พบผลลัพธ์ทั้งหมด 383 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4922/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดหรือผู้ต้องหาหลบหนี
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปแล้วถูกนายดาบตำรวจก. กับพวก ยึดรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปไม่ยอมให้ขับออกไป จำเลยที่ 2 ได้มาพูดกับนายดาบตำรวจ ก. กับพวกเป็นทำนองให้ปล่อยรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปและจำเลยที่ 1 เมื่อนายดาบตำรวจ ก. กับพวกไม่ยอม ต่อมาจำเลยที่ 2 ก็พาจำเลยที่ 1 ขึ้นรถยนต์ขับหนีไปแสดงว่าจำเลยที่ 2 รู้แล้วว่าได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษจำเลยที่ 2 จึงต้องมีความผิดฐานช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ หรือไม่ให้ถูกจับกุมตาม ป.อ.มาตรา 189
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4922/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดช่วยผู้ต้องหาหลบหนี: การกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจที่ช่วยเหลือผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับป่าไม้
จำเลยที่1ขับรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปแล้วถูกนายดาบตำรวจก. กับพวกยึดรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปไม่ยอมให้ขับออกไปจำเลยที่2ได้มาพูดกับนายดาบตำรวจก. กับพวกเป็นทำนองให้ปล่อยรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปและจำเลยที่1เมื่อนายดาบตำรวจก.กับพวกไม่ยอมต่อมาจำเลยที่2ก็พาจำเลยที่1ขึ้นรถยนต์ขับหนีไปแสดงว่าจำเลยที่2รู้แล้วว่าได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นและมีจำเลยที่1เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษจำเลยที่2จึงต้องมีความผิดฐานช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษหรือไม่ให้ถูกจับกุมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา189
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ต้องวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระเงินตามคำพิพากษา หรือหาประกัน หากไม่ปฏิบัติตามถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ในการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์นอกจากจำเลยจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลแล้วยังจะต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลอีกด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา234ดังนั้นแม้จำเลยจะได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงที่ต้องรับผิดแทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลแล้วพร้อมกับการยื่นคำฟ้องอุทธรณ์ก็ตามแต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าวและจำเลยได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลทั้งเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยดำเนินการตามบทบัญญัติดังกล่าวและจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวโดยชอบแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้อันเป็นการทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)ประกอบมาตรา246
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยต้องวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน หากไม่ปฏิบัติตามถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ในการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ นอกจากจำเลยจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลแล้ว ยังจะต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลอีกด้วย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 ดังนั้นแม้จำเลยจะได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงที่ต้องรับผิดแทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลแล้วพร้อมกับการยื่นคำฟ้องอุทธรณ์ก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว และจำเลยได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ทั้งเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยดำเนินการตามบทบัญญติดังกล่าว และจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวโดยชอบแล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้ อันเป็นการทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ที่ไม่รับอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
จำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายเพื่อสอดใส่เข้าไปเพราะถ้าจำเลยเอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง4ปีเศษช่องคลอดของผู้เสียหายจะต้องฉีกขาดหรือช้ำบวมมากจำเลยเพียงใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายทำให้เกิดรอยช้ำแดงที่บริเวณด้านนอกของปากช่องคลอดและไม่มีรอยถลอกจำเลยไม่มีเจตนาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายคงมีเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา279วรรคสองเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา277วรรคสอง,80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำอนาจารเด็กโดยไม่สอดใส่ ช่องคลอดไม่ฉีกขาด ไม่ถึงขั้นข่มขืน
จำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายเพื่อสอดใส่เข้าไป เพราะถ้าจำเลยเอาอวัยวะเพศของจำเลยดันที่ปากช่องคลอดของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง 4 ปีเศษ ช่องคลอดของผู้เสียหายจะต้องฉีกขาดหรือช้ำบวมมาก จำเลยเพียงใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหาย ทำให้เกิดรอยช้ำแดงที่บริเวณด้านนอกของปากช่องคลอดและไม่มีรอยถลอก จำเลยไม่มีเจตนาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย คงมีเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 279 วรรคสอง เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราตาม ป.อ. มาตรา 277วรรคสอง, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4334/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีราคาที่ดินพิพาทมีผลต่อการอุทธรณ์ฎีกา หากโจทก์ไม่คัดค้านราคาที่ศาลกำหนด ย่อมไม่อาจอุทธรณ์ฎีกาในภายหลังได้
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ปรากฏว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ฟ้องแย้งโดยตีราคาที่ดินพิพาท 32,000 บาท ศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้ว โจทก์ไม่ค้านราคานี้ประกอบกับเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะคดีมีทุนทรัพย์พิพาทชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาท และเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ.มาตรา 236 โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพิพาทให้สูงขึ้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4334/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีราคาที่ดินพิพาทเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกา: ศาลไม่อนุมัติการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินหลังโจทก์ไม่คัดค้านในชั้นต้น
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฎว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ฟ้องแย้งโดยตีราคาที่ดินพิพาท32,000บาทศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้วโจทก์ไม่ค้านราคานี้ประกอบกับเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะคดีมีทุนทรัพย์พิพาทชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทและเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา236โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพิพาทให้สูงขึ้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3110/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายในท้องตลาด: การซื้อจากร้านค้า vs. ซื้อจากบุคคล
การซื้อทรัพย์ในท้องตลาดหมายถึงการซื้อทรัพย์จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ในท้องตลาดหาใช่เป็นการที่ร้านค้าซึ่งตั้งอยู่ในท้องตลาดซื้อทรัพย์จากบุคคลที่นำมาขายให้แก่ร้านค้านั้นไม่เพราะการซื้อทรัพย์จากบุคคลที่นำทรัพย์มาขายมิใช่เป็นการซื้อจากสถานที่ซึ่งมีร้านค้าเสนอขายแก่คนทั่วไปหรือมิใช่ซื้อจากที่ชุมชนแห่งการค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3110/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายในท้องตลาด: สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ซื้อจากบุคคลในตลาด ไม่ถือเป็นการซื้อจากท้องตลาด
การซื้อทรัพย์ในท้องตลาดหมายถึงการซื้อทรัพย์จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ในท้องตลาด ไม่ใช่เป็นการที่ร้านค้าซึ่งตั้งอยู่ในท้องตลาดซื้อทรัพย์จากบุคคลที่นำมาขายให้แก่ร้านค้านั้น จำเลยตั้งร้านค้าอยู่ในท้องตลาดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ที่ถูกคนร้ายลักไปจากผู้ทีี่นำมาขาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลในท้องตลาด จำเลยจึงต้องคืนสลากกินแบ่งรัฐบาลให้โจทก์ วัตถุแห่งหนี้ในการคืนสลากกินแบ่งรัฐบาลให้โจทก์มิใช่เป็นการบังคับให้กระทำนิติกรรม จึงพิพากษาให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาในกรณีที่จำเลยไม่ยอมคืนสลากกินแบ่งรัฐบาลให้โจทก์ไม่ได้