พบผลลัพธ์ทั้งหมด 169 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโดยชำระเงินบางส่วนแล้ว ฟ้องร้องบังคับคดีได้ แม้ไม่มีเอกสารเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยร่วมกันยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขอแบ่งขายที่พิพาท โดยโจทก์จะขายให้จำเลยในราคา4,000 บาท จำเลยตกลงชำระเงินให้โจทก์ในวันยื่นเรื่องราวนั้น 3,000 บาทส่วนที่ค้างจะชำระในวันหลังเรื่องราวที่โจทก์จำเลยร่วมกันยื่นนั้นไม่ใช่สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นเพียงหลักฐานแห่งการซื้อขายที่ดินเท่านั้น
ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าที่ดินที่จะซื้อขายกันให้ผู้จะขายแล้วบางส่วน เป็นสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันโดยสมบูรณ์ในแบบที่ได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว สัญญาแบบนี้ไม่จำต้องมีเอกสารเป็นหนังสือมาแสดงก็ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ และโจทก์มีสิทธิที่จะนำพยานบุคคลมาสืบถึงข้อตกลงในการขายที่ดินนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าที่ดินที่จะซื้อขายกันให้ผู้จะขายแล้วบางส่วน เป็นสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันโดยสมบูรณ์ในแบบที่ได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว สัญญาแบบนี้ไม่จำต้องมีเอกสารเป็นหนังสือมาแสดงก็ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ และโจทก์มีสิทธิที่จะนำพยานบุคคลมาสืบถึงข้อตกลงในการขายที่ดินนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบการชำระราคาในสัญญาซื้อขายที่ดิน และหน้าที่ในการนำสืบของคู่ความ
แม้สัญญาจะซื้อขายที่ดินกฎหมายบังคับให้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายต้องรับผิดมาแสดงแต่การที่จำเลยนำสืบว่าได้ชำระราคาที่พิพาทกันแล้วนั้นจำเลยย่อมนำสืบได้ไม่เป็นการนำสืบเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมเอกสารสัญญาแต่อย่างใด
โจทก์ยื่นคำร้องโต้แย้งว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์นำสืบก่อนไม่ชอบขอให้สั่งใหม่ให้จำเลยนำสืบก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตตามที่โจทก์ขอโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งกลับแถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นจึงดำเนินการพิจารณาสืบพยานจำเลยจนเสร็จสำนวน และพิพากษาแล้วโจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนี้อีกไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 819/2501)
โจทก์ยื่นคำร้องโต้แย้งว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์นำสืบก่อนไม่ชอบขอให้สั่งใหม่ให้จำเลยนำสืบก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตตามที่โจทก์ขอโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งกลับแถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นจึงดำเนินการพิจารณาสืบพยานจำเลยจนเสร็จสำนวน และพิพากษาแล้วโจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนี้อีกไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 819/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายฝาก: เจตนาคู่สัญญาและผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
น้องชายของจำเลยถูกโจทก์กล่าวหาว่าฉ้อโกงและถูกจับจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เพื่อเลิกคดี แล้วไปหาพนักงานสอบสวนเพื่อให้ทำสัญญาไว้เป็นหลักฐาน พนักงานสอบสวนร่างสัญญาจะขายฝากเพื่อปลดหนี้น้องชายจำเลย โจทก์จำเลยได้ลงลายมือชื่อไว้ มีข้อความว่าจำเลยจะขายฝากที่ดินให้โจทก์เป็นเงิน 10,000 บาท แล้วพนักงานสอบสวนเอาสัญญากู้กับสัญญาขายฝากที่น้องชายจำเลยทำให้โจทก์ไว้มาฉีกทิ้งแม้สัญญานี้จะไม่มีข้อกำหนดว่า จะไปทำหนังสือและจดทะเบียนเมื่อใด แต่ได้ระบุว่าค่าธรรมเนียมต่างๆผู้รับซื้อฝากต้องออกเอง แสดงว่าคู่สัญญามิได้มีเจตนาทำสัญญาขายฝากแต่ต้องการให้เป็นเพียงสัญญาจะขายฝากซึ่งจะต้องมีการทำหนังสือจดทะเบียนกันให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเป็นสัญญาจะขายฝากซึ่งมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญแล้ว โจทก์ก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสอง ไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการโอนสัญญาจะซื้อขายที่ดินกรณีผู้ซื้อเป็นชาวต่างชาติและติดข้อจำกัดทางกฎหมาย
สัญญาจะซื้อขายมีข้อความตอนหนึ่งว่า 'ฯลฯในการโอนนี้ผู้จะซื้อเป็นบุคคลต่างด้าวหากการโอนขัดข้องผู้จะขายยอมให้ผู้จะซื้อหาผู้รับโอนคนอื่นมารับโอนได้ โดยผู้จะขายต้องโอนให้ไม่ถือว่าผิดสัญญาและให้ถือว่าผู้ที่จะมารับโอนเท่ากับคู่สัญญานี้' ย่อมแสดงถึงเจตนาอันแท้จริงของแต่ละฝ่ายว่าไม่ประสงค์จะเลิกสัญญากัน จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนผูกพันคู่กรณี โจทก์ที่ 1 มีสิทธิที่จะโอนการจะซื้อขายที่ดินรายนี้ให้แก่โจทก์ที่ 2 ได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ร่วมเรียกหนี้ได้เต็มจำนวน แม้มีเจ้าหนี้ร่วมเสียชีวิต สัญญาซื้อขายไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ
เมื่อสัญญาจะซื้อขายในคดีนี้มีลักษณะเป็นหนี้อันจะแบ่งชำระมิได้ และโจทก์ที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าหนี้ร่วมโจทก์คนใดคนหนึ่งก็อาจเรียกให้จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ชำระโดยสิ้นเชิงได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 298 แม้ระหว่างอุทธรณ์โจทก์ที่ 2 ตายศาลสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์ที่ 2 ไปแล้วก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจบังคับให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ที่ 1 จนเต็มจำนวนได้ ส่วนใครจะได้รับส่วนแบ่งของโจทก์ที่ 2 ที่โจทก์ที่ 1 ได้รับไปนั้น ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย
สัญญาจะซื้อขายนั้นกฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือเสมอไป ถ้ามีการวางเงินมัดจำหรือชำระหนี้บางส่วนกันแล้วสัญญานั้นก็บังคับกันได้
สัญญาจะซื้อขายนั้นกฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือเสมอไป ถ้ามีการวางเงินมัดจำหรือชำระหนี้บางส่วนกันแล้วสัญญานั้นก็บังคับกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินของผู้อื่น
คำมั่นในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีการวางมัดจำหรือชำระหนี้บางส่วนจึงจะบังคับกันได้โรงเรือนที่ผู้อาศัยปลูกลงในที่ดินที่อาศัยเขาอยู่ไม่กลายเป็นส่วนควบของที่ดินนั้นเจ้าของที่ดินที่ให้บุคคลเข้ามาปลูกโรงเรือนอาศัยอยู่ในที่ของตน ไม่มีหน้าที่ ๆ จะต้องออกเงินชดใช้ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น แต่มีสิทธิที่จะซื้อหรือไม่ซื้อโรงเรือนนั้นก็ได้หากว่าจะซื้อแล้ว ผู้อาศัยซึ่งได้ปลูกสร้างโรงเรือนนั้นต้องขายให้เจ้าของที่ดินจำต้องใช้ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นต่อเมื่อตนประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลผู้ทำการโดยสุจริตเข้ามาปลูกสร้างโรงเรือนในที่ของตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน, พยานหลักฐานลบล้างเอกสาร, การปฏิบัติตามสัญญาต่อเนื่อง
ที่ดิน ซื้อขาย
สัญญาจะขายที่ดิน เงื่อนเวลาสุดสิ้นแห่งสัญญาคู่สัญญาสละเสียได้ โดยปฏิบัติตามสัญญาเดิมต่อไป
ลักษณะพะยาน นำพะยานบุคคลมาสืบหักล้างพะยานเอกสารได้เพียงใด
สัญญาจะขายที่ดิน เงื่อนเวลาสุดสิ้นแห่งสัญญาคู่สัญญาสละเสียได้ โดยปฏิบัติตามสัญญาเดิมต่อไป
ลักษณะพะยาน นำพะยานบุคคลมาสืบหักล้างพะยานเอกสารได้เพียงใด