พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าสาบานเป็นผลบังคับได้หากตรงกับประเด็นข้อพิพาท แม้ผู้สาบานมีชื่อซ้ำหรือต่างกัน
การที่โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงท้ากันให้ ก. กับ พ.ซึ่งเป็นบุคคลที่จำเลยอ้างว่าได้รับชำระหนี้จากจำเลยแทนโจทก์สาบานตนตามที่จำเลยทั้งสองเป็นผู้กล่าวนำสาบานถ้า ก. กับ พ.สาบานได้ว่ายังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยไปครบถ้วนแล้ว จำเลยทั้งสองยอมแพ้คดีถ้าไม่กล้าสาบานโจทก์ยอมแพ้คดีนั้น แม้ ก. กับ พ. จะมิใช่โจทก์หรือผู้มีส่วนได้เสียก็ตาม การสาบานตนของบุคคลทั้งสองก็เป็นเงื่อนไขที่คู่กรณีกำหนดขึ้นเพื่อให้ศาลวินิจฉัยข้อแพ้ชนะในคดีทั้งคำท้าสาบานก็ตรงกับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีที่ศาลกำหนดไว้แล้ว ข้อตกลงท้ากันดังกล่าวจึงมีผลบังคับระหว่างคู่ความ โจทก์และจำเลยทั้งสองรู้จัก ก. และ พ. ผู้สาบานซึ่งเป็นสามีภรรยากันมาก่อนในวันนัดสาบานตัว ฝ่ายจำเลยได้นำสาบานโดยมิได้โต้แย้งคัดค้านเรื่องตัวผู้สาบาน ผู้สาบานได้สาบานตามคำท้าแล้ว โจทก์ จำเลยทั้งสองและผู้สาบานลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาของศาล โดยผู้สาบานลงชื่อว่า จ. และ พ. ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน แสดงว่า ก. ซึ่งคู่ความตกลงให้เป็นผู้สาบาน กับ จ.ซึ่งสาบานและลงชื่อไว้นั้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน แต่มี 2 ชื่อภายหลังฝ่ายจำเลยจึงจะอ้างว่า จ. กับ ก. เป็นคนละคนกันไม่มีสิทธิสาบาน คำสาบานของ จ.ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าสาบานเป็นผลบังคับได้ หากประเด็นตรงกับข้อพิพาท และคู่ความทราบตัวผู้สาบาน
การที่โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงท้ากันให้ ก. กับ พ. ซึ่งเป็นบุคคลที่จำเลยอ้างว่าได้รับชำระหนี้จากจำเลยแทนโจทก์สาบานตนตามที่จำเลยทั้งสองเป็นผู้กล่าวนำสาบาน ถ้า ก. กับ พ.สาบานได้ว่ายังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยไปครบถ้วนแล้ว จำเลยทั้งสองยอมแพ้คดีถ้าไม่กล้าสาบานโจทก์ยอมแพ้คดีนั้น แม้ ก. กับ พ. จะมิใช่โจทก์หรือผู้มีส่วนได้เสียก็ตาม การสาบานตนของบุคคลทั้งสองก็เป็นเงื่อนไขที่คู่กรณีกำหนดขึ้นเพื่อให้ศาลวินิจฉัยข้อแพ้ชนะในคดีทั้งคำท้าสาบานก็ตรงกับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีที่ศาลกำหนดไว้แล้ว ข้อตกลงท้ากันดังกล่าวจึงมีผลบังคับระหว่างคู่ความ
โจทก์และจำเลยทั้งสองรู้จัก ก. และ พ. ผู้สาบานซึ่งเป็นสามีภรรยากันมาก่อนในวันนัดสาบานตัว ฝ่ายจำเลยได้นำสาบานโดยมิได้โต้แย้งคัดค้านเรื่องตัวผู้สาบาน ผู้สาบานได้สาบานตามคำท้าแล้ว โจทก์ จำเลยทั้งสองและผู้สาบานลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาของศาล โดยผู้สาบานลงชื่อว่า จ. และ พ. ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน แสดงว่า ก. ซึ่งคู่ความตกลงให้เป็นผู้สาบาน กับ จ. ซึ่งสาบานและลงชื่อไว้นั้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน แต่มี 2 ชื่อภายหลังฝ่ายจำเลยจึงจะอ้างว่า จ. กับ ก. เป็นคนละคนกันไม่มีสิทธิสาบาน คำสาบานของ จ. ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหาได้ไม่
โจทก์และจำเลยทั้งสองรู้จัก ก. และ พ. ผู้สาบานซึ่งเป็นสามีภรรยากันมาก่อนในวันนัดสาบานตัว ฝ่ายจำเลยได้นำสาบานโดยมิได้โต้แย้งคัดค้านเรื่องตัวผู้สาบาน ผู้สาบานได้สาบานตามคำท้าแล้ว โจทก์ จำเลยทั้งสองและผู้สาบานลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาของศาล โดยผู้สาบานลงชื่อว่า จ. และ พ. ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน แสดงว่า ก. ซึ่งคู่ความตกลงให้เป็นผู้สาบาน กับ จ. ซึ่งสาบานและลงชื่อไว้นั้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน แต่มี 2 ชื่อภายหลังฝ่ายจำเลยจึงจะอ้างว่า จ. กับ ก. เป็นคนละคนกันไม่มีสิทธิสาบาน คำสาบานของ จ. ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการถือว่าจำเลยไม่มีพยาน เนื่องจากทนายจำเลยป่วยและไม่แจ้งเหตุขอเลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาศาลเมื่อปรากฏว่าจำเลย มีทนายความสองคนแม้ธ.ทนายจำเลยคนหนึ่งป่วยไม่สามารถ มาปฏิบัติหน้าที่ได้ส.ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งก็ยังอยู่และไม่ปรากฏว่า มีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอเลื่อนคดี เพราะความเจ็บป่วยของทนายจำเลยข้ออ้างที่ว่าส.ทนายจำเลย ประสงค์จะขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและฝากคำร้องไว้แก่ธ. แต่ธ.ยังมิได้ยื่นต่อศาลแม้จะเป็นความจริงศาลก็ยังมิได้มีคำสั่งอนุญาต ส.จึงยังคงเป็นทนายจำเลยอยู่เมื่อจำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการถือว่าจำเลยไม่มีพยาน เนื่องจากทนายความยังไม่ถอนตัวและมีทนายความอีกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่
ศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาศาล เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีทนายความสองคน แม้ ธ.ทนายจำเลยคนหนึ่งป่วยไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ้ส.ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งก็ยังอยู่และไม่ปรากฏว่า มีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะความเจ็บป่วยของทนายจำเลยข้ออ้างที่ว่า ส.ทนายจำเลยประสงค์จะขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและฝากคำร้องไว้แก่ ธ. แต่ ธ. ยังมิได้ยื่นต่อศาล แม้จะเป็นความจริงศาลก็ยังมิได้มีคำสั่งอนุญาต ส.จึงยังคงเป็นทนายจำเลยอยู่เมื่อจำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3542/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองหลายราย & การชำระหนี้เฉพาะคดี: ผู้จำนองมีสิทธิไถ่ถอนจำนองเป็นรายคดีได้
ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้หนี้ที่ประกันรายใด ระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่ง ระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย
การที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันต่างราย ซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นรายๆไปแล้วการบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกันจำเลยผู้จำนอง ย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ ในคดีนี้ระงับไปได้ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น หากศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โดย ได้จำนองทรัพย์รายเดียวกับ ที่จำนองในคดีนี้เป็นประกันโจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาแก่ ทรัพย์สินนั้นอีกได้จึงไม่มีเหตุที่จะรอคดีนี้ไว้ฟังผลของคดีอื่น
การที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันต่างราย ซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นรายๆไปแล้วการบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกันจำเลยผู้จำนอง ย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ ในคดีนี้ระงับไปได้ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น หากศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โดย ได้จำนองทรัพย์รายเดียวกับ ที่จำนองในคดีนี้เป็นประกันโจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาแก่ ทรัพย์สินนั้นอีกได้จึงไม่มีเหตุที่จะรอคดีนี้ไว้ฟังผลของคดีอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3542/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนจำนองเฉพาะราย: ผู้จำนองมีสิทธิชำระหนี้เฉพาะสัญญาจำนองที่ถูกฟ้อง โดยไม่จำเป็นต้องชำระหนี้ทุกราย
ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้ หนี้ที่ประกันรายใดระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่งระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย
การที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันต่างรายซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นราย ๆ ไปแล้ว การบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกัน จำเลยผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ในคดีนี้ระงับไปได้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น หากศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โดย ได้จำนองทรัพย์รายเดียวกับที่จำนองในคดีนี้เป็นประกัน โจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาแก่ทรัพย์สินนั้นอีกได้ จึงไม่มีเหตุที่จะรอคดีนี้ไว้ฟังผลของคดีอื่น
การที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันต่างรายซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นราย ๆ ไปแล้ว การบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกัน จำเลยผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ในคดีนี้ระงับไปได้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น หากศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โดย ได้จำนองทรัพย์รายเดียวกับที่จำนองในคดีนี้เป็นประกัน โจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาแก่ทรัพย์สินนั้นอีกได้ จึงไม่มีเหตุที่จะรอคดีนี้ไว้ฟังผลของคดีอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ติดตามการสืบพยานหลักฐานและการไม่แถลงเจตนาติดตาม ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลที่พิจารณาคดีจะส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลอื่น จำเลยแถลงว่าจะไม่ตามประเด็นไป และหลังจากนั้นจนถึงวันที่สืบพยานประเด็น จำเลยมิได้แถลงว่าจำเลยหรือทนายจำเลยกลับใจจะขอตามประเด็นไปฟังการพิจารณาและซักค้านพยานโจทก์ดังนั้นการที่ศาลที่ได้รับแต่งตั้งให้สืบพยานหลักฐานแทนเลื่อนกำหนดวันนัดสืบพยานประเด็นไปและสืบพยานในวันดังกล่าวโดยมิได้แจ้งวันเวลานัดให้จำเลยทราบ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งประเด็นสืบพยานต่างศาลและการไม่โต้แย้งสิทธิในการซักค้านพยาน ทำให้การพิจารณาชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลที่พิจารณาคดีจะส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลอื่น จำเลยแถลงว่าจะไม่ตามประเด็นไป และหลังจากนั้นจนถึงวันที่สืบพยานประเด็น จำเลยมิได้แถลงว่าจำเลยหรือทนายจำเลยกลับใจจะขอตามประเด็นไปฟังการพิจารณาและซักค้านพยานโจทก์ ดังนั้นการที่ศาลที่ได้รับแต่งตั้งให้สืบพยานหลักฐานแทนเลื่อนกำหนดวันนัดสืบพยานประเด็นไปและสืบพยานในวันดังกล่าวโดยมิได้แจ้งวันเวลานัดให้จำเลยทราบ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย