คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 3 (1)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ครอบครองทรัพย์สินในการเป็นผู้เสียหาย, พยานหลักฐานนอกสำนวนสอบสวน, การลดโทษตามเหตุผล
โจทก์ร่วมเช่าซื้อรถยนต์คันที่ถูกจำเลยลักไปมาจากผู้อื่นแม้ว่าขณะเกิดเหตุกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังไม่โอนมาเป็นของโจทก์ร่วมก็ตาม แต่โจทก์ร่วมเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อถูกจำเลยแบ่งการครอบครอง โจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์และเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการโจทก์ได้ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าเอกสารที่จะอ้างหรือนำสืบในคดีอาญาจะต้องเป็นเอกสารที่ได้มีการสอบสวนและอยู่ในสำนวนการสอบสวนเท่านั้น ดังนั้น ศาลอุทธรณ์จึงชอบที่จะรับฟังบันทึกคำรับสารภาพแผนที่บ้านจำเลย และภาพถ่ายประกอบพยานหลักฐานอื่นเพื่อลงโทษจำเลยได้ แม้ว่าเอกสารดังกล่าวจะมิใช่เอกสารที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องร้องคดีอาญาของผู้ครอบครองทรัพย์สิน & การใช้หลักฐานนอกสำนวน
ในขณะเกิดเหตุแม้โจทก์ร่วมจะมิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์แต่โจทก์ร่วมเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ที่ถูกจำเลยลักไป เมื่อถูกจำเลยแย่งการครอบครองโจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์และเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 3(1)(2) เมื่อไม่มีกฎหมายบังคับว่าเอกสารที่จะอ้างหรือนำสืบในคดีอาญาจะต้องเป็นเอกสารที่ได้มีการสอบสวนและอยู่ในสำนวนการสอบสวนเท่านั้นศาลย่อมรับฟังบันทึกคำรับสารภาพ แผนที่บ้านจำเลยและภาพถ่ายประกอบพยานหลักฐานอื่นเพื่อลงโทษจำเลยได้ แม้ว่าเอกสารดังกล่าวจะมิใช่เอกสารที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2544/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเงินโดยสำคัญผิดและการยักยอกทรัพย์ ธนาคารมีอำนาจฟ้องร้องได้
ตามหนังสือมอบอำนาจปรากฏว่าธนาคารมอบอำนาจให้ผู้จัดการธนาคารสาขามีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีที่สาขามีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องดังนี้ผู้จัดการธนาคารสาขาย่อมมีอำนาจร้องทุกข์กล่าวหาจำเลยว่ายักยอกเงินที่พนักงานของธนาคารสาขาส่งมอบให้จำเลยโดยสำคัญผิด. โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ครอบครองเงินจำนวน90,000บาทของธนาคารโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของผู้จัดการธนาคารโจทก์ร่วมสาขานครศรีธรรมราชโดยผู้มีชื่อได้ส่งมอบเงินดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยสำคัญผิดแล้วจำเลยเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตนโดยทุจริตเป็นการกล่าวถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตลอดจนข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)แล้วฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์หาเคลือบคลุมไม่. จำเลยเขียนเช็คสั่งจ่ายเงิน10,000บาทโดยเขียนจำนวนเงินด้วยอักษรว่า'หนึ่งหมื่นบาท'แต่จำนวนเงินที่เขียนด้วยตัวเลขได้ใส่เครื่องหมายจุลภาคผิดตำแหน่งโดยใส่ไว้หลังเลขศูนย์ตัวที่สองนับจากเลข1แล้วนำมาขอเบิกเงินจากธนาคารพนักงานธนาคารสำคัญผิดว่าจำเลยขอเบิกเงิน100,000บาทจึงจ่ายเงินให้จำเลย100,000บาทถือได้ว่าเงินจำนวน90,000บาทเป็นเงินที่ส่งมอบให้อยู่ในความครอบครองของจำเลยโดยสำคัญผิดไปแม้จะด้วยการใดก็ตามเมื่อจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา352วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2544/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกเงินที่ธนาคารจ่ายเกินเนื่องจากความสำคัญผิดของผู้ปฏิบัติงานธนาคาร
ตามหนังสือมอบอำนาจปรากฏว่า ธนาคารมอบอำนาจให้ผู้จัดการธนาคารสาขามีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีที่สาขามีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้อง ดังนี้ผู้จัดการธนาคารสาขาย่อมมีอำนาจร้องทุกข์กล่าวหาจำเลยว่ายักยอกเงินที่พนักงานของธนาคารสาขาส่งมอบให้จำเลยโดยสำคัญผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ครอบครองเงินจำนวน 90,000 บาท ของธนาคารโจทก์ร่วม ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของผู้จัดการธนาคารโจทก์ร่วมสาขานครศรีธรรมราช โดยผู้มีชื่อได้ส่งมอบเงินดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยสำคัญผิดแล้วจำเลยเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตนโดยทุจริต เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตลอดจนข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์หาเคลือบคลุมไม่
จำเลยเขียนเช็คสั่งจ่ายเงิน 10,000 บาท โดยเขียนจำนวนเงินด้วยอักษรว่า 'หนึ่งหมื่นบาท' แต่จำนวนเงินที่เขียนด้วยตัวเลข ได้ใส่เครื่องหมายจุลภาคผิดตำแหน่ง โดยใส่ไว้หลังเลขศูนย์ตัวที่สองนับจากเลข 1 แล้วนำมาขอเบิกเงินจากธนาคารพนักงานธนาคารสำคัญผิดว่าจำเลยขอเบิกเงิน 100,000 บาท จึงจ่ายเงินให้จำเลย 100,000 บาท ถือได้ว่าเงินจำนวน 90,000 บาท เป็นเงินที่ส่งมอบให้อยู่ในความครอบครองของจำเลยโดยสำคัญผิดไป แม้จะด้วยการใดก็ตาม เมื่อจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3376/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์เช็ค: โจทก์ร่วมต้องพิสูจน์สถานะผู้ทรงเช็ค หรือเป็นตัวแทนบริษัทจึงจะมีอำนาจฟ้อง
จำเลยติดต่อขอซื้อเพชรร่วงจากโจทก์ร่วมและจากบริษัทซึ่งโจทก์ร่วมเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ โดยได้ออกเช็คมอบให้ไว้แก่โจทก์ร่วม 22 ฉบับ เช็คที่โจทก์ร่วมนำมาดำเนินคดีมี 13 ฉบับเช็คดังกล่าวเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือและไม่ปรากฏว่า โจทก์ร่วมได้รับโอนมาในฐานะผู้ทรงตามกฎหมาย เมื่อโจทก์ร่วมไม่สามารถแยกแยะหรือจำได้ว่าฉบับใดเป็นเช็คส่วนตัวฉบับใดเป็นเช็คของบริษัท เช็คที่โจทก์ร่วมนำมาดำเนินคดีจึงฟังไม่ได้ว่าเป็นเช็คส่วนตัวหรือเช็คของบริษัท โจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีนี้