคำขอมาเช่นนั้น จึงต้องยกคำร้อง
of 65