พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิด พ.ร.บ.จัดหางานฯ และความผิดฉ้อโกงเป็นคนละข้อหา ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511มิใช่ความผิดอันยอมความได้ และเป็นความผิดอีกข้อหาหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานฉ้อโกงจะยกฟ้องข้อหาความผิดดังกล่าวด้วยเหตุขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 เช่นเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิด พ.ร.บ.จัดหางานฯ กับความผิดฉ้อโกงเป็นคนละกรรม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มิใช่ความผิดอันยอมความได้ และเป็นความผิดอีกข้อหาหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานฉ้อโกง จะยกฟ้องข้อหาความผิดดังกล่าวด้วยเหตุขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เช่นเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตและฉ้อโกงประชาชน แม้เป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้ได้รับอนุญาต ก็มีความผิดตามกฎหมายอาญา
แม้จำเลยจะไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดหางาน แต่จำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้จัดการสำนักงานเอส.ที.เอ็ม. ซึ่งได้รับอนุญาตให้จัดหางานได้แล้ว ดังนี้การที่จำเลยจัดหางาน จึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มาตรา 7,27 จำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้จัดการสำนักงานเอส.ที.เอ็ม.ซึ่งได้รับอนุญาตให้จัดหางานได้ แต่จำเลยกลับโฆษณาจัดหางานแก่ประชาชนทั่วไปในนามของบริษัท อ. จนผู้เสียหายหลงเชื่อไปสมัครงานกับจำเลย จำเลยรับเงินจากผู้เสียหายแล้ว ถึงกำหนดผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงาน จำเลยปิดบริษัทและหลบหนีไป จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงประชาชนเพื่อจัดหางานต่างประเทศ แม้เป็นลูกจ้างสำนักงานจัดหางานที่ได้รับอนุญาต ก็มีความผิดฐานหลอกลวง
แม้จำเลยจะไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดหางาน แต่จำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้จัดการสำนักงาน เอส.ที.เอ็ม. ซึ่งได้รับอนุญาตให้จัดหางานได้แล้ว ดังนี้การที่จำเลยจัดหางานจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7,27
จำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้จัดการสำนักงาน เอส.ที.เอ็ม.ซึ่งได้รับอนุญาตให้จัดหางานได้ แต่จำเลยกลับโฆษณาจัดหางานแก่ประชาชนทั่วไปในนามของบริษัท อ. จนผู้เสียหายหลงเชื่อไปสมัครงานกับจำเลย จำเลยรับเงินจากผู้เสียหายแล้ว ถึงกำหนดผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงาน จำเลยปิดบริษัทและหลบหนีไปจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก.
จำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวของผู้จัดการสำนักงาน เอส.ที.เอ็ม.ซึ่งได้รับอนุญาตให้จัดหางานได้ แต่จำเลยกลับโฆษณาจัดหางานแก่ประชาชนทั่วไปในนามของบริษัท อ. จนผู้เสียหายหลงเชื่อไปสมัครงานกับจำเลย จำเลยรับเงินจากผู้เสียหายแล้ว ถึงกำหนดผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงาน จำเลยปิดบริษัทและหลบหนีไปจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยมีฐานะเป็นนายหน้า ไม่ใช่ผู้จัดหางานโดยตรง
การกระทำของผู้จัดหางานที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7 ผู้จัดหางานจะต้องเรียกหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน เมื่อจำเลยไม่เคยเรียกร้องหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน แต่บริษัท ก. ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเป็นผู้เรียกหรือรับค่าบริการเอง และจำเลยไม่ได้อยู่ในฐานะผู้จัดหางานตามความหมายของมาตรา 4 เพราะจำเลยไม่ได้ประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนงานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้างจำเลยเป็นเพียงนายหน้าผู้หวังจะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัท ก. ในการหาผู้เสียหายไปสมัครงานเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานหรือร่วมจัดหางานโดยไม่รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยไม่ผิดฐานเรียกเก็บค่าบริการโดยตรงจากผู้สมัครงาน
การกระทำของผู้จัดหางานที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7 ผู้จัดหางานจะต้องเรียกหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน เมื่อจำเลยไม่เคยเรียกร้องหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงานแต่บริษัท ก.ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเป็นผู้เรียกหรือรับค่าบริการเอง และจำเลยไม่ได้อยู่ในฐานะผู้จัดหางานตามความหมายของมาตรา 4 เพราะจำเลยไม่ได้ประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนงานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้างจำเลยเป็นเพียงนายหน้าผู้หวังจะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัท ก. ในการหาผู้เสียหายไปสมัครงานเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานหรือร่วมจัดหางานโดยไม่รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตและฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2511มาตรา 7,27 ฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาต สาระสำคัญอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมาย จำเลยจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อใดก็เป็นความผิดสำเร็จ และถ้าการจัดหางานนั้นได้กระทำโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343ด้วย ย่อมถือว่าเป็นการกระทำอีกกรรมหนึ่งต่างหาก เพราะจำเลยมีเจตนาที่แยกต่างหากจากความผิดฐานแรก ดังนั้นแม้จำเลยจะได้กระทำดังกล่าวในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตและฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 มาตรา 7, 27 ฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาต สาระสำคัญอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมาย จำเลยจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อใดก็เป็นความผิดสำเร็จ และถ้าการจัดหางานนั้นได้กระทำโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ด้วย ย่อมถือว่าเป็นการกระทำอีกกรรมหนึ่งต่างหาก เพราะจำเลยมีเจตนาที่แยกต่างหากจากความผิดฐานแรก ดังนั้นแม้จำเลยจะได้กระทำดังกล่าวในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง ก็ไม่ตัดสิทธิอัยการ
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343และตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ ก็ไม่ตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะฟ้องคดีนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 126 วรรคสอง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดไม่ต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง สิทธิฟ้องของโจทก์ยังคงอยู่
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ ก็ไม่ตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะฟ้องคดีนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 126 วรรคสอง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับไป