พบผลลัพธ์ทั้งหมด 406 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3250/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดก: การโอนทรัพย์และรับชำระหนี้โดยผู้จัดการมรดก ไม่ถือเป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกหากยังไม่เสร็จสิ้น
จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางจ.ผู้ตาย การที่จำเลยเพียงแต่ยื่นคำร้องขอโอนที่ดินเป็นของจำเลยทั้งหมดโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ มิใช่การยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกส่วนที่จำเลยรับชำระหนี้แล้วไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีนั้นเมื่อการจัดการมรดกยังไม่เสร็จ จำเลยก็มีอำนาจเก็บรักษาเงินดังกล่าวไว้เพื่อแบ่งแก่ทายาทต่อไปได้การที่จำเลยยังไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีจึงไม่เป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3250/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดก: การโอนทรัพย์สินและชำระหนี้โดยผู้จัดการมรดก ไม่ถือเป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์สิน
จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนาง จ. ผู้ตาย การที่จำเลยเพียงแต่ยื่นคำร้องขอโอนที่ดินเป็นของจำเลยทั้งหมด โดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ มิใช่การยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดก ส่วนที่จำเลยรับชำระหนี้แล้วไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีนั้นเมื่อการจัดการมรดกยังไม่เสร็จ จำเลยก็มีอำนาจเก็บรักษาเงินดังกล่าวไว้เพื่อแบ่งแก่ทายาทต่อไปได้ การที่จำเลยยังไม่แบ่งเงินแก่โจทก์ทั้งห้าทันทีจึงไม่เป็นการยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3094/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดคดีแรงงานและการไต่สวนพฤติการณ์นอกเหนือความสามารถในการควบคุม ศาลต้องไต่สวนก่อน
ตามคำร้องของจำเลยที่ขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า จำเลยไม่เคยได้รับสำเนาคำฟ้อง และไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องคดีนี้ สำนักงานของจำเลยมิได้ทำการมานานแล้ว และไม่มีผู้ใดอยู่ เมื่อจำเลยไปที่สำนักงานในวันยื่นคำร้องนี้จึงพบคำบังคับ ดังนี้ จำเลยได้อ้างถึงพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้แล้ว จึงชอบที่ศาลแรงงานจะรับคำร้องไว้ทำการไต่สวนว่าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยอ้างและเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้หรือไม่ การที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และด่วนยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ทำการไต่สวนเสียก่อนเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3094/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ได้รับสำเนาคำฟ้องและการไต่สวนพฤติการณ์นอกเหนือความสามารถในการควบคุม
ตามคำร้องของจำเลยที่ขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า จำเลยไม่เคยได้รับสำเนาคำฟ้อง และไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องคดีนี้ สำนักงานของจำเลยมิได้ทำการมานานแล้ว และไม่มีผู้ใดอยู่ เมื่อจำเลยไปที่สำนักงานในวันยื่นคำร้องนี้จึงพบคำบังคับดังนี้ จำเลยได้อ้างถึงพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้แล้ว จึงชอบที่ศาลแรงงานจะรับคำร้องไว้ทำการไต่สวนว่าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยอ้างและเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้หรือไม่ การที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และด่วนยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ทำการไต่สวนเสียก่อนเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3009/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติมีผลผูกพัน แม้ผู้บุกรุกอ้างว่าไม่รู้
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงเป็นป่าสงวนแห่งชาติและทางราชการได้ปิดประกาศสำเนากฎกระทรวงและแผนที่ท้ายกฎกระทรวงไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนันท้องที่ และที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในหมู่บ้านท้องที่นั้นตามมาตรา 9 แห่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2507 แล้ว ย่อมมีผลให้ที่ดินในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติทันที จำเลยที่ 2 จะอ้างว่าไม่รู้ว่าที่ดินแปลงที่เกิดเหตุเป็นป่าสงวนแห่งชาติหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2970/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ปลอม: การลงลายมือชื่อในสัญญาที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ และการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินโดยไม่ได้รับความยินยอม
