พบผลลัพธ์ทั้งหมด 383 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกาย: การกระทำเดียวกันถือเป็นความผิดเพียงฐานเดียว
เมื่อวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าและลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแล้ว การกระทำอันเดียวกันนี้เองจำเลยไม่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกบทหนึ่ง คงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเพียงบทเดียวเท่านั้น ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การลงโทษซ้ำซ้อนในคดีอาญา
เมื่อวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าและลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแล้วการกระทำอันเดียวกันนี้เองจำเลยไม่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกบทหนึ่งคงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเพียงบทเดียวเท่านั้นปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3607/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน – คำให้การชั้นสอบสวนมีน้ำหนักกว่าคำเบิกความในชั้นศาลเมื่อมีเหตุผลสนับสนุน
ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ศาลฟังคำให้การชั้นสอบสวนประกอบการพิจารณาของศาลประจักษ์พยานโจทก์ให้การชั้นสอบสวนสอดคล้องกันเมื่อพิจารณาประกอบคำเบิกความของพยานโจทก์อีกปากแล้วมีเหตุผลให้เชื่อว่าประจักษ์พยานดังกล่าวเห็นเหตุการณ์ดังที่ให้การไว้จริงการที่ประจักษ์พยานนี้มาเบิกความในชั้นศาลเป็นการบ่ายเบี่ยงเพื่อช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดคำให้การชั้นสอบสวนเชื่อได้ว่าเป็นความจริงยิ่งกว่าคำเบิกความในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3453/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาขายลดเช็คและค้ำประกัน: การนับอายุความเริ่มต้นเมื่อเช็คถูกปฏิเสธ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามสัญญาขายลดเช็คมิได้ฟ้องบังคับให้ใช้เงินตามเช็ค และให้จำเลยที่ 2รับผิดตามสัญญาค้ำประกันสัญญาขายลดเช็ค ต้องนำอายุความตามสัญญาขายลดเช็คและสัญญาค้ำประกันมาใช้บังคับ ซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงอยู่ในอายุความทั่วไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 มีกำหนด 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3453/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาซื้อขายลดเช็คและสัญญาค้ำประกัน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามสัญญาขายลดเช็ค มิได้ฟ้องบังคับให้ใช้เงินตามเช็คและฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกัน ต้องนำอายุความตามสัญญาขายลดเช็คและสัญญาค้ำประกันมาใช้บังคับ ซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงอยู่ในอายุความทั่วไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 ซึ่งมีกำหนด 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3453/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาขายลดเช็คและสัญญาค้ำประกัน: กำหนด 10 ปีนับจากวันเช็คถูกปฏิเสธ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่1รับผิดตามสัญญาขายลดเช็คมิได้ฟ้องบังคับให้ใช้เงินตามเช็คและให้จำเลยที่2รับผิดตามสัญญาค้ำประกันสัญญาขายลดเช็คต้องนำอายุความสัญญาขายลดเช็คและสัญญาค้ำประกันมาใช้บังคับซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงอยู่ในอายุความทั่วไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/30มีกำหนด10ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3096/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิซื้อก่อนตามสัญญาเช่า & การเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินเมื่อผู้ซื้อไม่ทราบข้อตกลง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1เพื่อทำสวน โดยมีข้อสัญญาว่าเมื่อจำเลยที่ 1 ประสงค์จะขายที่ดินพิพาท จำเลยที่ 1ต้องบอกโจทก์ก่อน เพื่อโจทก์จะได้มีโอกาสซื้อเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร แต่ในระหว่างสัญญาเช่าจำเลยที่ 1 นำที่ดินพิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 ในการทำสัญญาขายที่ดินพิพาท จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันหลอกลวงแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่าไม่มีสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน ไม่มีค้างชำระภาษีไม่มีผู้เช่า เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินรับจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2โดยจำเลยที่ 1 มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้า อันเป็นการผิดสัญญา โจทก์ไม่มีโอกาสซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนสัญญาขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่าขณะที่ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 นั้น จำเลยที่ 2 ได้รู้อยู่ก่อนแล้วว่ามีข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ที่ให้โอกาสโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทได้ก่อนบุคคลอื่นและจำเลยที่ 2รู้ถึงข้อตกลงดังกล่าวด้วย ดังนี้ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องยังไม่อาจเพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสองตามคำขอบังคับของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3096/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการจดทะเบียนซื้อขายที่ดิน: จำเลยที่ 2 ต้องรู้ข้อตกลงสิทธิซื้อก่อนของโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนสัญญาขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2โดยมิได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่าขณะที่ทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2นั้นจำเลยที่2ได้รู้อยู่ก่อนแล้วว่ามีข้อตกลงระหว่างจำเลยที่1กับโจทก์ที่ให้โอกาสโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทได้ก่อนบุคคลอื่นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา237ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องจึงยังไม่อาจเพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2985/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิครอบครองที่ดินหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต และอายุความฟ้องร้อง
โจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยเป็นผู้รับมรดกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 1016 เพราะจำเลยเป็นผู้ออกเงินไถ่ถอนจำนองที่ดินจากธนาคาร แม้ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่เป็นเรื่องการสละมรดก เพราะการสละมรดกต้องแสดงเจตนาชัดแจ้งเป็นหนังสือมอบให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือต้องทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1612 ก็ตามเมื่อโจทก์ได้แสดงความประสงค์ตามบันทึกถ้อยคำให้จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินแต่เพียงผู้เดียว ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองในที่ดินให้แก่จำเลยและจำเลยตกลงรับเอาแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอแบ่งที่ดินในฐานะที่เป็นทรัพย์มรดกอีก
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่า โจทก์เก็บมะขามและน้อยหน่าในที่ดิน การที่จำเลยมิได้หวงห้ามยังไม่อาจถือว่าจำเลยยอมรับว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินร่วมด้วย ที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกยกที่ดินให้จำเลยแล้ว แสดงให้เห็นว่าจำเลยครอบครองที่ดินเพื่อตนเอง หาใช่ครอบครองแทนโจทก์ไม่ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย คดีโจทก์สำหรับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 900 และ 1246 จึงขาดอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่า โจทก์เก็บมะขามและน้อยหน่าในที่ดิน การที่จำเลยมิได้หวงห้ามยังไม่อาจถือว่าจำเลยยอมรับว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินร่วมด้วย ที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกยกที่ดินให้จำเลยแล้ว แสดงให้เห็นว่าจำเลยครอบครองที่ดินเพื่อตนเอง หาใช่ครอบครองแทนโจทก์ไม่ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย คดีโจทก์สำหรับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 900 และ 1246 จึงขาดอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2985/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละมรดกโดยความยินยอมและการขาดอายุความฟ้องร้องสิทธิในที่ดินมรดก
แม้ข้อตกลงที่โจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยเป็นผู้รับมรดกที่ดินมิใช่การสละมรดกเพราะไม่ได้แสดงเจตนาเป็นหนังสือมอบให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612แต่เมื่อโจทก์ได้แสดงความประสงค์ตามบันทึกถ้อยคำที่ทำขึ้นเมื่อจำเลยไปขอโอนมรดกโดยให้จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินเพียงผู้เดียวถือว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองให้แก่จำเลยและจำเลยตกลงรับเอาแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิขอแบ่งที่ดินนั้นอีก โจทก์เพียงแต่เก็บผลไม้ในที่ดินมรดกโดยจำเลยซึ่งครอบครองและทำประโยชน์อยู่มิได้หวงห้ามยังไม่อาจถือว่าจำเลยยอมรับว่าโจทก์ครอบครองที่ดินร่วมด้วยฉะนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินดังกล่าวเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายคดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1754