คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 335

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 565 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากลักทรัพย์เป็นรับของโจรในชั้นอุทธรณ์ และสิทธิฎีกาของโจทก์และจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ย่อมถือได้ว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ในข้อหารับของโจรเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์กรณีต้องถือว่าข้อหาฐานรับของโจรได้ยุติไปแล้ว และเมื่อจำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ปัญหาวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์คงมีเพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาอย่างไรก็ตามย่อมถือได้ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ด้วย โจทก์จึงมีสิทธิฎีกาให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้ แต่ที่จำเลยฎีกาขอให้แก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยยกฟ้องโจทก์นั้นย่อมมีความหมายว่าขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหารับของโจร ซึ่งข้อหานี้ยุติไปแล้วศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์เปลี่ยนข้อหา – ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาเฉพาะข้อหาเดิมที่จำเลยอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ย่อมถือได้ว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ในข้อหารับของโจร เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ กรณีต้องถือว่าข้อหาฐานรับของโจรได้ยุติไปแล้ว และเมื่อจำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ปัญหาวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์คงมีเพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา อย่างไรก็ตามย่อมถือได้ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ด้วย โจทก์จึงมีสิทธิฎีกาให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้ แต่ที่จำเลยฎีกาขอให้แก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยยกฟ้องโจทก์นั้น ย่อมมีความหมายว่าขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหารับของโจร ซึ่งข้อหานี้ยุติไปแล้วศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2534/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการลักทรัพย์และการหลบหนีหลังกระทำผิด
การที่จำเลยขี่รถจักรยานสองล้อเข้าไปในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อลักรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายรถจักรยานสองล้อที่จำเลยใช้ขี่ไปย่อมเป็นยานพาหนะที่ให้ความสะดวกแก่จำเลยในการกระทำผิดและหลังจากพวกของจำเลยนำรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายขี่หนีไปแล้วจำเลยได้ขี่รถจักรยานสองล้อที่ขี่มาหลบหนีไปด้วย เป็นการใช้ยานพาหนะหลบหนีไปเพื่อให้พ้นการจับกุมจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2534/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการลักทรัพย์และการหลบหนีหลังกระทำผิด
การที่จำเลยขี่รถจักรยานสองล้อเข้าไปในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อลักรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหาย รถจักรยานสองล้อที่จำเลยใช้ขี่ไปย่อมเป็นยานพาหนะที่ให้ความสะดวกแก่จำเลยในการกระทำผิด และหลังจากพวกของจำเลยนำรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายขี่หนีไปแล้ว จำเลยได้ขี่รถจักรยานสองล้อที่ขี่มาหลบหนีไปด้วย เป็นการใช้ยานพาหนะหลบหนีไปเพื่อให้พ้นการจับกุม จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชิงทรัพย์ต้องมีเจตนาใช้กำลัง การรู้เห็นเป็นใจสำคัญ
จำเลยกับ ว.คบคิดกันมาลักทรัพย์เท่านั้นจำเลยไม่รู้ว่าว.จะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เมื่อจำเลยมิได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่ ว.ประทุษร้ายผู้เสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์คงมีความผิดฐานลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปที่ไม่เป็นทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชน และผลกระทบของ พ.ร.บ.ล้างมลทินต่อการเพิ่มโทษ
พระพุทธรูปที่จำเลยลักไปหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว ตั้งไว้ที่มุมโต๊ะบูชาในห้องของหอสวดมนต์ ถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ทวิ วรรคแรก แม้จำเลยจะลักพระพุทธรูปนี้ในวัดก็ ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 335 ทวิ วรรคสอง ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา พระราชบัญญัติล้างมลทินได้ใช้ บังคับ โดยพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าบรรดาผู้ต้องโทษและได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้ บังคับ เป็นผู้มิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ ดังนี้ เมื่อความผิดที่ศาลจำคุกจำเลยที่โจทก์อาศัยเป็นเหตุขอให้ เพิ่มโทษ จำเลยได้พ้นโทษไปก่อนวันที่พระราชบัญญัติข้างต้นใช้บังคับจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ แต่สำหรับโทษจำคุกที่ศาลรอการลงโทษไว้ นำมาบวกแก่โทษของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูป และการเพิ่มโทษจากคดีก่อนหน้าที่มีการล้างมลทิน
พระพุทธรูปที่จำเลยลักไปหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว ตั้งไว้ที่มุมโต๊ะบูชาในห้องของหอสวดมนต์ ถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ทวิ วรรคแรก แม้จำเลยจะลักพระพุทธรูปนี้ในวัดก็ ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 335 ทวิ วรรคสอง
ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา พระราชบัญญัติล้างมลทินได้ใช้ บังคับ โดยพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าบรรดาผู้ต้องโทษและได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้ บังคับ เป็นผู้มิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ ดังนี้เมื่อความผิดที่ศาลจำคุกจำเลยที่โจทก์อาศัยเป็นเหตุขอให้เพิ่มโทษ จำเลยได้พ้นโทษไปก่อนวันที่พระราชบัญญัติข้างต้นใช้บังคับจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ แต่สำหรับโทษจำคุกที่ศาลรอการลงโทษไว้นำมาบวกแก่โทษของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยฎีกาเฉพาะคดีลักทรัพย์ ข้อหา รับของโจร ยุติแล้ว ศาลฎีกา ยกฟ้องฐานลักทรัพย์เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ทุกข้อหา โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา โดยโจทก์มิได้ฎีกา กรณีจึงต้องถือว่า ข้อหาความผิดฐานรับของโจรยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ในชั้นฎีกาคดีคงมีปัญหาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กระทำผิดฐานลักทรัพย์โจทก์หรือไม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยฎีกาเฉพาะข้อหาลักทรัพย์ ข้อหาอื่นยุติ ศาลฎีกาไม่พบหลักฐานเพียงพอ ฟังลงโทษฐานลักทรัพย์ไม่ได้
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ทุกข้อหา โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา โดยโจทก์มิได้ฎีกา กรณีจึงต้องถือว่าข้อหาความผิดฐานรับของโจรยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ในชั้นฎีกา คดีคงมีปัญหาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กระทำผิดฐานลักทรัพย์โจทก์หรือไม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้ไม่ร่วมลักทรัพย์ แต่ช่วยซ่อนเร้นรับของโจร ศาลลงโทษฐานรับของโจรได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกเข้าไปลักทรัพย์ในบริเวณบ้าน ของผู้เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกาดังนี้หากศาลฎีกา เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง แต่ฟังได้ว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องมีคนร้าย ลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปและต่อมายึดทรัพย์นั้นได้ใน บริเวณบ้านของจำเลยโดยจำเลยช่วยซ่อนเร้นและรับเอาไว้ซึ่ง ทรัพย์ของผู้เสียหายโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด ฐานลักทรัพย์อันเป็นความผิดฐานรับของโจรแล้ว ศาลฎีกาลงโทษ จำเลย ฐานรับของโจรได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2522
of 57