พบผลลัพธ์ทั้งหมด 179 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์หลายครั้ง จำเป็นต้องมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่
มูลหนี้ที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากรถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยไว้ชนรถยนต์โดยสารของโจทก์เสียหายซึ่งรายละเอียดแห่งข้อหาแต่ละข้อตามฟ้องเกิดต่างวันต่างเวลากันทั้งข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุแตกต่างกันการนำสืบพยานหลักฐานต่างๆย่อมไม่สะดวกต่อการพิจารณาของศาลและการที่รถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยคันหนึ่งละเมิดชนรถยนต์โดยสารของโจทก์เสียหายมิได้หมายความว่ารถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยไว้อีกคันหนึ่งจะต้องรับผิดต่อรถยนต์โดยสารของโจทก์คันอื่นด้วยดังนั้นข้อหาแต่ละอย่างตามฟ้องจึงมิได้เกี่ยวข้องกันแม้จะเป็นมูลหนี้เรียกค่าเสียหายมีลักษณะประเภทเดียวกันก็ตามโจทก์จะนำมารวมฟ้องเป็นคดีเดียวกันหาได้ไม่ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา29
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปล้นทรัพย์โดยอาศัยพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกายกฟ้องจำเลยที่ 4
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนคนร้ายซึ่งมีจำนวนหลายคนบังคับให้ผู้เสียหายทั้งสองนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นโอกาสที่ผู้เสียหายทั้งสองจะเห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจนจึงเป็นไปได้น้อยมากแม้ผู้เสียหายทั้งสองจะเบิกความว่าคนร้ายที่ตนจำได้คือจำเลยที่4แต่คนร้ายดังกล่าวสวมหมวกไอ้โม่งปิดถึงหน้าผากยิ่งทำให้ยากแก่การจดจำเพราะไม่ปรากฏว่าคนร้ายดังกล่าวมีหน้าตาเป็นตำหนิผิดแผกแตกต่างไปจากบุคคลทั่วไปคำเบิกความของผู้เสียหายทั้งสองจึงมีน้ำหนักน้อยนอกจากนี้ผู้เสียหายทั้งสองยังเบิกความแตกต่างขัดแย้งกันแสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายทั้งสองจำคนร้ายสับสนเพราะมีด้วยกันหลายคนเมื่อคำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ดังกล่าวมีพิรุธสงสัยลำพังคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยที่4จึงนำมารับฟังลงโทษจำเลยที่4ไม่ได้