พบผลลัพธ์ทั้งหมด 307 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกและคำบังคับที่ถูกต้องตามภูมิลำเนา การมิถือว่าการส่งไปยังสำนักงานทนายความเป็นการทราบว่าจำเลยไม่ได้อยู่ที่ภูมิลำเนา
ขณะทำสัญญาเช่าซื้อจำเลยที่1ได้ระบุภูมิลำเนาตามฟ้องไว้ในสัญญาอันเป็นภูมิลำเนาตรงตามบัตรประชาชนและตรงตามสำเนาทะเบียนบ้านของจำเลยที่1การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องก็ได้มีการส่งตามบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งจำเลยที่1ได้ให้การต่อสู้คดีแล้วที่จำเลยที่1อ้างว่าการส่งหมายครั้งอื่นของพนักงานเดินหมายก่อนส่งคำบังคับได้นำไปส่งยังบ้านเลขที่อื่นที่เป็นสำนักงานของจำเลยที่1แสดงว่าพนักงานเดินหมายทราบดีว่าจำเลยที่1ไม่ได้อยู่บ้านเลขที่ตามฟ้องนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา77ได้บัญญัติถึงการส่งคำคู่ความหรือเอกสารโดย เจ้าพนักงานศาลไปยังที่อื่นหรือสำนักงานทำการงานการที่พนักงานเดินหมายไปส่งยังสำนักทำการงานของจำเลยที่1ตามที่ปรากฏในท้ายสำนวนนั้นย่อมไม่ใช่แสดงว่าเจ้าพนักงานทราบดีว่าจำเลยที่1ไม่ได้อยู่ที่บ้านเลขที่ตามฟ้องแต่อย่างใดอาจเป็นเพียงแต่เจ้าพนักงานเห็นว่าสะดวกกว่าการส่งไปยังภูมิลำเนาตามฟ้องก็เป็นได้โดยเฉพาะจำเลยที่1ประกอบอาชีพทนายความย่อมทราบขั้นตอนการพิจารณาของศาลเป็นอย่างดีแต่อ้างว่าเพิ่งติดตามคดีทั้งๆยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ตั้งแต่วันที่6กรกฎาคม2535เพิ่งติดตามตรวจสำนวนเมื่อวันที่16กุมภาพันธ์2536ซึ่งห่างจากวันยื่นคำให้การถึง7เดือนเศษเป็นการผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพทนายความอย่างยิ่งจึงมิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยต้องเป็นเหตุที่ไม่มีใครอาจฟ้องได้ การไม่อนุญาตสร้างอาคารยังไม่ถึงเหตุสุดวิสัย จำเลยต้องปฏิบัติตามสัญญา
โจทก์ทำ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและอาคารพิพาทจากจำเลยหลังจากทำสัญญาเจ้าพนักงานสำนักงานเขต ยานนาวามีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยก่อสร้างอาคารตามสัญญาดังกล่าวจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านและอุทธรณ์ต่อมาแม้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่อนุญาตแต่จำเลยก็ได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์อีกเมื่อ คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยและมีคำสั่งอย่างใดกรณีจึงยังไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายได้จำเลยยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย: คำสั่งไม่อนุญาตก่อสร้างยังไม่ถึงเหตุสุดวิสัย
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและอาคารพิพาทจากจำเลยหลังจากทำสัญญาเจ้าพนักงานสำนักงานเขตยานนาวามีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยก่อสร้างอาคารตามสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำคัดค้านและอุทธรณ์ ต่อมาแม้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่อนุญาต แต่จำเลยก็ได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์อีก เมื่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยและมีคำสั่งอย่างใด กรณีจึงยังไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายได้ จำเลยยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทางจำเป็น: เจ้าของที่ดินเท่านั้นที่ฟ้องได้ แม้โรงเรือนถูกล้อมก็ไม่มีสิทธิ
ผู้ที่จะได้สิทธิทางจำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมรอบหากเป็นเพียงเจ้าของโรงเรือนแม้จะถูกที่ดินอื่นล้อมก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องทางจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทางจำเป็น: เจ้าของที่ดินถูกล้อมรอบเท่านั้นที่ใช้สิทธิได้
ผู้ที่จะได้สิทธิทางจำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมรอบหากเป็นเพียงเจ้าของโรงเรือน แม้จะถูกที่ดินอื่นล้อมก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องทางจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานประกอบกัน แม้พยานบอกเล่ามีการเปลี่ยนแปลงคำให้การ แต่พยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
แม้ คำให้การของ ประจักษ์พยาน ชั้นสอบสวนจะเป็นเพียง พยานบอกเล่า แต่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนทันทีในคืนเกิดเหตุพยานยังไม่น่าจะทันมีโอกาสไตร่ตรองเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงไปเป็นอย่างอื่นต่อมาได้สอบสวนเพิ่มเติมหลังจากนั้นอีกสามเดือนเศษพยานก็ให้การยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายทั้งเหตุที่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ก็เพราะประจักษ์พยานชี้ตัวยืนยันว่าเป็นคนร้ายคำเบิกความของประจักษ์พยานในชั้นศาลที่ไม่ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายจึงเป็นทำนองช่วยเหลือจำเลยเมื่อได้ความว่าก่อนเกิดเหตุ3ถึง4วันญาติของผู้ตายมีเรื่องกับจำเลยย่อมเป็นสาเหตุที่ทำให้จำเลยไม่พอใจผู้ตายพยานหลักฐานโจทก์ประกอบเข้าด้วยกันฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องแสดงหลักฐานการสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ให้ชัดเจน มิฉะนั้นศาลไม่อนุญาต
