คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิชัย ชื่นชมพูนุท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 447 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8407/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 207 ว.พ.พ. ต้องเป็นคู่ความที่ถูกศาลสั่งให้แพ้คดีและถูกสั่งขาดนัด
ผู้ที่จะมีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น นอกจากจะต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณาแล้ว จะต้องปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย คดีนี้ผู้คัดค้านนำคำคัดค้านและขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลชั้นต้นหลังจากที่ศาลได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรชายด้วย กฎหมายของผู้ตายเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านและไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี คดีนี้จึงยังคงเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทและไม่มีประเด็นข้อพิพาท เมื่อผู้คัดค้านมิได้ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7599/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: การฟ้องคดีอาญาที่จำเลยถูกจำคุกในจังหวัดอื่น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1) มิได้บัญญัติบังคับให้ศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นศาลท้องที่ที่จำเลยที่มีอยู่ในเขตอำนาจต้องรับชำระคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยกฎหมายดังกล่าวเพียงแต่บัญญัติให้เป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นที่จะรับชำระคดีหรือไม่ก็ได้ แม้เรือนจำกลางจังหวัดลำปางจะเป็นภูมิลำเนาของจำเลยในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 47 เพราะจำเลยถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นแล้วก็ตาม เมื่อความผิดคดีนี้เกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลจังหวัดเชียงใหม่และอยู่ในวิสัยที่โจทก์จะฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า หากมีการชำระคดีที่ศาลจังหวัดลำปางจะมีความสะดวกมากกว่าการชำระคดีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศาลท้องที่ความผิดเกิดขึ้นอย่างไร จึงไม่สมควรให้ศาลจังหวัดลำปางรับชำระคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7599/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: ดุลพินิจการรับชำระคดีเมื่อจำเลยถูกจำคุก และความสะดวกในการดำเนินคดี
ป.วิ.อ.มาตรา 22 (1) มิได้บัญญัติบังคับให้ศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นศาลท้องที่ที่จำเลยมีที่อยู่ในเขตอำนาจต้องรับชำระคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลย กฎหมายดังกล่าวเพียงแต่บัญญัติให้เป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นที่จะรับชำระคดีหรือไม่ก็ได้
แม้เรือนจำกลางจังหวัดลำปางจะเป็นภูมิลำเนาของจำเลยในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 47 เพราะจำเลยถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นแล้วก็ตาม เมื่อความผิดคดีนี้เกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลจังหวัดเชียงใหม่และอยู่ในวิสัยที่โจทก์จะฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า หากมีการชำระคดีที่ศาลจังหวัดลำปางจะมีความสะดวกมากกว่าการชำระคดีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศาลท้องที่ความผิดเกิดขึ้นอย่างไร จึงไม่สมควรให้ศาลจังหวัดลำปางรับชำระคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7188/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบจากการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสาธารณสุข
การลักลอบนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการสร้างปัญหาให้แก่ประเทศชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายด้านหลายประการเป็นต้นว่าทางด้านสาธารณสุข โดยที่คนต่างด้าวเหล่านั้นอาจนำเชื้อโรคที่แพร่หรือระบาดอยู่ในประเทศของคนต่างด้าวดังกล่าวเข้ามาแพร่หรือระบาดในประเทศไทยจนยากที่จะควบคุมและทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินงบประมาณจำนวนมากในการป้องกันและรักษาโดยใช่เหตุ ทางด้านความมั่นคง คนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามามีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาประกอบอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติ ทั้งที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ซึ่งยากต่อการที่จะป้องกันและปราบปราม หากปล่อยปละละเลยนับวันแต่จะเพิ่มมากขึ้น และทางด้านสังคมคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรมักจะเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศในด้านแรงงานทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมส่งผลให้คนไทยต้องกลายเป็นผู้ไม่มีอาชีพหรือตกงานเป็นจำนวนมากกระทบกระเทือนต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวมพฤติกรรมของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องร้ายแรงไม่สมควรที่ศาลจะรอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7188/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศ: ผลกระทบต่อความมั่นคง, เศรษฐกิจ, และสาธารณสุข
การลักลอบนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการสร้างปัญหาให้แก่ประเทศชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายด้านหลายประการเป็นต้นว่าทางด้านสาธารณสุข โดยที่คนต่างด้าวเหล่านั้นอาจนำเชื้อโรคที่แพร่หรือระบาดอยู่ในประเทศของคนต่างด้าวดังกล่าวเข้ามาแพร่หรือระบาดในประเทศไทยจนยากที่จะควบคุมและทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินงบประมาณจำนวนมากในการป้องกันและรักษาโดยใช่เหตุ ทางด้านความมั่นคง คนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามามีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาประกอบอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติทั้งที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ซึ่งยากต่อการที่จะป้องกันและปราบปราม หากปล่อยปละละเลยนับวันแต่จะเพิ่มมากขึ้น และทางด้านสังคมคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรมักจะเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศในด้านแรงงานทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมส่งผลให้คนไทยต้องกลายเป็นผู้ไม่มีอาชีพหรือตกงานเป็นจำนวนมากกระทบกระเทือนต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวมพฤติกรรมของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องร้ายแรงไม่สมควรที่ศาลจะรอการลงโทษ
of 45