พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6018/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชนจากการหลอกลวงจัดหางาน แม้ไม่มีเจตนาจัดหางาน ก็ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยร่วมกับพวกชักชวนชาวบ้านให้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียรับสมัครคนงานโดยเรียกค่าบริการและรับเงินจากโจทก์ร่วมและผู้เสียหายคนละ 1,000 บาท ถึง 3,000 บาท โดยจำเลยกับพวกให้โจทก์ร่วมและผู้เสียหายกับพวกเดิน ทางไปทำงานแล้วไปปล่อยทิ้งไว้ที่จังหวัดยะลาโดยไม่มีงานในประเทศมาเลเซียที่จะให้ไปทำจริงดัง ที่ประกาศชักชวน การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 343วรรคหนึ่ง สภาพของความผิดที่จำเลยได้กระทำไปเป็นที่เห็นได้ว่าผู้กระทำผิดจะต้องเห็นได้ล่วงหน้าว่าเป็นการก่อให้เกิดความเดือด ร้อนเป็นทวีคูณแก่โจทก์ร่วมและผู้เสียหาย ซึ่งไม่มีงานทำอันเป็นความเดือด ร้อนอยู่แล้ว การแสวงหาผลประโยชน์โดยสุจริตที่อาศัยโอกาสจากการต้องการงานทำของผู้ว่างงานมาเป็นช่องทางให้กระทำสำเร็จได้เช่นนี้จึงไม่มีเหตุอันควรปราณีให้รอการลงโทษ คำฟ้องของโจทก์แม้จะได้บรรยายไว้ในตอนแรกว่า จำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันจัดหางานโดยเรียกรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียนตามกฎหมายก็ตาม แต่ในคำบรรยายฟ้องของโจทก์ในตอนต่อมากลับกล่าวว่า "จำเลยทั้งสามกับพวกไม่ได้มีเจตนาและไม่มีความสามารถที่จะติดต่อผู้ใดไปทำงาน..." เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสามไม่มีเจตนาจัดหางานอันถือว่าจำเลยทั้งสามไม่มีเจตนากระทำความผิดสำหรับฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาต กรณีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิด ตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยในฐานะลูกจ้างไม่มีอำนาจรับผิด
จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างบริษัท มิได้มีตำแหน่ง เป็นกรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทหรือกรรมการอื่นของบริษัทไม่อาจทราบได้ ว่าบริษัทจะได้ รับอนุญาตให้จัดหางานได้ ตามกฎหมายหรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องโดย ชัดแจ้งว่าจำเลยไม่มีความสามารถหรือไม่มีเจตนาที่จะจัดส่งประชาชนและผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยจัดหางานโดย มิได้รับอนุญาตอันจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางานฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยไม่ใช่ผู้จัดหางานแต่เป็นนายหน้าที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน
การกระทำของผู้จัดหางานที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 นั้น ผู้จัดหางานจะต้องเรียกหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน ฉะนั้นเมื่อมีบริษัทก. เป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าบริการเองและจำเลยไม่อยู่ในฐานะผู้จัดหางาน แต่อยู่ในฐานะเป็นเพียงนายหน้าผู้หวังที่จะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัทดังกล่าว และจำเลยยังไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ เลย เช่นนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานหรือร่วมจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตและความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ความผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มาตรา 7,27 ฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาต สาระสำคัญอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมาย จำเลยจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อใดก็เป็นความผิดสำเร็จ และถ้า การจัดหางานนั้นได้กระทำโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ป.อ. มาตรา 343 ด้วย ย่อมถือว่าเป็นการกระทำอีกกรรมหนึ่งต่างหาก เพราะจำเลยมีเจตนาที่แยกต่างหากจากความผิดฐานแรกดังนั้นแม้จำเลยจะได้กระทำดังกล่าวในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.