พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษียานยนต์: การเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของกรมการขนส่งทางบก
บทบัญญัติมาตรา 167 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ .2522 มีความหมายว่ารถยนต์ที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ และครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้แล้ว ก็ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อรถตามฟ้องเสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ในปี 2522 และครบกำหนดเมื่อสิ้นปีนั้น รถคันดังกล่าวจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีรถยนต์ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นไป เมื่อรถคันนั้นไม่เสียภาษี กรมการขนส่งทางบกซึ่งมีหน้าที่ในการนี้ย่อมมีอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังไปจนถึงวันที่จะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งไม่เกี่ยวกับภาษีที่ค้างชำระตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2473 ที่จะต้องชำระก่อนถึงวันที่ต้องชำระภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ได้
รถตามฟ้องเจ้าของเดิมเคยนำมาขออนุญาตประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 ขณะนั้นกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจเพียงพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่ง ไม่มีอำนาจในการรับจดทะเบียนรถยนต์บรรทุก การที่โจทก์ขอให้กรมการขนส่งทางบกโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และขอเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนใหม่ โจทก์จะเสียภาษีนับแต่งวดที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นไปดังที่มาตรา 86 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 บัญญัติไว้หาได้ไม่ เมื่อไม่มีการจดทะเบียนรถใหม่ โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และค่าเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
รถตามฟ้องเจ้าของเดิมเคยนำมาขออนุญาตประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 ขณะนั้นกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจเพียงพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่ง ไม่มีอำนาจในการรับจดทะเบียนรถยนต์บรรทุก การที่โจทก์ขอให้กรมการขนส่งทางบกโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และขอเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนใหม่ โจทก์จะเสียภาษีนับแต่งวดที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นไปดังที่มาตรา 86 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 บัญญัติไว้หาได้ไม่ เมื่อไม่มีการจดทะเบียนรถใหม่ โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และค่าเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีซ้ำซ้อนและข้อหาไม่ตรงกับพฤติการณ์ การขนส่งส่วนบุคคลไม่ใช่การขนส่งไม่ประจำทาง
เมื่อข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอุทธรณ์ ไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลจากพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบกันมาเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่นแล้วศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวให้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี แม้คดีนี้กับคดีก่อนจะเป็นการกระทำอันเดียวกันและข้อหาอย่างเดียวกัน และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว แต่เมื่อมิใช่จำเลยคนเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษฐานประกอบการขนส่งไม่ประจำทางข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามที่โจทก์ฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3711/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียภาษีรถยนต์กรณีจดทะเบียนขนส่ง: การยกเว้นภาษีตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
โจทก์นำรถยนต์มาจดทะเบียนประกอบการขนส่งและเสียภาษีตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 รถยนต์ของโจทก์จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์คงต้องเสียภาษีรถยนต์ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522ต่อไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 71 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวส่วนคำว่ารถที่จดทะเบียนใหม่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา86 วรรคสองนั้นหมายถึงรถยนต์ที่นำมาจดทะเบียนใหม่กับกรมการขนส่งทางบกเป็นครั้งแรกมิได้หมายความต้องเป็นรถยนต์ใหม่ที่ยังไม่เคยจดทะเบียนมาก่อนและตามมาตรา 167 วรรคแรกที่บัญญัติว่ารถที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้แล้วก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และยังไม่ถึงกำหนดเสียภาษีครั้งถัดไป ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้นั้นมีความหมายเพียงว่ารถยนต์ที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้แล้วและยังไม่ครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้ ระหว่างนั้นเจ้าของรถได้นำรถไปจดทะเบียนประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 ก็ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกเท่านั้น ไม่มีข้อความให้อำนาจกรมการขนส่งทางบกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังหรือที่ค้างชำระตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3711/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษีรถยนต์: รถที่จดทะเบียนขนส่งได้รับการยกเว้นภาษีรถยนต์เดิมตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์, การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์นำรถยนต์มาจดทะเบียนประกอบการขนส่งและเสียภาษีตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 รถยนต์ของโจทก์จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ คงต้องเสียภาษีรถยนต์ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ต่อไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 71 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนคำว่ารถที่จดทะเบียนใหม่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 86 วรรคสองนั้น หมายถึงรถยนต์ที่นำมาจดทะเบียนใหม่กับกรมการขนส่งทางบกเป็นครั้งแรก มิได้หมายความต้องเป็นรถยนต์ใหม่ที่ยังไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน และตามมาตรา 167 วรรคแรกที่บัญญัติว่ารถที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้แล้วก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และยังไม่ถึงกำหนดเสียภาษีครั้งถัดไป ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้นั้น มีความหมายเพียงว่ารถยนต์ที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้แล้วและยังไม่ครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้ ระหว่างนั้นเจ้าของรถได้นำรถไปจดทะเบียนประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ก็ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกเท่านั้น ไม่มีข้อความให้อำนาจกรมการขนส่งทางบกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังหรือที่ค้างชำระตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้ขับรถโดยสารกับความผิดพ.ร.บ.ขนส่งทางบก: ผู้ขับรถไม่ใช่ผู้ประกอบการ แต่ผิดฐานใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษี
จำเลยเป็นเพียงคนขับรถยนต์โดยสารของเจ้าของรถ จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถ หาใช่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางไม่ จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา23แต่เมื่อรถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีจำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ จึงมีความผิดตามมาตรา 71,148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2969/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานใช้รถขนส่งที่ไม่ได้เสียภาษี และการไม่เป็นผู้ประกอบการขนส่งตามกฎหมาย
จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถยนต์ ถือได้ว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถตามความในมาตรา 92 (1) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามความหมายของมาตรา 23 แม้รถที่จำเลยขับมิได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งจากนายทะเบียน จำเลยก็ไม่มีความผิด
ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 รถที่ใช้ในการขนส่งต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีตามมาตรา 85 แล้ว หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษตามมาตรา 148 รถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นความผิดตามมาตรา 148
ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 รถที่ใช้ในการขนส่งต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีตามมาตรา 85 แล้ว หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษตามมาตรา 148 รถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นความผิดตามมาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2969/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานใช้รถขนส่งที่ยังไม่เสียภาษี และขอบเขตความรับผิดของผู้ขับรถในฐานะลูกจ้าง
จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถยนต์ ถือได้ว่าอยู่ในฐานะเป็น ผู้ประจำรถตามความในมาตรา 92(1) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ.2522 จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามความหมายของมาตรา 23 แม้รถที่จำเลยขับจะมิได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งจากนายทะเบียนจำเลยก็ไม่มีความผิด
ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522รถที่ใช้ในการขนส่งต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีตามมาตรา 85แล้ว หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษตามมาตรา 148รถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุการกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามมาตรา 148
ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522รถที่ใช้ในการขนส่งต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีตามมาตรา 85แล้ว หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษตามมาตรา 148รถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุการกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามมาตรา 148