พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์ - การกระทำโดยวิสาสะในฐานะญาติ - ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกัน จำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิง อ. บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนา โดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วย แสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์ - ความสัมพันธ์ญาติ - การกระทำโดยวิสาสะ - ไม่มีเจตนาทุจริต - ยกฟ้อง
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกัน จำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิง อ. บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนา โดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วย แสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในความสัมพันธ์ญาติ: เจตนาทุจริตและการถือวิสาสะ
จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกันจำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิงอ.บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนาโดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วยแสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกันจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2749/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์: การนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเก็บรักษาเพื่อหวังให้กลับมา
จำเลยกับผู้เสียหายได้เสียเป็นสามีภริยากันผู้เสียหายไปนอนที่บ้านจำเลยบ้างนอนที่บ้านบิดาบ้างถ้าจำเลยให้ไปนอนผู้เสียหายก็ไปแต่บางครั้งผู้เสียหายก็หลบไม่ไปนอนวันเกิดเหตุจำเลยให้ผู้เสียหายไปหาจำเลยแต่ผู้เสียหายไม่ไปและจำเลยมาพบรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายจอดทิ้งไว้จึงนำรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปเก็บไว้ที่บ้านจำเลยเพื่อให้ผู้เสียหายไปพบจำเลยดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเอารถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2562/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าที่ดินเกษตรกรรมหลังการขายที่ดิน ผู้รับโอนต้องเคารพสิทธิเดิมของผู้เช่า การเก็บเกี่ยวข้าวไม่ถือเป็นลักทรัพย์
จำเลยเช่านาพิพาทจากผ. ต่อมาผ. ขายนาพิพาทให้ผู้เสียหายผู้เสียหายต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผ. ตามพ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524คือต้องให้จำเลยใช้นาแปลงพิพาทต่อไปผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิที่จะไถทับที่นาซึ่งจำเลยปลูกข้าวไว้การที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวในที่นาแปลงพิพาทจึงแสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเก็บเกี่ยวข้าวที่จำเลยได้หว่านไว้แม้จะปรากฏว่าผู้เสียหายได้ไถทับที่นาและปลูกต้นข้าวไว้ในนาพิพาทก็ตามแต่โดยสภาพของต้นข้าวที่ขึ้นมาจำเลยไม่น่าจะแยกได้ว่าเป็นต้นข้าวที่ตนหว่านไว้หรือเป็นต้นข้าวที่ผู้เสียหายปลูกไว้จำเลยจึงไม่มีเจตนาทุจริตที่จะลักต้นข้าวของผู้เสียหายจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2562/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำนาของผู้เช่าเดิมหลังการซื้อขายที่ดิน ผู้ซื้อต้องให้ผู้เช่าทำนาต่อไป การเก็บเกี่ยวข้าวไม่ใช่การลักทรัพย์
จำเลยเช่านาพิพาทจากผ.ต่อมาผ.ขายนาพิพาทให้ผู้เสียหายผู้เสียหายต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผ.ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524คือต้องให้จำเลยใช้นาแปลงพิพาทต่อไปผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิที่จะไถทับที่นาซึ่งจำเลยปลูกข้าวไว้การที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวในที่นาแปลงพิพาทจึงแสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเก็บเกี่ยวข้าวที่จำเลยได้หว่านไว้แม้จะปรากฏว่าผู้เสียหายได้ไถทับที่นาและปลูกต้นข้าวไว้ในนาพิพาทก็ตามแต่โดยสภาพของต้นข้าวที่ขึ้นมาจำเลยไม่น่าจะแยกได้ว่าเป็นต้นข้าวที่ตนหว่านไว้หรือเป็นต้นข้าวที่ผู้เสียหายปลูกไว้จำเลยจึงไม่มีเจตนาทุจริตที่จะลักต้นข้าวของผู้เสียหายจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองวิทยุของกลางโดยไม่มีเจตนาทุจริต แม้ราชการเสียหาย ก็ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำวิทยุของกลาง ซึ่งจำเลยใช้สำหรับติดต่อกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกลับบ้าน โดยไม่ส่งมอบให้แก่ผู้ที่เข้ารับเวรต่อจากจำเลย ไม่ทำให้จำเลยได้รับประโยชน์จากการใช้วิทยุของกลางดังกล่าวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยแต่อย่างใด ต่อมาจำเลยได้นำวิทยุของกลางไปส่งมอบให้แก่ผู้บังคับบัญชาเพื่อคืนแก่ทางราชการ แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ถึงแม้ทางราชการจะได้รับความเสียหายอันเกิดจากการไม่ได้ใช้วิทยุของกลางติดต่อราชการก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยเจตนาทุจริตขึ้นมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์วิทยุของราชการ แต่ไม่มีเจตนาทุจริต ศาลยกฟ้อง
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำวิทยุของกลางซึ่งจำเลยใช้สำหรับติดต่อกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกลับบ้านโดยไม่ส่งมอบให้แก่ผู้ที่เข้ารับเวรต่อจากจำเลยไม่ทำให้จำเลยได้รับประโยชน์จากการใช้วิทยุของกลางดังกล่าวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยแต่อย่างใดต่อมาจำเลยได้นำวิทยุของกลางไปส่งมอบให้แก่ผู้บังคับบัญชาเพื่อคืนแก่ทางราชการแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตถึงแม้ทางราชการจะได้รับความเสียหายอันเกิดจากการไม่ได้ใช้วิทยุของกลางติดต่อราชการก็ตามแต่ก็ไม่ได้ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยเจตนาทุจริตขึ้นมาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำชิงทรัพย์ต้องมีเจตนาทุจริต หากเชื่อว่ามีสิทธิเรียกเงินคืนจากผู้โกง ย่อมไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
การที่จำเลยเสียพนันและจับได้ว่าผู้เสียหายโกงจึงบังคับเรียกเอาเงินคืนจากผู้เสียหายโดยจำเลยเชื่อว่าตนมีสิทธิอันจะพึงมีพึงได้นั้นการกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตจึงไม่เป็นชิงทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการลักทรัพย์จากที่ดินนั้น
การที่ผู้เสียหายและจำเลยตกลงแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินกัน แม้ว่าจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ตาม แต่ผู้เสียหายและจำเลยต่างก็เข้าครอบครองที่ดินที่แลกเปลี่ยนกันนั้นเป็นสัดส่วนแล้วเป็นเวลาประมาณ 20 ปี ผู้เสียหายย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่แลกเปลี่ยนโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ปี จำเลยได้ขอแลกเปลี่ยนที่ดินคืนตามเดิมแต่ผู้เสียหายไม่ยินยอมแสดงว่าจำเลยยอมรับสิทธิครอบครองของผู้เสียหายเหนือที่ดินซึ่งเคยเป็นของจำเลย การที่จำเลยเอาผลมะพร้าวจากต้นมะพร้าวที่ขึ้นอยู่ในที่ดินซึ่งผู้เสียหายครอบครองไป จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต มีความผิดฐานลักทรัพย์