พบผลลัพธ์ทั้งหมด 565 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์น้ำมันของลูกจ้างที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ การครอบครองน้ำมันยังเป็นของนายจ้าง
จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างของกรมชลประทานได้รับคำสั่งให้ไปควบคุมเครื่องดัน น้ำ โดยกรมชลประทานส่งน้ำมันที่ใช้กับเครื่องดัน น้ำดังกล่าวให้ทุกวัน และมีเจ้าหน้าที่ไปควบคุมการปฏิบัติงานและตรวจสอบการใช้น้ำมันของจำเลยทั้งสองทุกวัน ดังนี้น้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของกรมชลประทานเมื่อจำเลยทั้งสองเอาน้ำมันนั้นไปขาย จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างลักทรัพย์นายจ้าง: น้ำมันที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลยังอยู่ในความครอบครองของนายจ้าง การลักไปขายจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้รับคำสั่งให้ไปควบคุมเครื่องดันน้ำโดยกรมชลประทานส่งน้ำมันที่ใช้กับเครื่องดันน้ำให้ และมีเจ้าหน้าที่ไปควบคุมดูแลการปฏิบัติงานและตรวจสอบการใช้น้ำมันทุกวัน น้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของกรมชลประทาน เมื่อจำเลยทั้งสองเอาน้ำมันไปขายจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2530)
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2530)
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ลักทรัพย์ไม่สำเร็จ: การกระทำที่ยังไม่ถึงขั้นเคลื่อนย้ายทรัพย์สินเข้าถือครอง ถือเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
ในคืนเกิดเหตุจำเลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายแล้วจับและดึงท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่งใส่กุญแจคอ(ล็อก) อยู่บนขาตั้งผู้เสียหายร้องขึ้นว่า ขโมยจำเลยวิ่งหนีไป แม้รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจะยังไม่เคลื่อนที่ไปก็ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์: การกระทำที่ยังไม่สำเร็จและความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐาน
ในคืนเกิดเหตุจำเลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายแล้วจับและดึงท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่งใส่กุญแจคอ(ล็อก) อยู่บนขาตั้งผู้เสียหายร้องขึ้นว่า ขโมยจำเลยวิ่งหนีไป แม้รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจะยังไม่เคลื่อนที่ไปก็ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4048/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจร ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อหาเดิมตามฎีกาโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพฐานรับของโจร จำเลยที่ 2ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานรับของโจร ดังนี้ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาฐานรับของโจร เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ต้องถือว่าข้อหารับของโจรสำหรับจำเลยที่ 1ยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้นจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้พิพากษายกฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ที่ศาลอุทธรณ์ต้องวินิจฉัยจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานรับของโจรไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานลักทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อหาฐานลักทรัพย์ตามฎีกาของโจทก์โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4048/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เรื่องลักทรัพย์-รับของโจร โดยวินิจฉัยข้อหาเดิมตามที่โจทก์ฎีกา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยที่1ให้การรับสารภาพฐานรับของโจรจำเลยที่2ให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่1มีความผิดฐานลักทรัพย์จำเลยที่2มีความผิดฐานรับของโจรดังนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่1ในข้อหาฐานรับของโจรเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ต้องถือว่าข้อหารับของโจรสำหรับจำเลยที่1ยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้นจำเลยที่1อุทธรณ์ขอให้พิพากษายกฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ที่ศาลอุทธรณ์ต้องวินิจฉัยจำเลยที่1กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่1ฐานรับของโจรไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่1ฐานลักทรัพย์ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อหาฐานลักทรัพย์ตามฎีกาของโจทก์โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์ - ความสัมพันธ์ญาติ - การกระทำโดยวิสาสะ - ไม่มีเจตนาทุจริต - ยกฟ้อง
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกัน จำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิง อ. บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนา โดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วย แสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในความสัมพันธ์ญาติ: เจตนาทุจริตและการถือวิสาสะ
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกันจำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิงอ.บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนาโดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วยแสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกันจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์ - การกระทำโดยวิสาสะในฐานะญาติ - ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกัน จำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิง อ. บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนา โดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วย แสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3562/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่เกิดจากการล่อลวงของพนักงานสอบสวนเป็นโมฆะ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็รับฟังไม่ได้
คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยในฐานะพยานเกิดจากการให้คำมั่นสัญญาของพนักงานสอบสวนที่ว่าจะกันจำเลยไว้เป็นพยานส่วนคำให้การในฐานะผู้ต้องหาเป็นผลโดยตรงจากคำให้การในฐานะพยานจึงเป็นคำให้การที่เกิดจากการล่อลวงของพนักงานสอบสวนแม้จำเลยให้การรับสารภาพก็รับฟังไม่ได้.