คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 8

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความรับผิดจากการขับเรือประมาท ทำให้สินค้าเสียหาย ฟ้องไม่เคลือบคลุม เหตุสุดวิสัยไม่ฟัง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำละเมิดของจำเลยเป็นเหตุให้สินค้าในรถของโจทก์ทั้งสองคันเสียหาย คือปลาสด 7,370 กิโลกรัมเศษ กุ้งสด 5,638 กิโลกรัม เศษ ปูสด 35 กิโลกรัม ไข่สด 1,195 กิโลกรัม กับอีก 5,000 ฟอง และน้ำแข็ง 93 ลัง เสียหายทั้งหมดคิดเป็นเงินรวม 372,909 บาท โจทก์รับจ้างขนสินค้าดังกล่าวจึงต้องชดใช้ราคาสินค้าทั้งหมด และโจทก์ได้ชดใช้เงินค่าสินค้าจำนวนดังกล่าวให้แก่เจ้าของสินค้าครบถ้วนแล้วโจทก์จึงได้รับช่วงสิทธิมาเรียกร้องเอาจากจำเลย ดังนี้ เป็นการแสดงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว หาจำต้องบรรยายว่าทรัพย์สินที่เสียหายเป็นของผู้ใด จำนวนเท่าใดไม่ เพราะเป็นรายละเอียดอันจะนำสืบกันในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ที่เกิดเหตุมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวเป็นปกติซึ่งจำเลยที่ 2 และนายท้ายเรือคนอื่น ๆ เคยประสบมาเป็นประจำอยู่แล้วโดยไม่เกิดเหตุร้าย แสดงว่าในการขับเรือแพขนานยนต์เข้าจอดเทียบท่าแม้กระแสน้ำจะไหลเชี่ยว ถ้าจำเลยที่ 2 ใช้ความระมัดระวังตามสมควรอย่างเช่นเคย เรือแพขนานยนต์ก็ไม่เอียง และรถจะไม่ไหลตกทะเล เหตุที่เกิดขึ้นจึงเกิดแต่จำเลยที่ 2 ไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอในการขับเรือแพขนานยนต์เข้าจอดเทียบท่า หาใช่เกิดแต่เหตุสุดวิสัยที่จำเลยที่ 2 จะป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้แต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม – เหตุสุดวิสัย – ละเมิด – การประมาท – ความรับผิดทางแพ่ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำละเมิดของจำเลยเป็นเหตุให้สินค้าในรถของโจทก์ทั้งสองคันเสียหาย คือปลาสด 7,370 กิโลกรัมเศษ กุ้งสด 5,638 กิโลกรัม เศษ ปูสด 35 กิโลกรัม ไข่สด 1,195 กิโลกรัม กับอีก 5,000 ฟอง และน้ำแข็ง 93 ลัง เสียหายทั้งหมดคิดเป็นเงินรวม372,909 บาท โจทก์รับจ้างขนสินค้าดังกล่าวจึงต้องชดใช้ราคาสินค้าทั้งหมดและโจทก์ได้ชดใช้เงินค่าสินค้าจำนวนดังกล่าวให้แก่เจ้าของสินค้าครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงได้รับช่วงสิทธิมาเรียกร้องเอาจากจำเลย ดังนี้ เป็นการแสดงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว หาจำต้องบรรยายว่าทรัพย์สินที่เสียหายเป็นของผู้ใดจำนวนเท่าใดไม่ เพราะเป็นรายละเอียดอันจะนำสืบกันในชั้นพิจารณาได้ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ที่เกิดเหตุมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวเป็นปกติซึ่งจำเลยที่ 2 และนายท้ายเรือคนอื่น ๆ เคยประสบมาเป็นประจำอยู่แล้วโดยไม่เกิดเหตุร้าย แสดงว่าในการขับเรือแพขนานยนต์เข้าจอดเทียบท่าแม้กระแสน้ำจะไหลเชี่ยว ถ้าจำเลยที่ 2 ใช้ความระมัดระวังตามสมควรอย่างเช่นเคย เรือแพขนานยนต์ก็ไม่เอียง และรถจะไม่ไหลตกทะเล เหตุที่เกิดขึ้นจึงเกิดแต่จำเลยที่ 2 ไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอในการขับเรือแพขนานยนต์เข้าจอดเทียบท่า หาใช่เกิดแต่เหตุสุดวิสัยที่จำเลยที่ 2 จะป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้แต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3354/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากการประมาทเลินเล่อของเจ้าของสายไฟฟ้าแรงสูงต่อการเสียชีวิตจากกระแสไฟฟ้า
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่กระแสไฟฟ้าที่จำเลยจัดให้มีขึ้นเพื่อจำหน่ายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 วรรคสอง จำเลยนำสืบว่าผู้ตายคงขึ้นไปนั่งบนผนังกันตกที่ดาดฟ้าแล้วเสียหลักมือจึงไปถูกสายไฟฟ้าเข้า ดังนี้ ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเหตุเกิดเพราะความผิดของผู้ตายเองดังจำเลยอ้าง
การเดินสายไฟฟ้าแรงสูงซึ่งเป็นสายเปลือยผ่านอาคารที่เกิดเหตุในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง หากจำเลยจัดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสายไฟฟ้าดังกล่าวให้ถูกต้องตามวิธีการที่กำหนดไว้ ก็อาจป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากสายไฟฟ้านั้นได้ จึงอยู่ในวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้ อันตรายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ตายจึงถือไม่ได้ว่าเกิดแต่เหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การขับรถเร็วเกินกว่าวิสัยและการป้องกันได้
จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเฉี่ยวชนท้ายรถคันหนึ่งแล้วก็ไม่สามารถหยุดได้ทันท่วงทีก่อนที่จะแล่นไปไปชนท้ายรถโจทก์ ซึ่งอยู่ห่างจุดที่รถเฉี่ยวชนประมาณ 25 เมตร กรณีเป็นเรื่องที่อาจป้องกันได้ถ้าจำเลยไม่ขับรถเร็วจนเกินไป ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 8 จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม มาตรา 437

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้: สัญญาจ้างแรงงาน, เหตุสุดวิสัยจากภัยธรรมชาติ, ความรับผิดของผู้รับจ้าง
สัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้มีข้อความว่า ผู้รับจ้างยอมรับเฝ้ารักษาไม้ของกลางโดยคิดค่าจ้างเฝ้ารักษาเป็นรายเดือนตามจำนวนปริมาตรของไม้ถ้าไม้ที่รับจ้างเฝ้ารักษาขาดหายหรือเป็นอันตรายยอมให้ผู้จ้างปรับไหมตามชนิดและปริมาตรของไม้ที่สูญหายหรือเป็นอันตรายไป ในระหว่างที่ผู้รับจ้างเฝ้ารักษาไม้ตามสัญญา ผู้จ้างอาจขนไม้ของกลางทั้งหมดหรือบางส่วนไปจากที่เดิมในเวลาใดก็ได้ ไม้ที่นำไปแล้วเป็นอันพ้นจากความรับผิดของผู้รับจ้างสัญญาเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงาน เพราะอำนาจการครอบครองไม้อยู่แก่ผู้จ้างผู้รับจ้างเพียงแต่เฝ้ารักษามิให้ไม้สูญหายหรือเป็นอันตรายไป
การที่เกิดฝนตกผิดปกติติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำในคลองไหลเชี่ยวจนสามารถพัดพาไม้ที่ผูกรวมเป็นแพอยู่ในคลองออกไปสู่แม่น้ำตามหาไม่พบนั้น เป็นกรณีที่ไม้หลุดลอยหายไปเนื่องจากภัยธรรมชาติเหลือวิสัยที่จะป้องกันได้นับเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยขยายระยะเวลาอุทธรณ์: การติดต่อทนายความล่าช้าหลังหมดกำหนด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัย
โจทก์ติดต่อขอให้ทนายความทำอุทธรณ์ให้เมื่อล่วงเลยกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว การที่ทนายความผู้นั้นป่วยและตายในภายหลัง จึงมิใช่เหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตรวจสอบสภาพยานพาหนะ & เหตุสุดวิสัย
ผู้ที่นำยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลมาใช้ในทางมีหน้าที่ต้องตรวจสอบรักษาเปลี่ยนแก้ให้เครื่องจักรกลอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรงใช้การได้โดยปลอดภัยเสมอ จำเลยไม่มีพยานแสดงว่าเหตุที่เรียกว่าเบรคแตกไม่มีใครจะอาจป้องกันได้ แม้จะได้จัดการระมัดระวังตามสมควรแล้ว จึงอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2378/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยจากการถูกจี้ชิงทรัพย์ – ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ 2 ขับรถบรรทุกขนสินค้าของโจทก์ไปจอดนอนพักที่ปั้มน้ำมันที่มีรถบรรทุกจอดพักรถอยู่เป็นประจำ และมีไฟฟ้าเปิดสว่างตลอดคืน จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังอย่างดีแล้ว ขณะที่จำเลยที่ 2 นอนหลับอยู่ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอารถและสินค้าไป จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยที่ 2 จะอาจป้องกันขัดขวางได้
คดีเป็นหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้โดยโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดส่งสินค้าและของคืนโจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา จำเลยที่ 1 ผู้เดียวอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 คำพิพากษาย่อมมีผลเป็นคุณแก่จำเลยที่ 2 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก้ไขคำพิพากษาผิดพลาด, เหตุสุดวิสัย, ค่าปรับสัญญาจ้างช่วง
คำพิพากษาศาลชั้นต้นพิมพ์ตัวเลขจำนวนเงินที่ให้จำเลยใช้แก่โจทก์ผิดจากเลข 42,570.91 บาท เป็น 22,570.91 บาทศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขข้อผิดพลาดหรือผิดหลงนั้นให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 140 โดยพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 42,570.91 บาทแก่โจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 140 ต้องเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรือผิดหลงในคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเท่านั้นมิใช่เป็นเรื่องความผิดพลาดหรือผิดหลงของคู่ความโจทก์ฟ้องขอดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดต่อปี ศาลฎีกาจะแก้ไขให้เป็นร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีมิได้เพราะเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าที่ปรากฏในคำฟ้องต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
จำเลยรับจ้างวางท่อประปามาจากการประปานครหลวง แล้วมาว่าจ้างช่วงให้โจทก์ทำ โจทก์วางท่อประปาล่าช้ากว่ากำหนดการประปานครหลวงมิได้ปรับจำเลยดังนี้ เมื่อได้ความว่าการที่โจทก์ทำงานล่าช้ากว่ากำหนดนั้นมีเหตุสุดวิสัยที่เกี่ยวแก่น้ำท่วมผิวถนนจราจรไม่อาจวางท่อประปาให้แล้วเสร็จตามกำหนดได้จำเลยย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากโจทก์แม้โจทก์จะเป็นคู่สัญญากับจำเลยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากทรัพย์อันตราย การประมาทเลินเล่อของผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ต้องเสียหาย
กระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์อันเกิดอันตรายได้โดยสภาพ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยผู้ผลิตและจำหน่ายเป็นผู้มีไว้ในครอบครองจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา437 การที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจรไหม้ทรัพย์สินของโจทก์เพราะเหตุที่ต้นมะพร้าวอยู่ใกล้ชิดกับแนวสายไฟฟ้าเป็นเหตุให้ทางมะพร้าวพาดไปถูกสายไฟฟ้าเมื่อมีลมพัด มิใช่เหตุสุดวิสัยเพราะจำเลยอาจป้องกันได้ถ้าตัดต้นมะพร้าวหรือแจ้งให้โจทก์ตัดอันเป็นหน้าที่จำเลย แต่โจทก์ไม่สนใจตัดต้นมะพร้าวในที่ดินที่โจทก์เช่าหรือแจ้งให้จำเลยตัดถือได้ว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไม่ยิ่งหย่อนกว่าจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงควรรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงครึ่งหนึ่ง
of 24