พบผลลัพธ์ทั้งหมด 98 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมของผู้เสียหาย แม้ทรัพย์สินระบุชื่ออื่น ศาลต้องพิจารณาความเป็นเจ้าของที่แท้จริง
คำร้องของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นระบุว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ศาลชั้นต้นรับคำร้องและอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้แล้วแม้คำฟ้องโจทก์จะระบุว่าทรัพย์ตามที่ระบุในคำฟ้องเป็นของณ. แต่ก็ได้ความว่าเป็นทรัพย์ของโจทก์ร่วมซึ่งมีณ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนเมื่อจำเลยนำสืบปฏิเสธว่าผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมคืออ. และโจทก์ร่วมนำทรัพย์มาฝากไว้จึงไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ไม่เป็นเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ร่วมด้วยเหตุว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นผู้เสียหายและอำนาจฟ้องของโจทก์ร่วม กรณีทรัพย์สินเป็นของนิติบุคคล
คำร้องของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นระบุว่า โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้รับคำร้องและอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้แล้วแม้คำฟ้องโจทก์จะระบุว่าทรัพย์ตามที่ระบุในคำฟ้องเป็นของ ณ. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นทรัพย์ของโจทก์ร่วมซึ่งมี ณ.เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนและจำเลยนำสืบปฏิเสธว่า อ.กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ร่วมซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมนำมาฝากไว้ซึ่งไม่ถือว่าจำเลยหลงต่อสู้ ดังนี้ไม่เป็นเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ร่วมด้วยเหตุว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงหน้าที่งานที่ไม่เป็นธรรมและการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมในสัญญาจ้างแรงงาน
โจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างจำเลยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2522จำเลยให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่พนักงานทอผ้าในแผนกทอผ้าตลอดมาการปฏิบัติงานที่แผนกสวัสดิการทั่วไปคือทำงานตักขยะตักเศษด้ายขึ้นมาจากท้องร่องรอบๆโรงงานและกวาดขยะเน่าในโกดังซึ่งมีลักษณะงานแตกต่างจากที่โจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่เดิมที่แผนกทอผ้ามากถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานในส่วนสำคัญและเป็นการย้ายลูกจ้างไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ต่ำกว่าเดิมคำสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่โจทก์จากงานทอผ้าไปทำงานแผนกสวัสดิการทั่วไปจึงเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมการที่จำเลยมีคำสั่งเปลี่ยนหน้าที่โจทก์จากทอผ้าไปทำงานแผนกสวัสดิการทั่วไปแม้โจทก์ไม่ปฏิบัติตามโดยจำเลยได้ตักเตือนแล้วก็ตามกรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงหน้าที่งานที่ไม่เป็นธรรมและการปฏิเสธคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม
โจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างจำเลยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2522จำเลยให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่พนักงานทอผ้าในแผนกทอผ้าตลอดมา การปฏิบัติงานที่แผนกสวัสดิการทั่วไป คือทำงานตักขยะ ตักเศษด้ายขึ้นมาจากท้องร่องรอบ ๆ โรงงานและกวาดขยะเน่าในโกดัง ซึ่งมีลักษณะงานแตกต่างจากที่โจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่เดิมที่แผนกทอผ้ามาก ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานในส่วนสำคัญและเป็นการย้ายลูกจ้างไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ต่ำกว่าเดิม คำสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่โจทก์จากงานทอผ้าไปทำงานแผนกสวัสดิการทั่วไปจึงเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม การที่จำเลยมีคำสั่งเปลี่ยนหน้าที่โจทก์จากทอผ้าไปทำงานแผนกสวัสดิการทั่วไป แม้โจทก์ไม่ปฏิบัติตามโดยจำเลยได้ตักเตือนแล้วก็ตาม กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับการซื้อขายที่ดิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นประเด็นสืบเนื่องจากคำฟ้องเดิม จึงชอบพิจารณารวมกันได้
โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์กับค่าเสารั้วซึ่งจำเลยให้โจทก์ทดรองจ่ายไปก่อนจำเลยให้การว่าจำเลยทำสัญญาจะซื้อขายเนื่องจากโจทก์หลอกลวงว่าเป็นเจ้าของที่ดินต่อมาเมื่อจำเลยทราบว่าเป็นของอ. และอ. จะดำเนินคดีแก่โจทก์โจทก์จำเลยและอ. จึงตกลงให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินแก่อ.ทั้งโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายให้แก่อ. อีก50,000บาทจึงขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนไปก่อนจำเลยไม่มีความผูกพันกับโจทก์อีกต่อไปขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระเงิน50,000บาทแก่จำเลยแม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่อ. แทนโจทก์เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินรายเดียวกันจึงมีความเกี่ยวพันกันฟ้องแย้งจึงเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2540 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าที่ดินพิพาทและการเกี่ยวพันของฟ้องแย้งกับการฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายกับเงินค่าเสารั้วล้อมรอบที่ดินพิพาท ซึ่งจำเลยให้โจทก์ทดรองจ่ายไปก่อน จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทกับโจทก์เนื่องจากโจทก์หลอกลวงว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ต่อมาเมื่อจำเลยทราบความจริงว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอก และบุคคลภายนอกจะดำเนินคดีแก่โจทก์ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โจทก์ จำเลยและบุคคลภายนอกจึงตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอก ทั้งโจทก์ยังต้องชำระค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกแต่โจทก์ไม่มีเงิน จึงขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนไปก่อนจำเลยไม่มีความผูกพันตามสัญญาจะซื้อขายกับโจทก์อีกต่อไปนั้น แม้ตามคำฟ้องโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าที่ดินและค่าเสารั้วที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนแต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของบุคคลภายนอกดังนั้น คดีจึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่า โจทก์ จำเลยและบุคคลภายนอกมีการตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอกและโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอก โดยจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินทดรองไปก่อน เพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอกหรือไม่ ดังนั้นแม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่บุคคลภายนอกแทนโจทก์เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็ตาม แต่ก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินพิพาทรายเดียวกัน ฟ้องแย้งกับคำฟ้องเดิมจึงมีความเกี่ยวพันกัน ชอบที่จะพิจารณารวมกันได้ ฟ้องแย้งจึงเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม: การซื้อขายที่ดินพิพาทและข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์กับค่าเสารั้วซึ่งจำเลยให้โจทก์ทดรองจ่ายไปก่อนจำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายเนื่องจากโจทก์หลอกลวงว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ต่อมาเมื่อจำเลยทราบว่าเป็นของ อ.และอ. จะดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์จำเลยและ อ.จึงตกลงให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินแก่อ.ทั้งโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายให้แก่ อ. อีก 50,000 บาทจึงขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนไปก่อน จำเลยไม่มีความผูกพันกับโจทก์อีกต่อไป ขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระเงิน 50,000 บาทแก่จำเลย แม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่ อ. แทนโจทก์เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินรายเดียวกัน จึงมีความเกี่ยวพันกันฟ้องแย้งจึงเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับการซื้อขายที่ดิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องแย้งมีประเด็นเชื่อมโยงกับคำฟ้องเดิม จึงรับฟ้องแย้ง
แม้ตามคำฟ้องโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าที่ดินและค่าเสารั้วที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนแต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของบุคคลภายนอกคดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าโจทก์จำเลยและบุคคลภายนอกมีการตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอกและโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกอีก50,000บาทโดยจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินทดรองไปก่อนเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอกหรือไม่ดังนั้นแม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่บุคคลภายนอกแทนโจทก์เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็ตามฟ้องแย้งดังกล่าวก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินพิพาทรายเดียวกันฟ้องแย้งกับคำฟ้องเดิมจึงมีความเกี่ยวพันกันชอบที่จะพิจารณารวมกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักประกันทุเลาการบังคับคดีไม่ใช่การชำระหนี้ โจทก์ต้องใช้หมายบังคับคดีเพื่อเรียกเงินจากธนาคาร
จำเลยนำสมุดเงินฝากของธนาคารมาเป็นหลักฐานประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างฎีกาศาลชั้นต้นมีหนังสือห้ามจำเลยถอนเงินจากสมุดเงินฝากดังกล่าวสมุดเงินฝากของธนาคารซึ่งจำเลยนำมาวางต่อศาลชั้นต้นเป็นเพียงหลักประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างฎีกาเท่านั้นว่าจำเลยมีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์สมุดเงินฝากดังกล่าวจึงมิใช่เป็นตัวเงินซึ่งจำเลยนำมาวางต่อศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแม้จำเลยแถลงต่อศาลขอชำระหนี้โดยยอมให้โจทก์รับเงินฝากดังกล่าวไปจากศาลชั้นต้นได้ก็ตามโจทก์ไม่อาจขอให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามสมุดเงินฝากนั้นให้โจทก์ได้วิธีการที่ศาลจะให้ธนาคารส่งเงินตามสมุดเงินฝากมาเพื่อจ่ายให้โจทก์จำต้องดำเนินการตามหมายบังคับคดีถือไม่ได้ว่าจำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าเมื่อจำเลยแถลงต่อศาลขอให้โจทก์รับเงินจากสมุดเงินฝากดังกล่าวไปจากศาลชั้นต้นย่อมเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แล้วหนี้ตามคำพิพากษาย่อมระงับโจทก์จึงไม่อาจบังคับคดีแก่จำเลยได้อีกนั้นประเด็นข้อนี้จำเลยมิได้อุทธรณ์ไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักประกันการบังคับคดี: สมุดเงินฝากไม่ใช่การชำระหนี้โดยตรง ต้องดำเนินการตามหมายบังคับคดี
สมุดเงินฝากของธนาคารซึ่งจำเลยนำมาวางต่อศาลชั้นต้นเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างฎีกามิใช่เป็นตัวเงินที่นำมาวางเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแม้จำเลยแถลงต่อศาลขอชำระหนี้โดยยอมให้โจทก์รับเงินจากสมุดเงินฝากดังกล่าวไปได้โจทก์ก็ไม่อาจขอให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามสมุดเงินฝากนั้นให้โจทก์ได้วิธีการที่ศาลจะให้ธนาคารส่งเงินตามสมุดเงินฝากมาเพื่อจ่ายให้โจทก์จำต้องดำเนินการตามหมายบังคับคดีกรณีถือไม่ได้ว่าจำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์แล้ว