พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและการออกเช็คเด้งเป็นความผิดต่างกรรมกัน โจทก์ฎีกาฟังขึ้น ศาลนับโทษเฉพาะคดีที่มีคำพิพากษาแล้ว
จำเลยหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์ตามที่หลอกลวงจากผู้เสียหายอันเป็นความผิดสำเร็จฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แล้ว ในวันต่อมาจึงได้ออกเช็คมอบให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำต่างหากจากการกระทำอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงในตอนต้น เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 อีกกรรมหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง กรณีเช็คพิพาท
ในคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาใน ศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22 โจทก์อุทธรณ์ใจความว่า จำเลยออกเช็คพิพาทและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ เป็นการออกเช็คโดยจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คและมีเจตนาทุจริตหลอกลวงโจทก์ อุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องฟังจากพยานหลักฐานในสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามบทกฎหมายดังกล่าว.