คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1237 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4727/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัท: พิจารณาจากทรัพย์สินและศักยภาพในการทำกำไร แม้ขาดทุนในระยะแรก
บริษัทผู้คัดค้านดำเนินกิจการสร้างศูนย์การค้าซึ่งในปีต้น ๆประสบการขาดทุนแต่ไม่มากนัก กิจการของผู้คัดค้านเจริญก้าวหน้าขึ้น มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวนมาก และมีเหตุผลให้น่าเชื่อว่าเมื่อผู้คัดค้านก่อสร้างศูนย์การค้าและโครงการอื่น ๆ เสร็จแล้วก็จะมีกำไร จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าการค้าของผู้คัดค้านทำไปมีแต่ขาดทุนอย่างเดียว และไม่มีทางหวังว่าจะกลับฟื้นตัวได้ กรณีไม่มีเหตุจะเลิกบริษัทผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1237(3).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4727/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัท: พิจารณาจากทรัพย์สินและโอกาสในการฟื้นตัว
บริษัทผู้คัดค้านดำเนินกิจการสร้างศูนย์การค้าซึ่งในปีต้น ๆ ประสบการขาดทุนแต่ไม่มากนัก กิจการของผู้คัดค้านเจริญก้าวหน้าขึ้น มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวนมาก และมีเหตุผลให้น่าเชื่อว่าเมื่อผู้คัดค้านก่อสร้างศูนย์การค้าและโครงการอื่น ๆ เสร็จแล้วก็จะมีกำไร จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าการค้าของผู้คัดค้านทำไปมีแต่ขาดทุนอย่างเดียว และไม่มีทางหวังว่าจะกลับฟื้นตัวได้ กรณีไม่มีเหตุจะเลิกบริษัทผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1237 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัท การแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และอำนาจศาลในการสั่งแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีเพิ่มเติม
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติพิเศษให้เลิกบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1236(4) ซึ่งมีผลตามกฎหมายให้บริษัทเลิกกันแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทอีก
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้. ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1251 วรรคสอง.
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด. ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัยจึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกบริษัท, การตั้งผู้ชำระบัญชี, และอำนาจศาลในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติพิเศษให้เลิกบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1236 (4) ซึ่งมีผลตามกฎหมายให้บริษัทเลิกกันแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทอีก
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัย จึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน