คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 177 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 487 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การต้องชัดเจน: เหตุฟ้องเคลือบคลุม/ใบมอบอำนาจไม่ชอบ ศาลไม่รับวินิจฉัยหากจำเลยไม่แสดงเหตุผล
คำให้การของจำเลยอ้างว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยจะต้องแสดงเหตุแห่งการที่อ้างว่าเคลือบคลุมนั้นด้วยว่าเคลือบคลุมอย่างไร ตรงไหน การกล่าวอ้างว่าฟ้องเคลือบคลุมลอย ๆ ต้องถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ และจำเลยให้การว่าใบมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ได้แสดงเหตุแห่งการไม่ชอบไว้เลยว่าไม่ชอบเพราะเหตุใดคดีจึงไม่มีประเด็นเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ไม่ชัดเจนว่ารับหรือปฏิเสธข้ออ้างในฟ้อง ถือเป็นคำให้การไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
คำให้การของจำเลยในตอนแรกว่าหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องทำขึ้นด้วยเจตนาเพื่อใช้ลวงเจ้าหนี้ของโจทก์ ไม่มีผลบังคับต่อกัน แล้วให้การอีกว่าถ้าหนังสือรับสภาพหนี้ใช้บังคับได้ จำเลยก็ชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ให้เจ้าหนี้โจทก์แทนโจทก์แล้ว คำให้การดังนี้มีทั้งปฏิเสธว่าหนังสือรับสภาพหนี้ไม่มีผลบังคับและมีผลบังคับ ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างในฟ้องของโจทก์ เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสอง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ แม้จำเลยให้การไม่ชัดแจ้งว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างในฟ้องของโจทก์ แต่เมื่อตามคำให้การนั้นจำเลยรับแล้วว่าได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้อง โจทก์ก็ไม่ต้องสืบพยานอีก การที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์พยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ จึงเป็นการชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธยอดหนี้โดยไม่ให้เหตุผลถือเป็นการยอมรับหนี้ตามคำฟ้อง และคำให้การปฏิเสธลอยๆ ไม่ชอบตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไทยถาวรพานิชได้เบิกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เป็นเงิน 317,789.14 บาทจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่ายอดเงินที่อ้างว่าห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไทยถาวรพานิชเป็นหนี้โจทก์เป็นเงิน 317,789.14 บาทนั้น ไม่เป็นความจริงคำให้การเช่นนี้เป็นการปฏิเสธเฉพาะยอดเงินกู้ ส่วนห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไทยถาวรพานิชจะได้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารโจทก์หรือเป็นหนี้โจทก์ดังคำบรรยายฟ้องหรือไม่ จำเลยมิได้ปฏิเสธโดยแจ้งชัดต้องถือว่าจำเลยรับถึงความข้อนี้ สำหรับยอดเงินที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าไม่เป็นความจริงนั้น จำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ มิได้อ้างเหตุว่าความจริงเป็นอย่างไรและยอดเงินมีจำนวนมากน้อยเท่าใด เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองคำให้การจำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะ นำสืบตามข้อต่อสู้ถึงยอดเงินว่าเท็จจริงอย่างไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธฟ้องต้องชัดแจ้งเหตุผล หากไม่ชัดเจน ถือไม่ได้ว่าปฏิเสธ โจทก์ไม่ต้องนำสืบ
จำเลยต้องแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือบางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น. จะให้การลอยๆ ว่า นอกจากที่ให้การต่อไปนี้ ขอให้ถือว่าจำเลยปฏิเสธ. โดยไม่มีเหตุผลแห่งการปฏิเสธ. ย่อมเป็นคำให้การที่ไม่ชอบ.
เมื่อจำเลยไม่ให้การถึงข้อที่โจทก์ฟ้อง. ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิเสธ. โจทก์ไม่ต้องนำสืบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธของจำเลยต้องชัดแจ้งเหตุผล หากไม่ชัดเจนถือว่าไม่ได้ปฏิเสธ โจทก์ไม่ต้องนำสืบ
จำเลยต้องแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือบางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น จะให้การลอยๆ ว่า นอกจากที่ให้การต่อไปนี้ ขอให้ถือว่าจำเลยปฏิเสธ โดยไม่มีเหตุผลแห่งการปฏิเสธ ย่อมเป็นคำให้การที่ไม่ชอบ
เมื่อจำเลยไม่ให้การถึงข้อที่โจทก์ฟ้อง ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิเสธ โจทก์ไม่ต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การของจำเลยไม่ถือเป็นการยกข้อต่อสู้เรื่องการคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมเช่าฯ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 3 ปี จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทของโจทก์ เพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยเป็นระยะเวลา 3 ปีจริง คำให้การนี้มิได้มุ่งหมาย ที่จะยกข้ออยู่อาศัยขึ้นต่อสู้ จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466-1475/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่เมื่อขายสิ่งปลูกสร้างแต่ยังเป็นเจ้าของที่ดิน และสัญญาเช่าตลอดชีวิตที่ไม่ชัดเจน
แม้โจทก์ที่ 1 จะขายตึกที่ให้จำเลยเช่าอย่างสังหาริมทรัพย์ก่อนครบกำหนดเวลาให้จำเลยส่งมอบตึกคืน แต่เมื่อที่ดินยังเป็นของโจทก์ที่ 1 อยู่ โจทก์ที่ 1 ยังมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำให้การที่ว่าจำเลยเสียเงินค่าตอบแทนให้โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 ให้คำมั่นว่าจะให้จำเลยได้เช่าตึกมีกำหนดชั่วชีวิตจำเลย ซึ่งจำเลยถือว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน โจทก์ที่ 1 ต้องปฏิบัติตาม เป็นคำให้การที่ไม่ชัดว่าเงินนั้นเป็นเงินค่าอะไร จำนวนเท่าใด แต่พอทำให้เข้าใจได้ว่าเงินซึ่งจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงินกินเปล่าจึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งสิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา และการฟ้องห้ามเกี่ยวข้องกับทรัพย์
จำเลยโต้แย้งสิทธิในทรัพย์พิพาทอันเป็นของโจทก์ โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์มีอำนาจฟ้องห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องในทรัพย์พิพาทนั้นได้
จำเลยให้การลอยๆ ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม แต่เคลือบคลุมตรงไหน อย่างไรไม่ปรากฏ ไม่แสดงเหตุผลคำให้การจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการนำสืบข้อต่อสู้เปลี่ยนแปลงสัญญากู้เป็นมัดจำซื้อขาย และประเด็นการชำระหนี้ด้วยการโอนที่ดิน
เมื่อจำเลยให้การรับว่า ได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้จริง จำเลยจะขอนำสืบตามข้อต่อสู้ว่าหนังสือสัญญากู้นั้นทำขึ้นแทนหนังสือวางเงินมัดจำในการที่จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยมีสิทธินำสืบได้ว่า ได้มีการโอนที่ดินใช้หนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์ อันเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนเงินกู้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่ในคำให้การของจำเลยมิได้กล่าวตั้งเป็นประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้งก็ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบในข้อนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการนำสืบหักล้างข้อต่อสู้ทางแพ่ง แม้โจทก์มีพยานหลักฐานเบื้องต้น ศาลต้องเปิดโอกาสให้จำเลยสืบได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ จำเลยต่อสู้ว่าไม่เคยทำสัญญากู้ ไม่เคยรับเงินจากโจทก์ หากลายมือในสัญญากู้เป็นลายมือจำเลย ก็ขอต่อสู้ว่าโจทก์หลอกลวงให้เซ็น เมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้วจำเลยย่อมนำสืบหักล้างได้ตามข้อต่อสู้ อย่างน้อยจำเลยก็อาจที่จะอ้างตนเองเบิกความปฏิเสธการกู้เงินรายนี้ได้
of 49