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา290วรรคสองการร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ผู้ร้องต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องจะบังคับเอาชำระหนี้ได้เมื่อผู้ร้องมิได้นำสืบให้เห็นผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอมโดยอายุความและการไม่เป็นฟ้องซ้ำเมื่อประเด็นต่างกัน
คดีเดิมที่จำเลยฟ้องโจทก์กับพวกอ้างว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองจำเลยนำเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดแนวเขตโจทก์คัดค้านว่าเป็นของโจทก์ประเด็นมีว่าผู้ใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทส่วนคดีนี้มีประเด็นว่าทางพิพาทในที่ดินดังกล่าวของจำเลยเป็นภารจำยอมของโจทก์ตามกฎหมายหรือไม่เป็นการวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุต่างกันฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ โจทก์ใช้ทางพิพาทซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยเป็นทางเข้าออกโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาให้ได้สิทธิภารจำยอมในที่ดินติดต่อกันมาเกิน10ปีย่อมได้ภารจำยอมโดยอายุความ แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวถึงเนื้อที่ทางพิพาท1งาน25ตารางวาแต่แผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำส่งศาลได้แสดงบริเวณที่โจทก์นำรังวัดขอเปิดทางภารจำยอมเนื้อที่ประมาณ1งาน25ตารางวาและบริเวณเขตโฉนดที่ดินจำเลยนำรังวัดเนื้อที่ประมาณ30ไร่1งาน33ตารางวาที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าทางพิพาทกว้าง2วายาวถึงทางสาธารณะจึงเป็นที่เดียวกันย่อมไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเข้าออกต่อเนื่องเกิน 10 ปี ทำให้ได้สิทธิภาระจำยอม แม้ฟ้องเดิมวินิจฉัยกรรมสิทธิ์
คดีเดิมที่จำเลยฟ้องโจทก์กับพวก อ้างว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครอง จำเลยนำเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดแนวเขต โจทก์คัดค้านว่าเป็นของโจทก์ ประเด็นมีว่า ผู้ใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทส่วนคดีนี้มีประเด็นว่า ทางพิพาทในที่ดินดังกล่าวของจำเลยเป็นภาระจำยอมของโจทก์ตามกฎหมายหรือไม่ เป็นการวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุต่างกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ใช้ทางพิพาทซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยเป็นทางเข้าออกโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาให้ได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินติดต่อกันมาเกิน 10 ปี ย่อมได้ภาระจำยอมโดยอายุความ
แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวถึงเนื้อที่ทางพิพาท 1 งาน 25 ตารางวาแต่แผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำส่งศาลได้แสดงบริเวณที่โจทก์นำรังวัดขอเปิดทางภาระจำยอมเนื้อที่ประมาณ 1 งาน 25 ตารางวา และบริเวณเขตโฉนดที่ดินจำเลยนำรังวัดเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าทางพิพาทกว้าง 2 วา ยาวถึงทางสาธารณะ จึงเป็นที่เดียวกัน ย่อมไม่เกินคำขอ
โจทก์ใช้ทางพิพาทซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยเป็นทางเข้าออกโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาให้ได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินติดต่อกันมาเกิน 10 ปี ย่อมได้ภาระจำยอมโดยอายุความ
แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวถึงเนื้อที่ทางพิพาท 1 งาน 25 ตารางวาแต่แผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำส่งศาลได้แสดงบริเวณที่โจทก์นำรังวัดขอเปิดทางภาระจำยอมเนื้อที่ประมาณ 1 งาน 25 ตารางวา และบริเวณเขตโฉนดที่ดินจำเลยนำรังวัดเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าทางพิพาทกว้าง 2 วา ยาวถึงทางสาธารณะ จึงเป็นที่เดียวกัน ย่อมไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องยื่นภายในกำหนดเวลาและมีรายละเอียดครบถ้วน หากไม่เป็นไปตามกฎหมาย ศาลมีอำนาจยกคำร้องได้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ที่ยื่นมานั้นถ้าศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่าเป็นคำร้องที่ไม่กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งสาเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสองศาลก็มีอำนาจสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้และเมื่อมีคำสั่งให้ยกคำร้องเสียแล้วก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องส่งสำเนาคำร้องให้แก่อีกฝ่ายเพื่อคัดค้านหรือไม่อีก จำเลยทราบว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอพิจารณาใหม่ฉบับแรกแล้วได้ยื่นคำร้องฉบับที่2อีกครั้งหนึ่งเพื่อให้คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยสมบูรณ์ตามกฎหมายแม้คำร้องฉบับที่2จะต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันกับฉบับแรกก็ตามแต่จำเลยก็ต้องยื่นต่อศาลภายในกำหนด15วันนับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลย