คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 8

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ, ค่าเสียหายรายเดือน, ค่าขึ้นศาล, การพิพากษา
เหตุเกิดเมื่อรถเลี้ยวซ้ายเลยหัวโค้งไปแล้ว 10 เมตรเศษ แม้ไฟหน้ารถจำเลยจะดับ ถ้าจำเลยขับรถไม่เร็วเกินไปแล้วรถก็จะไม่ไถลไปทางขวาจนตกถนนและเกิดการกระทบกระแทกโดยแรง จำเลยมิได้แสดงว่าเหตุที่ไฟหน้ารถดับนั้น เป็นเพราะพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบโดยได้ใช้ความระมัดระวังอันควรคาดหมายได้แล้ว จำเลยจึงไม่มีทางอ้างเอาเหตุที่ไฟหน้ารถดับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยได้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันฟ้องต่อไปเป็นรายเดือน เดือนละ 3,000 บาทไม่มีกำหนดเวลากี่เดือน และไม่มีกำหนดว่าจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จเพราะมิใช่กรณีดอกเบี้ยค่าเช่า หรือค่าเสียหายระหว่างที่ยังค้างชำระหนี้อยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(3, 4) การที่ศาลกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยชำระเป็นจำนวนแน่นอน จำนวนหนึ่งสำหรับทดแทนความเสียหายของโจทก์ในอนาคตดังนี้จะเป็นการเกินคำขอหาได้ไม่ ส่วนที่ว่าโจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลในคำขอเช่นนี้มาด้วยนั้น เห็นว่าคำขอให้ชำระค่าเสียหายในอนาคตดังที่โจทก์ขอมาเป็นรายเดือนนั้น โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาล 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากค่าขึ้นศาลในคำขออื่น ๆ ของโจทก์ โจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลในส่วนนี้มาในศาลชั้นต้น แต่ก็มิใช่ว่าโจทก์ขัดขืนไม่ยอมเสียค่าฤชาธรรมเนียมอันจะเป็นเหตุให้ศาลไม่รับคำฟ้อง ข้อนี้จึงไม่เป็นข้อที่จำเลยจะอ้างขึ้นให้ศาลฎีกายกคำขอของโจทก์ในส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ, เหตุสุดวิสัย, ค่าเสียหายต่อเนื่อง, ค่าขึ้นศาล
เหตุเกิดเมื่อรถเลี้ยวซ้ายเลยหัวโค้งไปแล้ว 10 เมตรเศษแม้ไฟหน้ารถจำเลยจะดับ ถ้าจำเลยขับรถไม่เร็วเกินไปแล้วรถก็จะไม่ไถลไปทางขวาจนตกถนนและเกิดการกระทบกระแทกโดยแรง จำเลยมิได้แสดงว่าเหตุที่ไฟหน้ารถดับนั้นเป็นเพราะพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบโดยได้ใช้ความระมัดระวังอันควรคาดหมายได้แล้ว จำเลยจึงไม่มีทางอ้างเอาเหตุที่ไฟหน้ารถดับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยได้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันฟ้องต่อไปเป็นรายเดือนเดือนละ 3,000 บาท ไม่มีกำหนดเวลากี่เดือน และไม่มีกำหนดว่าจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จเพราะมิใช่กรณีดอกเบี้ยค่าเช่าหรือค่าเสียหาย ระหว่างที่ยังค้างชำระหนี้อยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(3,4) การที่ศาลกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยชำระเป็น จำนวนแน่นอน จำนวนหนึ่งสำหรับทดแทนความเสียหายของโจทก์ ในอนาคตดังนี้จะเป็นการเกินคำขอหาได้ไม่ ส่วนที่ว่าโจทก์มิได้เสีย ค่าขึ้นศาลในคำขอเช่นนี้มาด้วยนั้น เห็นว่าคำขอให้ชำระค่าเสียหาย ในอนาคตดังที่โจทก์ขอมาเป็นรายเดือนนั้น โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาล50 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากค่าขึ้นศาลในคำขออื่น ๆ ของโจทก์ โจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลในส่วนนี้มาในศาลชั้นต้น แต่ก็มิใช่ว่า โจทก์ขัดขืนไม่ยอมเสียค่าฤชาธรรมเนียมอันจะเป็นเหตุให้ศาล ไม่รับคำฟ้อง ข้อนี้จึงไม่เป็นข้อที่จำเลยจะอ้างขึ้นให้ศาลฎีกา ยกคำขอของโจทก์ในส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและเหตุสุดวิสัยจากการเกิดเพลิงไหม้: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้แม้จำเลยไม่ต่อสู้ และพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อย ของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ให้การต่อสู้ไว้แต่แรกศาลอุทธรณ์ ก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
เพลิงไหม้ห่างจากโกดังเก็บของของจำเลยประมาณ 30 เมตรขณะนั้นลมพัดแรงมาก คนงานในบริษัทและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรมตำรวจได้ร่วมกันดับ แต่สุดความสามารถที่จะดับได้เพลิงได้ลามไหม้โกดังเก็บสินค้าของจำเลยโดยไม่มีใครอาจป้องกันได้และไม่ใช่ความผิดของจำเลย จึงเป็นเหตุสุดวิสัย (อ้างฎีกาที่ 882/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ต่อสู้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ เหตุสุดวิสัยยกเว้นความรับผิด
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวแก้ความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะไม่ให้ต่อสู้ไว้แต่แรก ศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
เพลิงไหม้ห่างจากโกดังเก็บของของจำเลยประมาณ 30 เมตร ขณะนั้น ลมพัดแรงมาก คนงานในบริษัทและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรมตำรวจได้ร่วมกันดับ แต่สุดความสามารถที่จะดับได้ เพลิงได้ลามไหม้โกดังสินค้าของจำเลยโดยไม่มีใครอาจป้องกันได้ และไม่ใช่ความผิดของจำเลย จึงเป็นเหตุสุดวิสัย
(อ้างฎีกาที่ 882/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยและการรับผิดในสัญญาเช่า: ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดหากช้างตายจากเหตุสุดวิสัย
(1) ตามหลักกฎหมายนั้น ลูกหนี้จะต้องรับผิดในการชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ก็ต่อเมื่อลูกหนี้ได้กระทำการโดยเจตนาหรือประมาท
(2) แต่ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นโดยเหตุสุดวิสัยลูกหนี้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบและย่อมหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้นตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยและการพิสูจน์ความประมาทเลินเล่อในคดีรถยนต์พลิกคว่ำ แม้บรรทุกน้ำหนักเกิน แต่หากเหตุเกิดจากสภาพรถและไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ก็ไม่ต้องรับผิด
จำเลยขับรถบรรทุกน้ำมันซึ่งมีผู้เสียหายขออาศัยโดยสารมาด้วย ระหว่างทางรถตกหลุมแหนบหักไปค้ำคันส่ง ทำให้รถเฉไปชนหลักกิโลเมตรข้างทางและตะแคงลง ทำให้ผู้เสียหายถึงแก่กรรม อันเป็นเหตุสุดวิสัยนั้น แม้รถจำเลยจะบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราก็ตามแต่เมื่อเหตุที่เกิดขึ้นมิได้เนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยแล้ว จำเลยก็หาต้องรับผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฎีกา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยไม่ทราบ ย่อมไม่เป็นการขยายอายุความฎีกา
ออกหมายจับจำเลยเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกินเดือนแล้วไม่ได้ตัวจำเลยมา ศาลจึงอ่านคำพิพากษานั้นให้โจทก์ฟัง ถือว่าได้อ่านคำพิพากษาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อไม่ปรากฎว่าได้มีการขอขยายเวลาก่อนสิ้นอายุฎีกาหรือมีเหตุสุดวิสัยและจำเลยยื่นฎีกาเกิน 1 เดือน นับแต่วันศาลอ่านดังกล่าว ฎีกาของจำเลยย่อมขาดอายุฎีกา แม้ว่าศาลจะได้อ่านคำพิพากษานั้นให้จำเลยฟังอีกเมื่อได้ตัวจำเลยมาแล้วหลังจากวันอ่านดังกล่าวข้างต้น 5 เดือนเศษ ก็เป็นแต่เพียงให้จำเลยได้ทราบคำพิพากษาตามที่จำเลยต้องการเท่านั้น หามีผลทำให้ยึดอายุฎีกาไม่
ประชุมใหญ่ ครั้ง 29/2503

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขออนาถาแล้วกลับมาขออนาถาใหม่หลังขาดอายุอุทธรณ์ ศาลไม่อนุญาต
เดิมจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยแถลงในวันนัดไต่สวนว่า พยานมาไม่ครบและว่าเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก จำเลยขอขยายอายุอุทธรณ์ไป 15 วัน เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระศาลอนุญาต เช่นนี้ มีผลเสมอด้วยจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาเสียแล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยจะมาแถลงว่าหาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอใหม่ และขอขยายอายุอุทธรณ์ (เมื่อขาดอายุอุทธรณ์แล้ว) อีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขออนาถาและการขยายอายุอุทธรณ์ ผลกระทบต่อสิทธิในการอุทธรณ์
เดิมจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยแถลงในวันนัดไต่สวนว่า พยานมาไม่ครบ และว่าเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก จำเลยขอขยายอายุอุทธรณ์ไป 15 วัน เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระศาลอนุญาต เช่นนี้ มีผลเสมอด้วยจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาเสียแล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยจะมาแถลงว่าหาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขออนาถาใหม่ และขอขยายอายุอุทธรณ์(เมื่อขาดอายุอุทธรณ์แล้ว) อีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย - เหตุสุดวิสัย - การหาซื้อสินค้าทดแทน
ปัญหาที่ว่าสัญญารายพิพาทเป็นนิติกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อนแล้วแต่ใจลูกหนี้ฝ่ายเดียวหรืออย่างไรนั้นไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การที่ไม่มีนุ่นตามตัวอย่างที่ตกลงกัน เพราะโรงงานที่จำเลยตกลงจะซื้อนุ่นเพื่อขายให้โจทก์ต้องเลิกล้มไป เช่นนี้ ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิด เพราะปรากฏว่าขณะทำสัญญาซื้อขายนุ่นกันนี้ มีโรงงานทำนุ่นหลายแห่งที่จำเลยสามารถหาซื้อนุ่นได้
of 24