คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 18

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 511 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รัฐบาลไม่เป็นนิติบุคคล จึงฟ้องร้องต่อศาลไม่ได้ และการคำนวณค่าขึ้นศาลเมื่อศาลไม่รับฟ้อง
ผู้ที่จะฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นจำเลยในโรงศาลนั้นจะต้องเป็นบุคคลโดยเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตาม ก.ม.
รัฐบาลไม่เป็นนิติบุคคลตาม ก.ม.จึงเป็นคู่ความไม่ได้
ศาลสั่งในคำฟ้องโจทก์ว่าไม่เป็นฟ้องที่จะรับไว้พิจารณา เมื่อโจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งเช่นนี้เสียค่าขึ้นศาล 20 บาท ตาม 2 ข. แห่งตาราง 1 ต่อท้าย ป.วิ.แพ่ง ไม่ใช่ว่าจะต้องเสียตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ตั้งมาในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าภาษีที่ประเมินเกิน การฟ้องโดยไม่ระบุจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายจริงไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าภาษีที่จำเลยคิดเกินไป โดยบรรยายข้อหาชัดแจ้งว่าจำเลยประเมินค่ารายปีผิดความจริงเป็นเหตุให้คิดค่าภาษีเกินไป 1300 บาทขอให้คืนส่วนที่เกิน โดยมิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องเสียค่าภาษีจริง ๆ เท่าใด ดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์มีอำนาจฟ้องนายกเทศมนตรีในฐานะบุคคลธรรมดาให้รับผิดชอบในกิจการของเทศบาลเมืองซึ่งตนดำรงค์ตำแหน่งอยู่ได้
จำเลยคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลล่างชี้ขาดมา แต่ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างมิได้ชี้ขาดดังฎีกาของจำเลย ดังนี้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อฎีกาข้อนั้น
เมื่อจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์อยู่แล้ว การที่จำเลยคัดค้านไม่ยอมให้สามีโจทก์เป็นคู่ความร่วมด้วยนั้น ย่อมไม่มีผลแก่คดีโจทก์อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเรียกค่าภาษีเกิน การประเมินค่ารายปี และอำนาจฟ้องนายกเทศมนตรีในฐานะบุคคลธรรมดา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าภาษีที่จำเลยคิดเกินไป โดยบรรยายข้อหาชัดแจ้งว่าจำเลยประเมินค่ารายปีผิดความจริงเป็นเหตุให้คิดค่าภาษีเกินไป 1,300 บาท ขอให้คืนส่วนที่เกิน โดยมิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องเสียค่าภาษีจริงๆ เท่าใดดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์มีอำนาจฟ้องนายกเทศมนตรีในฐานะบุคคลธรรมดาให้รับผิดชอบในกิจการของเทศบาลเมืองซึ่งตนดำรงตำแหน่งอยู่ได้
จำเลยคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลล่างชี้ขาดมา แต่ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างมิได้ชี้ขาดดังฎีกาของจำเลย ดังนี้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อฎีกาข้อนั้น
เมื่อจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์อยู่แล้ว การที่จำเลยคัดค้านไม่ยอมให้สามีโจทก์เป็นคู่ความร่วมด้วยนั้น ย่อมไม่มีผลแก่คดีโจทก์อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา แม้ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา หากศาลสูงหมดอำนาจเหนือคดี ต้องจำหน่ายคดีและไม่ตัดสิทธิฟ้องร้องใหม่
คดีที่ศาลพิพากษาแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา ย่อมถือว่าเป็นคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลนั้น ๆ
เมื่อดินแดนในอาณาเขตต์ของศาลชั้นต้นได้โอนไปเป็นอาณาเขตต์ของประเทศอื่นในเวลาที่คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลสูง ศาลสูงก็ต้องสั่งจำหน่ายคดี
ในคดีที่ศาลสูงสั่งจำหน่ายคดีเพราะหมดอำนาจเหนือคดีนั้นศาลสั่งให้คืนค่าธรรมเนียมฉะเพาะศาลนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่รับคำให้การเนื่องจากไม่ระบุรายละเอียดทรัพย์สิน ศาลต้องพิจารณาประเด็นอื่นประกอบด้วย
จำเลยให้การต่อสู้เป็นเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้หลายประเด็น ศาลชั้นต้นให้จำเลยระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อหนึ่งว่า "สิ่งของตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง" จำเลยแถลงว่าไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุที่จะไม่รับคำทำให้การจำเลย และถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ เพราะนอกจากประเด็นที่ศาลตำหนิแล้ว ยังมีประเด็นอื่นที่จะพิจารณาอยู่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่รับคำให้การและการขาดนัดยื่นคำให้การ กรณีจำเลยไม่สามารถระบุรายละเอียดบางส่วนของข้อต่อสู้ได้ ศาลต้องพิจารณาประเด็นอื่นประกอบ
จำเลยให้การต่อสู้เป็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้หลายประเด็นศาลชั้นต้นให้จำเลยระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อหนึ่งว่า 'สิ่งของตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง' จำเลยแถลงว่าไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุที่จะไม่รับคำให้การจำเลย และถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ เพราะนอกจากประเด็นที่ศาลตำหนิแล้วยังมีประเด็นอื่นที่จะพิจารณาอยู่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์และหน้าที่ในการนำสืบของโจทก์
โจทก์ซื้อที่ดินแล้วฟ้องขับไล่จำเลยฯ ต่อสู้ว่าได้ปกครองปรปักษ์มาเกิน 10 ปีแล้ว ดังนี้ถ้าโจทก์ไม่ยกกรณีตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.1299 ขึ้นว่ากล่าวโจทก์ก็ย่อมแพ้คดีและประเด็นข้อนี้โจทก์ต้องนำสืบก่อน
โจทก์จำเลยแถลงกันในรายงานพิจารณาในเรื่องประเด็นนำสืบ ภายหลังโจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสอบสวนและพิจารณาคดีอาญา: เขตอำนาจ, ที่อยู่ผู้ต้องหา, และการไม่คัดค้านการสอบสวน
เจ้าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนความผิดอาญาซึ่งได้เกิดอ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดภายในเขตต์อำนาจหรือผู้ต้องหามีที่อยู่ หรือถูกจับภายในเขตต์อำนาจของตนได้ฉะนั้น เพียงแต่ปรากฎว่าเหตุที่เกิดและที่อยู่ผู้ต้องหาอยู่นอกเขตต์อำนาจ ยังไม่พอที่จะชี้ว่า เจ้าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนคดีนั้น และศาลซึ่งอยู่ในเขตต์สอบสวนนั้นย่อมีอำนาจพิจารณาคดีนั้น
เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านว่าการสอบสวนไม่ชอบ คดีจึงไม่จำเป็นต้องมีการนำสืบเรื่องสอบสวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155-1158/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองที่ดินป่าแสม/นาไม่มีหนังสือสำคัญ: 1 ปี ไม่ใช่ 10 ปี และข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกา
ที่ดินซึ่งเป็นที่ป่าแสมบ้างเป็นที่นาบ้างและไม่มีหนังสือสำคัญนั้นต้องถืออายุความครอบครอง 1 ปี ไม่ใช่ 10 ปี อ้างฎีกาที่ 275/2474 ศาลชั้นต้นสั่งให้แยกฟ้องและเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเมื่อเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ โต้แย้งไว้แล้วจะยกขึ้นอุทธรณ์และฎีกาไม่ได้ตามวิธีพิจารณามาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแพ่งไม่จำต้องระบุเวลาทำผิดชัดเจน หากจำเลยเข้าใจข้อหาได้ และศาลสามารถสอบถามเพื่อความชัดเจนได้
ฟ้องคดีแพ่งไม่ต้องระบุเวลาหย่างฟ้องคดีอาญา
ฟ้องระบุวันที่จำเลยเอาทรัพย์หย่าง 1 ไปแล้วระบุว่าต่อจากวันนั้นจำเลยเอาทรัพย์อีกหย่าง 1 ไป ขอไห้คืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทขายไห้ดังนี้ สแดงว่าฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุมและจำเลยเข้าไจข้อหาของโจท
ไนกรนีที่ฟ้องของโจทไม่เคลือบคลุม แต่สาลจะไห้ประเด็นชัดขึ้นก็สอบถามโจทได้เปนกรนีเข้ามาตรา 183 ไม่ไช่มาตรา 18 และไม่เปนเรื่องแก้ฟ้องกรนีไม่เข้ามาตรา 180
of 52