พบผลลัพธ์ทั้งหมด 312 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3503/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายและครอบครองยาเสพติด (เฮโรอีน, กัญชา) เสพยาเสพติด ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำเลย
คดีที่มีความผิดซึ่งต้องสืบพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา176เมื่อโจทก์สืบพยานแล้วข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยที่1และหรือที่2ไม่ได้กระทำความผิดศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้ส่วนความผิดฐานอื่นซึ่งศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพนั้นเมื่อปรากฎว่าจำเลยที่1และหรือที่2ไม่ได้กระทำความผิดฐานนี้ศาลก็ย่อมมีอำนาจยกฟ้องจำเลยที่1และหรือที่2ได้ด้วยเช่นกัน แม้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยที่1จำหน่ายเฮโรอีนและกัญชาให้แก่ผู้อื่นตามฟ้องซึ่งเป็นความผิดคนละกรรมกันแต่เมื่อศาลชั้นต้นมิได้พิพากษาลงโทษจำเลยที่1ฐานจำหน่ายกัญชาและโจทก์มิได้อุทธรณ์ศาลฎีกาจึงไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยที่1ในความผิดฐานจำหน่ายกัญชาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2782/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดป่าสงวน: ผู้กระทำไม่ทราบว่าเป็นป่าสงวนฯ ย่อมไม่มีความผิด แม้พื้นที่เป็นป่าสงวนฯ จริง
ที่ดินที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำการก่นสร้างแผ้วถางเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ย่อมเป็นข้อเท็จจริงหากไม่ใช่ป่าสงวนแห่งชาติจำเลยย่อมไม่มีความผิดและแม้จะเป็นป่าสงวนแห่งชาติแต่จำเลยเข้าก่นสร้างแผ้วถางโดยไม่ทราบว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติจำเลยก็ไม่มีความผิด จำเลยที่2ถึงที่7เป็นเพียงผู้รับจ้างเข้าทำไร่มันสำปะหลังให้จำเลยที่1โดยสภาพพื้นที่เคยปลูกมันสำปะหลังมาก่อนจำเลยที่2ถึงที่7ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งโจทก์ไม่มีพยานคนใดเบิกความว่าจำเลยที่1รู้ว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติและตามสภาพที่ดินก็ไม่มีต้นไม้ใหญ่กลับเป็นไร่มันสำปะหลังทั้งไม่มีป้ายแนวเขตว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติพฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่1ได้ทราบว่าที่เข้าไปก่นสร้างแผ้วถางเป็นป่าสงวนแห่งชาติเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2782/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกป่าสงวน: จำเลยไม่มีความผิด หากไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวน แม้เป็นพื้นที่ป่าจริง
ที่ดินที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำการก่นสร้าง แผ้วถาง เป็นที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริง หากไม่ใช่ป่าสงวนแห่งชาติจำเลยย่อมไม่มีความผิดและแม้จะเป็นป่าสงวนแห่งชาติแต่จำเลยเข้าก่นสร้าง แผ้วถางโดยไม่ทราบว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติจำเลยก็ไม่มีความผิด จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 เป็นเพียงผู้รับจ้างเข้าทำไร่มันสำปะหลังให้จำเลยที่ 1 โดยสภาพพื้นที่เคยปลูกมันสำปะหลังมาก่อน จำเลยที่ 2ถึงที่ 7 ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งโจทก์ไม่มีพยานคนใดเบิกความว่าจำเลยที่ 1 รู้ว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติและตามสภาพที่ดินก็ไม่มีต้นไม้ใหญ่กลับเป็นไร่มันสำปะหลังทั้งไม่มีป้ายแนวเขตว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติพฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ทราบว่าที่เข้าไปก่นสร้าง แผ้วถางเป็นป่าสงวนแห่งชาติเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยซุกซ่อนฝิ่นไว้ในยางครอบเบรกของรถจักรยานยนต์ของกลางจึงถือได้ว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522มาตรา102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด
จำเลยซุกซ่อนฝิ่นไว้ในยางครอบเบรกของรถจักรยานยนต์ของกลางจึงถือได้ว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522มาตรา102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยซุกซ่อนฝิ่นไว้ในยางครอบเบรกของรถจักรยานยนต์ของกลาง จึงถือได้ว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยซุกซ่อนฝิ่นไว้ในยางครอบเบรกของรถจักรยานยนต์ของกลางจึงถือได้ว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2538/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอม: การใช้ทางร่วมในครอบครัวไม่ก่อให้เกิดสิทธิปรปักษ์ แม้ใช้ทางต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี
การใช้ทางพิพาทของ ส. ผ่านที่ดินของ ถ. ซึ่งเป็นภรรยาเป็นการใช้ในลักษณะที่อาศัยความสัมพันธ์ในครอบครัว ถ. ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านเป็นการยินยอมให้ ส. ใช้ทางพิพาทโดยปริยายการใช้ทางพิพาทของ ส. ไม่มีลักษณะเป็นการ ปรปักษ์อันจะได้สิทธิภารจำยอมไม่ว่าจะใช้ทางพิพาทมานานเท่าใดก็ไม่เกิดสิทธิภารจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ร้องสอดเกินกำหนดฟ้องเพิกถอน แม้ไม่รู้การขายทอดตลาด
โจทก์ซื้อสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุของจำเลยที่2ได้จากการขายทอดตลาดและชำระราคาไปตั้งแต่วันที่18มิถุนายน2530โจทก์ได้รับเงินค่าซื้อทรัพย์ไปจากศาลเมื่อวันที่7กรกฎาคม2530ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วตั้งแต่วันดังกล่าวการที่ผู้ร้องเพิ่งยื่นคำร้องสอดเมื่อวันที่29ธันวาคม2535จึงเกินกำหนดเวลาตามกฎหมายที่จะยื่นได้แม้ผู้ร้องสอดจะอ้างว่าไม่รู้ถึงการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวก็ไม่มีข้อกำหนดในกฎหมายให้ผู้ร้องสอดมาร้องภายหลังจากการบังคับคดีเสร็จลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์/รับของโจร: การฟ้องเฉพาะบัตรเอทีเอ็ม ไม่ครอบคลุมถึงเงินในบัญชี
เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า บัตรเอทีเอ็มที่มีผู้นำไปถอนเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายจากเครื่องเอทีเอ็มเป็นบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป และโจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรบัตรเอทีเอ็ม มิได้ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายที่ถอนไป ดังนั้น หากจำเลยเป็นผู้นำบัตรเอทีเอ็มไปถอนเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหาย จำเลยก็ยังไม่มีความผิดตามฟ้อง