คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.ฏ.ออกตามความใน ป.รัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ.2517 ม. 5 (8)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีอากรสำหรับสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรม และข้อยกเว้นภาษีตามกฎหมาย
ตามบัญชีที่1หมวด5เครื่องมือเครื่องใช้ของใช้(26)แห่งบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่54)พ.ศ.2517บัญญัติว่า"กาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกันนอกจากที่ใช้ในการอุตสาหกรรม"ดังนั้นกาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกันดังกล่าวจึงหมายถึงสิ่งของที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้และของใช้ดังที่ระบุไว้ในตอนต้นของหมวด5เมื่อสินค้าโพลีไวนิลอาซิเตดลาเท็กซ์ ของโจทก์เป็นกาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกับกาวหากโจทก์ขายสินค้าของโจทก์ดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการอย่างอื่นที่มิใช่การอุตสาหกรรมโจทก์ย่อมต้องเสียภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าของโจทก์ตามกฎหมายเพราะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้าตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวข้างต้นส่วนโพลีไวนิลอาซิเตดลาเท็กซ์ ที่โจทก์ผลิตและได้นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการอุตสาหกรรมนั้นเป็นสินค้าที่มิได้ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวและเป็นสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรทั้งเป็นสินค้าตามประเภทการค้า1ชนิด1(ก)ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด4ลักษณะ2แห่งประมวลรัษฎากรโจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าโพลีไวนิลอาซิเตคลาเท็กซ์ ของโจทก์ตามมาตรา5(8)แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่54)พ.ศ.2517มิได้ให้ความหมายของคำว่า"อุตสาหกรรม"ไว้จึงต้องถือตามความหมายทั่วไปของคำดังกล่าวซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.2525ให้ความหมายของคำว่า"อุตสาหกรรม"ไว้ว่าการทำสิ่งของเพื่อให้เกิดผลประโยชน์เป็นกำไร,การประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องใช้แรงงานและทุนมากอุตสาหกรรมตามความหมายแรกนั้นจึงไม่จำต้องเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมหรือได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายนอกจากนี้อุตสาหกรรมขนาดย่อมอุตสาหกรรมขนาดกลางก็อยู่ในความหมายของคำว่าอุตสาหกรรมด้วยเมื่อปรากฎว่าโจทก์ได้ขายสินค้าโพลิไวนิลอาซิเตดลาเท็กซ์ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อไปใช้ในการอุตสาหกรรมทั้งสิ้นโจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าของโจทก์ดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นภาษีการค้าสำหรับกาวและวัตถุดิบอุตสาหกรรม: การตีความคำว่า 'อุตสาหกรรม' และขอบเขตการยกเว้น
ตามบัญชีที่ 1 หมวด 5 เครื่องมือ เครื่องใช้ ของใช้ (26)แห่งบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ออกตามความใน ป.รัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ.2517 บัญญัติว่า "กาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน นอกจากที่ใช้ในการอุตสาหกรรม" ดังนั้นกาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกันดังกล่าวจึงหมายถึงสิ่งของที่เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ และของใช้ ดังที่ระบุไว้ในตอนต้นของหมวด 5 เมื่อสินค้าโพลีไวนิล อาซิเตด ลาเท็กซ์ ของโจทก์ เป็นกาวหรือสินค้าอันมีลักษณะทำนองเดียวกับกาว หากโจทก์ขายสินค้าของโจทก์ดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการอย่างอื่นที่มิใช่การอุตสาหกรรม โจทก์ย่อมต้องเสียภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าของโจทก์ตามกฎหมาย เพราะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้าตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ฎ. ดังกล่าวข้างต้น ส่วนโพลีไวนิล อาซิเตด ลาเท็กซ์ที่โจทก์ผลิตและได้นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการอุตสาหกรรมนั้นเป็นสินค้าที่มิได้ระบุไว้ในบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ดังกล่าว และเป็นสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรทั้งเป็นสินค้าตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1 (ก)ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 ลักษณะ2 แห่ง ป.รัษฎากร โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าโพลีไวนิลอาซิเตด ลาเท็กซ์ ของโจทก์ตามมาตรา 5 (8) แห่ง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว
ตามบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.ออกตามความใน ป.รัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ.2517 มิได้ให้ความหมายของคำว่า"อุตสาหกรรม" ไว้ จึงต้องถือตามความหมายทั่วไปของคำดังกล่าว ซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ให้ความหมายของคำว่า "อุตสาหกรรม" ไว้ว่าการทำสิ่งของเพื่อให้เกิดผลประโยชน์เป็นกำไร,การประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องใช้แรงงานและทุนมากอุตสาหกรรมตามความหมายแรกนั้นจึงไม่จำต้องเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมหรือได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมาย นอกจากนี้อุตสาหกรรมขนาดย่อม อุตสาหกรรมขนาดกลาง ก็อยู่ในความหมายของคำว่าอุตสาหกรรมด้วย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ขายสินค้าโพลีไวนิลอาซิเตด ลาเท็กซ์ ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อไปใช้ในการอุตสาหกรรมทั้งสิ้น โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าของโจทก์ดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5111/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลิตภัณฑ์ทองเหลืองใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือน ต้องเสียภาษีการค้าตามบัญชีที่ 1 และ 2 ของ พ.ร.ก.ลดหย่อนภาษี
ผลิตภัณฑ์ทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวทีผู้ซื้อนำไปใช้คั่นในการปูพื้นหินขัดหรือหินอ่อน เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งพื้นอาคารและทองเหลืองหน้าตัดรูปตัวแอล ผู้ซื้อนำไปทำคิ้วเครื่องเรือนและติดขอบบันได เป็นวัสดุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือน แม้มิใช่สิ่งจำเป็นในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนแต่ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างและทำเครื่องเรือนจึงเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1 หมวด 4(6) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรา และยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54)พ.ศ. 2517 และบัญชีที่ 2 หมวด 4(1)(3) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย(ฉบับที่ 133) พ.ศ. 2526 และมิได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามมาตรา 5(8) การที่โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร มิใช่ผลิตสินค้าขึ้นเอง สินค้านี้มิใช่สินค้าตามมาตรา 7(4) อันจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1.5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4926/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นภาษีการค้าสำหรับยาที่ไม่สามารถใช้ได้โดยตรง ต้องผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติม
สินค้ายากานาไมซิน ซัลเฟตและเจนตาไมซิน ซัลเฟต แม้จะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคโดยไม่ต้องใส่ยาตัวอื่นเติมเข้าไป แต่เมื่อจะใช้ต้องไปทำตามกรรมวิธีด้วยเครื่องจักรในสถานที่ปราศจากเชื้อ ตลอดจนภาชนะและตัวผู้ทำก็ต้องปราศจากเชื้อด้วย เป็นการเอาไปผลิตใหม่เพื่อให้เป็นยาสำเร็จรูปใช้ได้ทันที จึงไม่เป็นยาซึ่งแพทย์หรือประชาชนนำไปใช้ได้โดยตรง ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 54) พ.ศ.2517 บัญชีที่ 3 หมวด 2 (1) โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้านั้นตามมาตรา 5 (8) แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ตามมาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร และกฎกระทรวง ฉบับที่ 161(พ.ศ.2526) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากรข้อ 1 (2) ให้เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันครบระยะเวลาสามเดือน นับแต่วันยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร ดังนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2529 จึงครบระยะเวลาสามเดือนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2530 และต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยให้โจทก์ตั้งแต่วันที่ 1มีนาคม 2530 เป็นต้นไป
แม้ว่าตามมาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์จะมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตรามากกว่าอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองรับผิดใช้ดอกเบี้ยเพียงอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ศาลจึงพิพากษาให้เท่าที่โจทก์ขอ แต่ไม่เกินกว่าจำนวนเงินภาษีอากรที่ได้รับคืนตามมาตรา 4 ทศ วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4926/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นภาษีการค้าสำหรับยาที่ต้องผ่านกรรมวิธีเพิ่มเติมก่อนใช้ และการคำนวณดอกเบี้ยคืนภาษี
สินค้ายากานาไมซินซัลเฟตและเจนตาไมซินซัลเฟต แม้จะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคโดยไม่ต้องใส่ยาตัวอื่นเติม เข้าไป แต่เมื่อจะใช้ต้องไปทำตามกรรมวิธีด้วยเครื่องจักรในสถานที่ปราศจากเชื้อตลอดจนภาชนะและตัวผู้ทำก็ต้องปราศจากเชื้อด้วย เป็นการเอาไปผลิตใหม่เพื่อให้เป็นยาสำเร็จรูปใช้ได้ทันที จึงไม่เป็นยาซึ่งแพทย์หรือประชาชนนำไปใช้ได้โดยตรง ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 บัญชีที่ 3 หมวด 2(1) โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้านั้นตามมาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ตามมาตรา 5 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร และกฎกระทรวง ฉบับที่ 161(พ.ศ.2526) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากรข้อ 1(2) ให้เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันครบระยะเวลาสามเดือน นับแต่วันยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรดังนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรในวันที่ 28พฤศจิกายน 2529 จึงครบระยะเวลาสามเดือนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์2530 และต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยให้โจทก์ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2530เป็นต้นไป แม้ว่าตามมาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์จะมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตรามากกว่าอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองรับผิดใช้ดอกเบี้ยเพียงอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ศาลจึงพิพากษาให้เท่าที่โจทก์ขอ แต่ไม่เกินกว่าจำนวนเงินภาษีอากรที่ได้รับคืนตามมาตรา 4 ทศวรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3199/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นภาษีสินค้า P.O.Y. ที่ยังไม่ใช่เส้นด้ายสำหรับทอผ้า การโต้แย้งสิทธิและการมีอำนาจฟ้อง
สินค้าพิพาทเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ที่เรียกว่า พี.โอ.วาย.ซึ่งเป็นเส้นใยที่ไม่มีความยืดหยุ่น ยังใช้ทอผ้าไม่ได้ หากจะนำไปใช้ทอผ้าต้องนำไปผ่านกรรมวิธีตีเกลียว ให้เป็นเส้นด้ายอีกชั้นหนึ่งก่อน สินค้าดังกล่าวจึงมิใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ในการทอผ้าตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า(ฉบับที่ 58) พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ในบัญชีที่ 2 หมวด 2(9)โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตามมาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 การขอคืนเงินค่าภาษีไม่มีกฎหมายบังคับให้โจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับเอกสารประกอบคำร้องว่าคำร้องเป็นความจริง ดังนั้น การที่จำเลยไม่คืนเงินค่าภาษีที่โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3199/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนภาษีจากการขายเส้นใยสังเคราะห์ที่ไม่ใช่ด้ายสำหรับทอผ้า ผู้ขายมีสิทธิฟ้องเรียกคืนได้ แม้ไม่ได้ยื่นคำร้องตามแบบ
สินค้าพิพาทเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ที่เรียกว่า พี.โอ.วาย.ซึ่งเป็นเส้นใยที่ไม่มีความยืดหยุ่น ยังใช้ทอผ้าไม่ได้ หากจะนำไปใช้ทอผ้าต้องนำไปผ่านกรรมวิธีตีเกลียว ให้เป็นเส้นด้ายอีกชั้นหนึ่งก่อน สินค้าดังกล่าวจึงมิใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ในการทอผ้าตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า (ฉบับที่ 58) พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ในบัญชีที่ 2 หมวด 2 (9) โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตามมาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517
การขอคืนเงินค่าภาษีไม่มีกฎหมายบังคับให้โจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับเอกสารประกอบคำร้องว่าคำร้องเป็นความจริง ดังนั้น การที่จำเลยไม่คืนเงินค่าภาษีที่โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4221/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตภาษีการค้า: วัตถุดิบอุตสาหกรรม vs. สินค้าสำเร็จรูปที่เข้าลักษณะกาว การคืนเงินภาษี
โจทก์ผลิตสินค้าโพลีไวนิล อาซิเตด ลาเท็กซ์ ที่ใช้ในการอุตสาหกรรมรวมทั้งผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปจำหน่ายอีกด้วย เมื่อโจทก์ยอมรับข้อเท็จจริงว่าสินค้าที่โจทก์ผลิตขายแม้จะไม่ใช่กาวแต่มีลักษณะทำนองเดียวกับกาว สินค้าโพลีไวนิล อาซิเตด ลาเท็กซ์ ของโจทก์ที่ทำเป็นสินค้าสำเร็จรูป จึงต้องเสียภาษีการค้าตามกฎหมาย เพราะไม่ได้รับยกเว้นภาษีตามบัญชี 1 หมวด 5 (26) แห่งบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ส่วนสินค้าโพลิไวนิล อาซิเตด ลาเท็กซ์ ที่โจทก์ผลิตเพื่อเป็นวัตถุดิบในการประกอบอุตสาหกรรมเป็นสินค้าตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1 (ก) ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ย่อมได้รับการยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าของโจทก์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 5 (8) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3361/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นภาษีการค้าสำหรับเหล็กเส้นตามพระราชกฤษฎีกา ต้องเป็นไปตามบัญชีอัตราภาษีที่กำหนด ไม่สามารถใช้ดุลพินิจ
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 มิใช่บทบัญญัติที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานที่จะใช้ดุลพินิจเรียกเก็บหรือไม่เรียกเก็บภาษีการค้าจากสินค้าประเภทที่นอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา
การขายสินค้าที่จะได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว มาตรา 5(8) จะต้องเป็นการขายสินค้า ตามประเภทการค้า ที่ 1 ชนิด 1 ก. ของบัญชีอัตราภาษีการค้า เฉพาะที่ผลิตในราชอาณาจักร และมิได้ระบุในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาเมื่อ 'เหล็กเส้น' เป็นสินค้าในบัญชีที่ 1 หมวด 4 วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน (4) ท้ายพระราชกฤษฎีกา โดยบัญชีดังกล่าวมิได้กำหนดว่าเหล็กเส้นนั้นจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าไร ดังนั้นแม้เหล็กเส้นที่โจทก์ผลิตจำหน่ายจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป โจทก์ก็มิได้รับยกเว้นภาษีการค้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3361/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นภาษีการค้าสำหรับเหล็กเส้นตามพระราชกฤษฎีกา ต้องเป็นไปตามประเภทและลักษณะที่กำหนด
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 มิใช่บทบัญญัติที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานที่จะใช้ดุลพินิจเรียกเก็บหรือไม่เรียกเก็บภาษีการค้าจากสินค้าประเภท ที่นอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา
การขายสินค้าที่จะได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว มาตรา 5 (8) จะต้องเป็นการขายสินค้า ตามประเภทการค้า ที่ 1 ชนิด 1 ก. ของบัญชีอัตราภาษีการค้า เฉพาะที่ผลิตในราชอาณาจักร และมิได้ระบุในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาเมื่อ 'เหล็กเส้น' เป็นสินค้าในบัญชีที่ 1 หมวด 4 วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน (4) ท้ายพระราชกฤษฎีกา โดยบัญชีดังกล่าวมิได้กำหนดว่าเหล็กเส้นนั้นจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าไร ดังนั้นแม้เหล็กเส้นที่โจทก์ผลิตจำหน่ายจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป โจทก์ก็มิได้รับยกเว้นภาษีการค้า.
of 2