คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทวีชัย เจริญบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 689 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7587/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในหนี้แทนกัน แม้ไม่ได้กู้เอง แต่ยินยอมทำสัญญาผูกพันหนี้เดิม
ตามข้อความในสัญญากู้ เอกสารหมาย จ.1 จำเลยได้เขียนชื่อของตนเองว่าจำเลยทำแทน ก. และลงลายมือชื่อของจำเลยในช่องผู้กู้ เช่นนี้เพื่อพิจารณาประกอบข้อเท็จจริงว่า ก. กับจำเลยเคยเป็นสามีภรรยากัน และเคยร่วมกันค้าขายน้ำมัน เดิม ก.เป็นหนี้เงินกู้โจทก์อยู่ตามสัญญากู้ เอกสารหมาย ล.1ซึ่งจำเลยก็ทราบดีเพราะเป็นคนเขียนสัญญากู้ดังกล่าว เมื่อ ก.หลบหนีไป โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แทน ก. จำเลยก็ยินยอมทำสัญญากู้เอกสารหมาย จ.1 กับโจทก์โดยนำหนี้ตามสัญญากู้เอกสารหมาย ล.1 พร้อมดอกเบี้ยค้างชำระมารวมเป็นหนี้ตามสัญญากู้เอกสารหมาย จ.1 ดังนี้ แม้จำเลยจะมิได้กู้เงินโจทก์ แต่จำเลยเข้าทำสัญญากู้เอกสารหมาย จ.1 กับโจทก์โดยมีเจตนาเข้าผูกพันตนยินยอมชำระหนี้แทน ก. ซึ่งเคยเป็นสามีต่อโจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระหนี้ตามสัญญากู้ เอกสารหมาย จ.1ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7304/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนการบังคับคดีเมื่อลูกหนี้หาประกันมาให้พอชำระหนี้ได้ แม้เป็นตามคำสั่งศาลทุเลาการบังคับ
โจทก์ชนะคดีและได้ขอหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา260((2)แต่ก็ต้องงดการบังคับคดีไว้เพราะจำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา231วรรคสี่และจำเลยได้วางหลักประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้วการวางหลักประกันของจำเลยแม้จะเป็นการวางตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในการทุเลาการบังคับก็ถือได้ว่าจำเลยได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีตามมาตรา295(1)แล้วกรณีมีเหตุให้ถอนการบังคับคดีตามมาตรา295(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7304/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนการบังคับคดีเมื่อจำเลยวางหลักประกันตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ แม้จะอยู่ระหว่างการทุเลาการบังคับ
โจทก์ชนะคดีและได้ขอหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 260 (2) แต่ก็ต้องงดการบังคับคดีไว้เพราะจำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ตามป.วิ.พ. มาตรา 231 วรรคสี่ และจำเลยได้วางหลักประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้ว การวางหลักประกันของจำเลยแม้จะเป็นการวางตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในการทุเลาการบังคับ ก็ถือได้ว่าจำเลยได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดี ตามมาตรา 295 (1) แล้ว กรณีมีเหตุให้ถอนการบังคับคดีตามมาตรา 295 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7304/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนการบังคับคดีเมื่อลูกหนี้หาประกันมาให้พอใจศาล แม้เป็นการวางตามคำสั่งศาลอุทธรณ์
โจทก์ชนะคดีในศาลชั้นต้นและโจทก์ได้ขอหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2)แต่โจทก์ก็ต้องงดการบังคับคดีไว้เพราะจำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ตามมาตรา 231 วรรคสี่ โดยจำเลยได้ทำสัญญาประกันวางหลักประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้ว การวางหลักประกันของจำเลยดังกล่าว แม้จะเป็นการวางตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็ตามก็ถือได้ว่า จำเลยได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีตามมาตรา 295(1) แล้ว จึงมีเหตุให้ถอนการบังคับคดีโดยถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7167-7168/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถลงเขา ทำให้เกิดการชนในช่องทางเดินรถของผู้อื่น ผู้ขับมีหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
จำเลยขับรถสวนทางมาด้วยความเร็วสูงเมื่อเข้าทางโค้งซึ่งเป็นทางโค้งขวาลาดลงเนินเขาจำเลยไม่ได้ชะลอความเร็วและขับรถล้ำเข้าไปในช่องเดินรถของโจทก์โดยมองไม่เห็นรถที่โจทก์ขับครั้นโผล่ทางโค้งออกมาก็เห็นรถคันที่โจทก์ขับสวนทางมาในระยะกระชั้นชิดจำเลยเกิดความตกใจครั้นจะหักรถออกทางซ้ายก็กลัวว่าจะตกเหวจึงตัดสินใจหักรถออกทางขวาโดยคาดว่าจะหลบพ้นไปยังที่ราบริมถนนแต่หลบไม่พ้นเพราะจำเลยขับรถลงเนินเขาด้วยความเร็วสูงจึงเป็นเหตุให้ชนถูกด้านซ้ายของหัวรถคันที่โจทก์ขับสวนทางมาเช่นนี้ถือได้ว่าเหตุชนกันเกิดเกิดจากความประมาทของจำเลยฝ่ายเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6967/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน มิใช่เพราะกลฉ้อฉล และสิทธิในการเรียกเงินมัดจำคืน
เมื่อฟังได้ว่าโจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมิใช่เพราะกลฉ้อฉลของจำเลยทั้งสองทั้งข้อความในสัญญาก็ไม่ระบุให้โจทก์เลิกสัญญาได้ก่อนถึงกำหนดวันโอนโจทก์จึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายและเรียกเงินมัดจำคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6967/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขาย: สิทธิเลิกสัญญาและการคืนเงินมัดจำ
เมื่อฟังได้ว่าโจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมิใช่เพราะกลฉ้อฉลของจำเลยทั้งสอง ทั้งข้อความในสัญญาก็ไม่ระบุให้โจทก์เลิกสัญญาได้ก่อนถึงกำหนดวันโอน โจทก์จึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายและเรียกเงินมัดจำคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6927/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดียาเสพติด: เฮโรอีนและเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์เป็นยาเสพติดชนิดเดียวกัน ฟ้องไม่คลุมเครือ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนแม้คำขอท้ายฟ้องกลับขอให้ริบเฮโรอีนซึ่งเป็นคนละชนิดกันแต่เมื่อตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่2(พ.ศ.2522)เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522เฮโรอีนหมายรวมถึงเกลือใดๆของเฮโรอีนด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนก็คือเฮโรอีนและเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเดียวกันฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนแม้ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าจำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนแต่เมื่อเฮโรอีนหมายรวมถึงเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนด้วยเฮโรอีนและเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จึงเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเดียวกันมิได้แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6927/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องยาเสพติด: เฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และเฮโรอีนเป็นยาเสพติดชนิดเดียวกัน ฟ้องไม่คลุมเครือ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีน แม้คำขอท้ายฟ้องกลับขอให้ริบเฮโรอีนซึ่งเป็นคนละชนิดกัน แต่เมื่อตาม ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2522)เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โจทก์ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เฮโรอีนหมายรวมถึงเกลือใด ๆของเฮโรอีนด้วย เฮโรอีนคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนก็คือเฮโรอีนและเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเดียวกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีน แม้ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าจำเลยมี และจำหน่ายเฮโรอีน แต่เมื่อเฮโรอีนหมายรวมถึงเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนด้วยเฮโรอีนและเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จึงเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเดียวกันมิได้แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6760/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจร: การกระทำความผิดหลายกรรม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดฐานรับของโจรในระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2536 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 18มิถุนายน 2537 เวลากลางคืนหลังเที่ยง กรรมหนึ่ง กับกระทำความผิดฐานรับของโจรในระหว่างวันที่ 2 เมษายน 2537 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 18 มิถุนายน2537 เวลากลางคืนหลังเที่ยง อีกกรรมหนึ่ง เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร และคดีไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องสืบพยานโจทก์อีก ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดฐานรับของโจร 2 กรรม
of 69