จำเลยกู้เงินโจทก์และลงลายมือชื่อในสัญญากู้โดยยังไม่ได้กรอกข้อความ สามีโจทก์กรอกข้อความและจำนวนเงินขึ้นเองภายหลังมากกว่าจำนวนที่กู้จริงโดยจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอม สัญญากู้จึงเป็นสัญญากู้ปลอม ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานเป็นหนังสือที่จะฟ้องบังคับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2846/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดทางศุลกากร: โจทก์ต้องนำสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิดที่จำเลยกระทำ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรเป็นผู้ลักลอบนำพาเลื่อยยนต์ ซึ่งเป็นของที่มีถิ่นกำเนิดผลิตในต่างประเทศซึ่งยังมิได้เสียภาษีและยังมิได้ผ่านศุลกากร โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลที่จะต้องเรียกค่าภาษีอากรขาเข้า หรือมิฉะนั้น จำเลยได้ซื้อ รับจำนำ รับไว้ซึ่งเลื่อยยนต์ และช่วยพาเอาไปเสีย ช่วยจำหน่าย ช่วยซ่อนเร้น ซึ่งของดังกล่าวโดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ผู้อื่นลักลอบนำพาหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรที่จะต้องเสียสำหรับของนั้น แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียว เพราะความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าวเป็นคนละความผิดกันจะลงโทษจำเลยในทั้งสองข้อหาดังกล่าวย่อมไม่ได้ เมื่อจำเลยให้การว่า "ขอให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ" ย่อมไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำต่อพระราชบัญญัติศุลกากรฐานใด จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรของจำเลย เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานจึงลงโทษจำเลยในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2846/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำลายป่าสงวนฯ,แปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต,และข้อหาเกี่ยวกับศุลกากรที่ขาดการสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ลักลอบนำพาเลื่อยยนต์ซึ่งเป็นของที่มีถิ่นกำเนิดผลิตในต่างประเทศซึ่งยังมิได้เสียภาษีและยังมิได้ผ่านศุลกากร โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลที่จะต้องเรียกค่าภาษีอากรขาเข้า หรือมิฉะนั้น จำเลยได้ซื้อ รับจำนำ รับไว้ซึ่งเลื่อยยนต์ และช่วยพาเอาไปเสีย ช่วยจำหน่าย ช่วยซ่อนเร้นซึ่งของดังกล่าวโดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ผู้อื่นลักลอบนำพาหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรที่จะต้องเสียสำหรับของนั้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27,27 ทวิ แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าวเป็นคนละความผิดกันจะลงโทษจำเลยในทั้งสองข้อหาย่อมไม่ได้ เมื่อจำเลยให้การว่าขอให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ย่อมไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรฐานใดจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรของจำเลย เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานจึงลงโทษจำเลยในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2846/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดศุลกากรต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน หากโจทก์ไม่นำสืบพยาน ศาลลงโทษไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร เป็นผู้ลักลอบนำพาเลื่อยยนต์ ซึ่งเป็นของที่มีถิ่นกำเนิดผลิตในต่างประเทศซึ่งยังมิได้เสียภาษีและยังมิได้ผ่านศุลกากร โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลที่จะต้องเรียกค่าภาษีอากรขาเข้า หรือมิฉะนั้น จำเลยได้ซื้อรับจำนำ รับไว้ซึ่งเลื่อยยนต์ และช่วยพาเอาไปเสียช่วยจำหน่าย ช่วยซ่อนเร้น ซึ่งของดังกล่าวโดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ผู้อื่นลักลอบนำพาหนี้ศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรที่จะต้องเสียสำหรับของนั้น แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียว เพราะความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าวเป็นคนละความผิดกันจะลงโทษจำเลยในทั้งสองข้อหาดังกล่าวย่อมไม่ได้ เมื่อจำเลยให้การว่า "ขอให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ" ย่อมไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำต่อพระราชบัญญัติศุลกากรฐานใด จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรของจำเลย เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานจึงลงโทษจำเลยในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกไม่จำเป็นต้องแบ่งทรัพย์มรดก หากมีข้อโต้แย้งเรื่องสิทธิในทรัพย์สิน
ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้คัดค้านกับพวกซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายไปพบผู้ร้องเพื่อให้แบ่งที่ดินมรดก แต่ผู้ร้องไม่ยอมแบ่งให้โดยอ้างว่าผู้ตายยกที่ดินดังกล่าวให้ผู้ร้องก่อนแล้ว ดังนี้ เป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดินดังกล่าว หาใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกหรือมีเหตุอื่นอันสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกไม่