คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 283

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1523/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค้าประเวณีโดยใช้กำลังประทุษร้าย และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ถือเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เจ้าของกิจการสถานค้าประเวณีรับตัวนางสมจิตรผู้เสียหายไว้แล้วบังคับให้ค้าประเวณี ครั้นนางสมจิตรไม่ยินยอมก็ถูกผลักเข้าไปในห้องที่มีชายรออยู่ เมื่อขัดขืนต่อไปอีกก็ถูกจำเลยที่ 1 ตบหน้า และบางครั้งเมื่อนางสมจิตรถูกชายดึงเข้าไปในห้องแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ใส่กุญแจห้องข้างนอกและคอยเฝ้าอยู่ ทั้งยังตะโกนบอกชายที่มาเที่ยวว่าให้ตบตีได้ถ้านางสมจิตรไม่ยอม ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เช่นนี้เป็นการกระทำเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยใช้กำลังประทุษร้าย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 283 แล้ว แต่ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 282เพราะนางสมจิตรอายุเกิน 18 ปี และไม่เป็นความผิดตามมาตรา 284 เพราะเป็นการกระทำเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น มิใช่เพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเองหรือผู้ร่วมกระทำความผิดกับตน
ส่วนการที่จำเลยที่ 1 รับตัวนางสาววรรณาผู้เสียหายอายุ 16 ปี ซึ่งถูกหลอกลวงมาไว้เป็นโสเภณีในสำนักของตน ก็ได้ชื่อว่าเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของชายที่มาเที่ยว และจำเลยที่ 1 ได้เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งนางสาววรรณา อันเป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจประการอื่น ทั้งไม่จำเป็นต้องให้มีผู้อื่นมาสำเร็จความใคร่กับนางสาววรรณาเสียก่อน
สำหรับการที่จำเลยที่ 1 กระทำแก่นางสมจิตรผู้เสียหายโดยผลักเข้าไปในห้องที่มีชายรออยู่ ในเมื่อนางสมจิตรไม่ยินยอม และบางครั้งปิดประตูใส่กุญแจข้างนอก ขังนางสมจิตรไว้กับชายที่มาเที่ยวแล้วคอยเฝ้าอยู่ ย่อมเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังนางสมจิตรให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1523/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค้าประเวณี, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ความผิดฐานค้ามนุษย์, การกระทำความผิดหลายบท, การลงโทษ
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เจ้าของกิจการสถานค้าประเวณีรับตัวนางสมจิตรผู้เสียหายไว้ แล้วบังคับให้ค้าประเวณี. ครั้นนางสมจิตรไม่ยินยอมก็ถูกผลักเข้าไปในห้องที่มีชายรออยู่. เมื่อขัดขืนต่อไปอีกก็ถูกจำเลยที่ 1 ตบหน้า. และบางครั้งเมื่อนางสมจิตรถูกชายดึงเข้าไปในห้องแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ใส่กุญแจห้องข้างนอกและคอยเฝ้าอยู่. ทั้งยังตะโกนบอกชายที่มาเที่ยวว่าให้ตบตีได้ถ้านางสมจิตรไม่ยอม. ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เช่นนี้เป็นการกระทำเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น. เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยใช้กำลังประทุษร้าย. อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 283 แล้ว. แต่ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 282.เพราะนางสมจิตรอายุเกิน 18 ปี. และไม่เป็นความผิดตามมาตรา 284. เพราะเป็นการกระทำเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น. มิใช่เพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเองหรือผู้ร่วมกระทำความผิดกับตน.
ส่วนการที่จำเลยที่ 1 รับตัวนางสาววรรณาผู้เสียหายอายุ 16 ปี ซึ่งถูกหลอกลวงมาไว้เป็นโสเภณีในสำนักของตน ก็ได้ชื่อว่าเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของชายที่มาเที่ยว. และจำเลยที่ 1 ได้เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งนางสาววรรณา อันเป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 แล้ว. โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ.ใช้กำลังประทุษร้าย. ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม. หรือใช้วิธีข่มขืนใจประการอื่น. ทั้งไม่จำเป็นต้องให้มีผู้อื่นมาสำเร็จความใคร่กับนางสาววรรณาเสียก่อน.
สำหรับการที่จำเลยที่ 1 กระทำแก่นางสมจิตรผู้เสียหายโดยผลักเข้าไปในห้องที่มีชายรออยู่. ในเมื่อนางสมจิตรไม่ยินยอม. และบางครั้งปิดประตูใส่กุญแจข้างนอก ขังนางสมจิตรไว้กับชายที่มาเที่ยวแล้วคอยเฝ้าอยู่. ย่อมเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังนางสมจิตรให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท: การกล่าวโดยสุจริตเป็นเหตุยกเว้นความผิด
พระภิกษุเมาสุราไปด่าท้าทายจำเลย ๆ ไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้าน ๆ แนะนำให้ไปแจ้งต่อเจ้าคณะหมวด เพราะผู้ด่าท้าทายเป็นสงฆ์ จำเลยจึงไปร้องต่อเจ้าคณะหมวด ๆ เรียกพระภิกษุนั้นมาแจ้งข้อหาให้ทราบ พระภิกษุปฏิเสธ จำเลยยืนยันต่อหน้าบุคคลหลายคนว่าพระภิกษุนั้นเมาสุราไปด่าท้าทายจริง ๆ จนในที่สุดเจ้าคณะหมวดไกล่เกลี่ยยอมเลิกแล้วแต่กันดังนี้ถือได้ว่าจำเลยกล่าวโดยสุจริตตามกฎหมายลักษณะ อาญามาตรา 283(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทในสถานที่ราชการและข้อยกเว้นตามกฎหมายอาญา มาตรา 283 และ 285
กล่าวคำว่า เขาว่ากำนันเกเร กำนันเกะกะ กำนันเปนผู้ร้ายดังนั้น เปนการหมิ่นประมาทเขาตามมาตรา 282.
กล่าวคำหมิ่นประมาทเขาไนเวลาที่นายอำเพอเปรียบเทียบความแพ่งนั้น ไม่ได้รับยกเว้นโทสตาม ม283, และ 285 เพราะอำเพอไม่ไช่สาลและนายอำเพอไม่ไช่ผู้พิพากสา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันประโยชน์ของผู้อื่นและความยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 283
มีเหตุไห้เข้าไจว่าเจ้าทุธชนกะเบื้องของวัดไป จึงไปร้องต่อพระภิกสุอีกองค์หนึ่งขอไห้ไต่สวนดังนี้ ได้รับยกเว้นโทสสถานหมิ่นประมาทตามมาตรา 283,
การป้องกันประโยชน์อันชอบด้วยกดหมายตามมาตรา 283 (1) นั้นอาดเปนประโยชน์ของผู้อื่นก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถของพนักงานโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ของบริษัทได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมาย
ผู้จัดการบริสัททำบันทึกเสนอรองประธานกัมการบริสัทขอตั้งผู้รักสาเงินอีกคนหนึ่งต่างหากจากสมุห์บันชีโดยกล่าวว่าสมุห์บันชีเปนคนไม่สามาถเพราะไม่เต็มเต็งไม่มีภูมิรู้ทางบัญชี ไม่เอาไจไส่ต่อคำแนะนำของนายกรัถมนตรีชอบทุเลาะกับพนักงานของบริสัท ต้องซื้อเข้าแดงรับประทานดังนี้ ทำโดยสุจริตเพื่อป้องกันประโยชน์ของบริสัท ย่อมได้ยกเว้นโทสตามมาตรา 283

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยการกล่าวอ้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและเกียรติยศต่อหน้าสาธารณชน
ลงวันเสาร์แรม 13 ค่ำ เดือน 3 ปีฉลู จ.ส. 1215, ข้อความที่จำเลยกล่าวว่า "พระเซ็งจับข้อมือนางเง็กกอดขึ้นนั่งบนตัก" ต่อหน้าที่ประชุมพระสงค์และครีหัสถือได้ว่าเปนการกล่าวอ้างอันอาดแลเห็นผลแห่งการกล่าวนั้นได้ว่าอาดทำไห้โจท+ชื่อเสียงและทำไห้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังโจทเปนการกะทำโดยเจรนาไนความผิดถานหมิ่นประมาทแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน: การแสดงความเห็นที่ไม่สุภาพ และเจตนาเฉพาะเจาะจง
กล่าวหาว่าเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ว่าเป็นเจ้าพนักงานทำการไม่ยุติธรรม เบียดเบียนราษฎรให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ถูกต้องตามรัฐนิยมย่อมมีความผิดตามม.116

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อความโฆษณาหมิ่นประมาท ใส่ความเสียชื่อเสียงทางการเมือง
ข้อความโฆษณาที่เป็นหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวข้อความใส่ความผู้อื่นในการคัดค้านการเลือกตั้ง ต้องเป็นความจริงและเพื่อสาธารณประโยชน์จึงจะได้รับการยกเว้น
การกล่าวข้อความในลักษณคัดค้านการเลือกตั้งตามกฎหมาย แต่เป็นการใส่ความผู้อื่นถือว่ากล่าวเพื่อสาธารณประโยชน์ตาม ม.284 (1) ซึ่งจำเลยขอสืบความจริงได้ แต่ถ้าหากสืบไม่สมต้องมีความผิดประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.156, 292 ฟ้อง,ตัดสิน จำเลยในคดีหมิ่นประมาทซึ่งขอสืบความจริงตาม ม.284 หากสืบไม่ได้แม้โจทก์อ้าง ม.282 เป็นบทลงโทษจำเลยก็ต้องรับโทษดังที่กำหนดไว้ในมาตรา 284 อ้างฎีกาที่ 935/2478
of 5