คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิวัตน์ แก้วเกิดเคน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 280 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องต้องมีนิติสัมพันธ์กับทรัพย์สินพิพาท การเป็นผู้รับจ้างตัดไม้ไม่อาจเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในไม้ได้
โจทก์เป็นผู้รับจ้างตัดและขนไม้ให้ ย. ผู้รับสัมปทานเมื่อไม้ถูกยึดแม้โจทก์จะเสียค่าใช้จ่ายในการตัดไม้นั้นก็ถือไม่ได้ว่าไม้ที่ตัดเป็นของโจทก์เพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้รับสัมปทานทั้งไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆกับจำเลยโจทก์จึงไม่ถูกโต้แย้งสิทธิและไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในไม้ตัดจากการจ้างช่วง: ไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับผู้รับสัมปทาน ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าไม้
โจทก์เป็นผู้เช่ากิจการบริษัทโรงเลื่อยจักร บ. จำกัด ซึ่งรับจ้างตัดและขนไม้ให้แก่บริษัท ย. จำกัด ผู้รับสัมปทานทำไม้จากจำเลย โจทก์มีพันธะที่จะต้องปฏิบัติต่อบริษัท ย. จำกัด ผู้รับสัมปทานตามสัญญาจ้างเท่านั้น ไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยทั้งสอง แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการตัดไม้ของกลาง และมีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลฎีกาไม่ริบไม้ของกลาง ก็จะถือว่าไม้ของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หาได้ไม่ โจทก์จึงไม่ถูกโต้แย้งสิทธิและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้ชำระเงินค่าขายไม้ของกลางให้แก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีขับไล่และการเรียกร้องค่าเสียหายที่รวมอยู่ในคำฟ้องเดียวกัน
ในคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวน135,433บาทพร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายอีกเดือนละ50,000บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์เมื่อโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายนี้อย่างเอกเทศในข้อหาอื่นคงเรียกมาเป็นส่วนหนึ่งของการฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นเมื่อได้ความว่าขณะยื่นฟ้องโจทก์ให้เช่าที่ดินพิพาทไม่เกินเดือนละ2,000บาทจึงเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการเรียกร้องค่าเสียหายควบคู่กับการฟ้องขับไล่ และข้อห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ในคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวน 135,433 บาท พร้อมดอกเบี้ย และค่าเสียหายอีกเดือนละ50,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายนี้อย่างเอกเทศในข้อหาอื่นคงเรียกมาเป็นส่วนหนึ่งของการฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นเมื่อได้ความว่า ขณะยื่นฟ้องโจทก์ให้เช่าที่ดินพิพาทไม่เกินเดือนละ 2,000 บาทจึงเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวมในสินสมรส: การฟ้องบังคับจัดการทรัพย์สินรวม แม้มีหนี้ร่วม การแบ่งทรัพย์สินเป็นอีกเรื่อง
ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับผู้ตายโจทก์ย่อมมีกรรมสิทธิ์รวมในที่พิพาทในฐานะเจ้าของรวมและมีสิทธิจัดการทรัพย์สินนั้นได้การที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายใส่ชื่อตนในโฉนดที่พิพาทเป็นการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในทางจัดการตามธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1358เมื่อไม่มีข้อตกลงระหว่างเจ้าของรวมเป็นอย่างอื่นแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยได้แม้ผู้ตายจะได้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองที่ดินซึ่งเป็นหนี้อันเกี่ยวกับทรัพย์สินรวมและเป็นหนี้ร่วมระหว่างโจทก์กับผู้ตายก็เป็นคนละกรณีกันเพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์สินระหว่างเจ้าของรวมจึงไม่อาจนำมาใช้ยันหรือปฏิเสธมิให้โจทก์ใส่ชื่อในโฉนดที่พิพาทได้เป็นเรื่องที่จำเลยต้องไปว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่งในเวลาที่แบ่งทรัพย์สินรวม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายที่ดินตามข้อตกลงนอกสัญญา ไม่ขัดต่อ ป.วิ.พ.มาตรา 94(ข)
ตามสัญญาซื้อขายที่ดินท้ายเอกสารหมาย ล.5 ระบุราคาที่ซื้อขายกันเพียง 3,000,000 บาท ทั้งที่ราคาที่ซื้อขายกันจริงตามที่คู่ความรับกันว่ามีราคา9,500,000 บาท ตามสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย จ.4 ดังนั้น แม้สัญญาซื้อขายท้ายเอกสารหมาย ล.5 จะมีข้อความว่า ผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินรายนี้เรียบร้อยแล้ว การที่โจทก์นำสืบว่ายังได้รับชำระค่าที่ดินไม่ครบถ้วน ก็หาเป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายที่ดินท้ายเอกสารหมาย ล.5 เพราะคู่ความได้รับกันแล้วว่าซื้อขายกันจริงในราคา 9,500,000 บาท ไม่ใช่ตามราคาที่ระบุในสัญญาดังกล่าว การนำสืบว่ายังได้รับค่าที่ดินไม่ครบถ้วนตามราคาที่แท้จริงตามที่รับกัน จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 94 (ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายที่ดิน การนำสืบหลักฐานราคาที่แท้จริงไม่ขัดต่อข้อห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สัญญาซื้อขายที่ดินระบุราคาซื้อขายจำนวน3,000,000บาทแต่คู่ความรับกันว่าซื้อขายกันจริงในราคา9,500,000บาทดังนั้นแม้สัญญาซื้อขายมีข้อความว่าผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินเรียบร้อยแล้วก็ตามการที่ผู้ขายนำสืบว่ายังได้รับเงินค่าที่ดินไม่ครบถ้วนตามราคาที่แท้จริงจึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา94(ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติ: สิทธิการครอบครองเหนือระยะเวลาฟ้องแย่งการครอบครอง
ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันจำเลยและจำเลยร่วมไม่มีสิทธิยกเอาระยะเวลาฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทภายใน1ปีตามป.พ.พ.มาตรา1375ขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ยึดถือครอบครองอยู่ก่อนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7358/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การส่งมอบการครอบครองตามสัญญาซื้อขายและการพิสูจน์การครอบครองที่แท้จริง
ที่ดินพิพาทจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ขายมี แต่เพียงสิทธิครอบครอง หากมีการส่งมอบที่ดินพิพาทให้ โจทก์แล้ว โจทก์ก็อาจได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 มิใช่ได้สิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขาย กรณีจึงมีการสืบพยานถึงการครอบครองที่ดินพิพาทได้ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารแต่อย่างใด ปัญหาข้อนี้แม้มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์โจทก์ก็ยกขึ้นฎีกาได้เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7358/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การได้มาจากการส่งมอบ มิใช่จากสัญญาซื้อขาย
ที่ดินพิพาทจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ขายมีแต่เพียงสิทธิครอบครอง หากมีการส่งมอบที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้ว โจทก์ก็อาจได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377, 1378 มิใช่ได้สิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขาย กรณีจึงมีการสืบพยานถึงการครอบครองที่ดินพิพาทได้ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารแต่อย่างใด ปัญหาข้อนี้แม้มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์โจทก์ก็ยกขึ้นฎีกาได้เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
of 28