พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7494/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีแพ่ง: เอกสารท้ายคำให้การ & การต่อสู้คดีไม่ขัดแย้ง
เอกสารท้ายคำให้การที่จำเลยอ้างถึงในคำให้การถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การจึงไม่ต้องระบุอ้างเอกสารดังกล่าวในบัญชีระบุพยานอีกศาลรับฟังได้ การที่จำเลยไม่เสียค่าอ้างเอกสารนั้นไม่ปรากฎว่าจำเลยจงใจฝ่าฝืนไม่เสียและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งเรียกเก็บ จึงมิใช่ความบกพร่องของจำเลย ไม่ควรยกเป็นเหตุไม่รับฟังเอกสาร จำเลยให้การต่อสู้ใจความว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินจากโจทก์ตามฟ้อง ไม่เคยทำสัญญากู้เงินกับโจทก์ โจทก์บังคับให้จำเลยลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่า เป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิงและอ้างที่มาแห่งสัญญากู้เงินตามฟ้องว่ามีความเป็นมาอย่างไรเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งไม่ขัดกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่เชื่อว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ตามฟ้องจึงมิใช่การวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7494/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารท้ายคำให้การเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การ ศาลรับฟังได้ แม้ไม่ได้ระบุในบัญชีระบุพยาน การวินิจฉัยประเด็นสัญญากู้เงินไม่นอกประเด็น
เอกสารท้ายคำให้การที่จำเลยอ้างถึงในคำให้การถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การจึงไม่ต้องระบุอ้างเอกสารดังกล่าวในบัญชีระบุพยานอีกศาลรับฟังได้ การที่จำเลยไม่เสียค่าอ้างเอกสารนั้นไม่ปรากฎว่าจำเลยจงใจฝ่าฝืนไม่เสียและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งเรียกเก็บจึงมิใช่ความบกพร่องของจำเลยไม่ควรยกเป็นเหตุไม่รับฟังเอกสาร จำเลยให้การต่อสู้ใจความว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินจากโจทก์ตามฟ้องไม่เคยทำสัญญากู้เงินกับโจทก์โจทก์บังคับให้จำเลยลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่าเป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิงและอ้างที่มาแห่งสัญญากู้เงินตามฟ้องว่ามีความเป็นมาอย่างไรเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งไม่ขัดกันที่ศาลอุทธรณ์ภาค2ไม่เชื่อว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ตามฟ้องจึงมิใช่การวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมติดไปกับที่ดินแม้มีการโอนสิทธิ การก่อสร้างกีดขวางทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้เจ้าของที่ดินมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยระบุว่า หากศาลสั่งอนุญาตให้รับฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ จำเลยขอถือเอาคำให้การส่วนนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งของศาลนั้น เป็นเพียงการแสดงความประสงค์ของจำเลยไว้ล่วงหน้าก่อนศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องจึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) เมื่อศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยสืบมาพอแก่การวินิจฉัยคดีแล้ว ศาลมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจสั่งงดสืบพยานจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในระหว่างที่มีการไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยโจทก์มิได้ระบุว่าเป็นการระบุพยานเฉพาะในชั้นไต่สวนเท่านั้นแสดงว่าโจทก์มุ่งประสงค์ให้เป็นบัญชีพยานของโจทก์ตลอดไปทั้งคดี จึงถือได้ว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ดังกล่าวเป็นบัญชีระบุพยานในชั้นพิจารณาคดีซึ่งยื่นต่อศาลโดยชอบแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรคแรก ป. ได้จดทะเบียนให้ที่ดินแปลงพิพาทซึ่งเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 6 เมตร ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ทั้งสองทั้งแปลงต่อมา ป. ได้ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยภาระจำยอมย่อมตกติดไปกับที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
ประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้เป็นเรื่อง เกี่ยวกับโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ไม่ถูกต้อง เมื่อโจทก์มี ป. มาเบิกความยืนยันประกอบหนังสือมอบอำนาจว่าโจทก์ได้มอบอำนาจ ให้ ม.ดำเนินคดีแทน จำเลยมิได้สืบโต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นจึงฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ดำเนินคดีแทน การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ ฟ้องของโจทก์เสียหาย และหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้วกรณีนี้ หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และผลกระทบต่อการนำพยานหลักฐานเข้าสืบ
มาตรา40,87,88วรรคแรก,90 การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้นทนายจำเลยเป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เองและตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าวได้อ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีอื่นซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้เป็นทนายความดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใดเว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา88และ90ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามมาตรา88จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีโดยไม่มีมูลเหตุ และผลของการไม่ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล
การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้น ทนายจำเลยเป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เอง และตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าว ได้อ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีอื่น ซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้เป็นทนายความ ดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุอันสมควร และผลกระทบต่อการนำสืบพยานหลักฐานในศาล
การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้น ทนายจำเลย เป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เอง และตาม คำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าวได้อ้างเหตุว่าติดว่าความ ในคดีอื่น ซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้ เป็นทนายความ ดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐาน ได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจ นำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐาน ได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจ นำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้