คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ม. 112 ทวิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีอากรศุลกากร การสำแดงเท็จ และอำนาจเจ้าหน้าที่ในการวางประกันหรือปรับ
โจทก์นำกระบอกสูบเครื่องยนต์ระบุว่ายี่ห้อ เอ็น.พี.อาร์.แต่บางรายการมีเครื่องหมายรถยนต์ยี่ห้อฮีโน บางรายการเป็นอะไหล่ชนิดแท้ของรถยนต์ยี่ห้อฮีโน โตโยต้า และนิสสัน ไม่ตรงกับใบขนสินค้า แสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนค่าอากรสำหรับของที่กำลังผ่านศุลกากรพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมมีอำนาจให้วางเงินประกันหรือให้มีการค้ำประกันของธนาคารแทนการวางเงินตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 112 และเมื่อเห็นว่ามีการทำคำสำแดงเท็จเป็นการกระทำผิดทางอาญาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติศุลกากร จำเลยอาจจะตกลงงดการฟ้องร้องทางอาญาถ้าโจทก์ยอมเสียค่าปรับตามคำเปรียบเทียบทำให้คดีอาญาระงับไปได้ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 99,102,102 ทวิ เมื่อโจทก์ไม่ยอมไปตกลงระงับคดีโดยเสียค่าปรับ จำเลยจึงส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญาและตามเกณฑ์ระงับคดีเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติและเป็นธรรมแก่คู่กรณีของจำเลยโจทก์จะต้องถูกปรับ 2 เท่า ของอากรที่ขาด การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยถือเอาราคาที่บริษัทรถยนต์ฮีโน โตโยต้าและนิสสัน นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นราคาเทียบเคียง กับสินค้าที่โจทก์นำเข้าแล้วลดให้ร้อยละห้าแล้วถือเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด เพื่อนำไปคำนวณหาอากรที่ขาดแล้วได้กำหนดเป็นเกณฑ์ให้โจทก์เสียค่าปรับนั้น เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายและระเบียบได้ให้อำนาจโดยชอบแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจจะฟ้องขอให้เพิกถอนข้อกล่าวหาหรือคำสั่งใดของจำเลยได้ และคดีนี้ยังโต้เถียงจำนวนค่าภาษีอากรกันอยู่ พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ประเมินอากรอันพึงต้องเสียและแจ้งให้โจทก์ทราบเพื่อชำระเงินอากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 112 ทวิ โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยคืนหลักประกันนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาศุลกากร, การสำแดงเท็จ, และการระงับคดีอาญา: สิทธิในการโต้แย้งและการคืนหลักประกัน
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยตรวจสินค้าที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักร เห็นว่าโจทก์ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและสำแดงราคาสินค้าไม่ถูกต้อง โจทก์จะต้องเสียภาษีอากรเพิ่มขึ้น ให้โจทก์นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารไปวางเป็นประกันค่าภาษีอากรไว้ ทั้งการกระทำของโจทก์มีความผิดฐานสำแดงเท็จตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27 และ 99 จึงมีหนังสือเรียกให้โจทก์ไปตกลงระงับคดีอาญา ซึ่งหากโจทก์ยอมเสียค่าปรับ 2 เท่า ของอากรที่ขาดโดยคำนวณจากราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าที่โจทก์นำเข้าตามคำเปรียบเทียบของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ย่อมทำให้คดีอาญาระงับตามมาตรา 102 และ 102 ทวิ เมื่อโจทก์ไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับจำเลยจึงส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่โจทก์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนที่พระราชบัญญัติศุลกากรกำหนดไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนข้อกล่าวหาหรือคำสั่งของจำเลยที่ตีราคาสินค้าโจทก์แล้วนำไปกำหนดค่าปรับ และโจทก์ไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยคืนหลักประกันค่าภาษีอากรจนกว่าโจทก์จะชำระเงินอากรตามจำนวนที่ได้รับแจ้งให้ครบตามมาตรา 112 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4794/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีอากร: ราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเป็นเกณฑ์สำคัญ และการอุทธรณ์ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
จำเลยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อกรมศุลกากรโจทก์ที่ 1เกี่ยวกับการประเมินภาษีศุลกากร ถือว่าเป็นอุทธรณ์การประเมินอากรตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 112 ทวิ วรรคสาม ไม่ใช่เป็นการอุทธรณ์การประเมินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ แม้โจทก์ที่ 1 จะไม่ได้วินิจฉัยหรือวินิจฉัยไม่เสร็จ เมื่อจำเลยไม่ชำระภาษีอากรตามที่ได้ประเมินย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง พนักงานของโจทก์ที่ 1 ประเมินเรียกเก็บภาษีอากรสำหรับสินค้าจำพวกเขากวางอ่อนติดกะโหลกที่จำเลยนำเข้าระหว่างวันที่ 2 และ 6พฤศจิกายน 2521 การกำหนดราคาอันแท้จริงในท้องตลาด โดยอาศัยราคาจากบัตรวิเคราะห์ราคาทำขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2522 ห่างจากวันที่จำเลยนำสินค้าพิพาทเข้าประมาณ 3 เดือน ซึ่งโจทก์สอบถามไปยังกงสุลฝ่ายศุลกากรประจำกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง โดยได้ทำการสอบราคาจากร้านสรรพสินค้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 ร้าน และร้านขายเครื่องยาจีนที่มีขนาดใหญ่พอสมควร 4 ร้าน แล้วเฉลี่ยราคา เพื่อความเป็นธรรมจากนั้นจึงลดราคาเป็นการขายส่งอีกร้อยละ 20 คิดเป็นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3,179.74 เหรียญฮ่องกง แต่ได้มีการปัดเศษราคาตามบัตรราคาจึงเป็นกิโลกรัมละ 3,180 เหรียญฮ่องกง ถือได้ว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าพิพาทที่จำเลยนำเข้าการประเมินของโจทก์จึงชอบ จำเลยต้องรับผิดชำระภาษีอากรเพิ่มจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินประกันคืน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3761/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินอากรผิดพลาดจากความคลาดเคลื่อนในการแปลเอกสารและการส่งสินค้าผิดชนิด ศาลฎีกาแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามคำฟ้อง
โจทก์สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเป็นภาษาไทยว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าคืออุปกรณ์ของปากกา ยี่ห้อ เรโนลด์ ชนิด 094 ความจริงสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือปากกาลูกลื่น ยี่ห้อเรโนลด์ ชนิด 093 เมื่อปรากฏว่าเหตุที่ระบุว่าเป็นอุปกรณ์ของปากกาเป็นเพราะผู้ทำใบขนแปลเป็นภาษาไทยผิดพลาด และที่เป็นปากกาลูกลื่นชนิด 093 เพราะผู้ขายส่งมาให้ผิดไปจากที่โจทก์สั่งซื้อ ดังนี้ เมื่อปากกาทั้งสองชนิดมีราคาเท่ากัน การที่ผู้ขายส่งปากกาชนิด 093 มาให้ก็ไม่ทำให้อากรขาเข้าเปลี่ยนแปลงไป การที่จำเลยประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มขึ้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องคือวันที่ 23 พฤษภาคม 2531 การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2529 จึงเป็นการพิพากษาให้จำเลยชำระเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3761/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินอากรขาเข้าผิดพลาดจากความคลาดเคลื่อนในการระบุชนิดสินค้า แม้สินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อแต่ราคาเท่ากัน อากรไม่เปลี่ยนแปลง
โจทก์สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเป็นภาษาไทยว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าคืออุปกรณ์ของปากกายี่ห้อเรโนลด์ชนิด 094 ความจริงสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือปากกาลูกลื่นยี่ห้อเรโนลด์ชนิด 093 เหตุที่ระบุว่าเป็นอุปกรณ์ของปากกาเป็นเพราะผู้ทำใบขนแปลเป็นภาษาไทยผิดพลาด และที่ปากกาลูกลื่นชนิด 093มิใช่ปากกาลูกลื่นชนิด 094 เป็นเพราะผู้ขายส่งมาให้ผิดจากที่โจทก์สั่งซื้อ ดังนี้ แม้จะเป็นสินค้าคนละชนิดกับที่โจทก์สั่งซื้อแต่เมื่อปากกาทั้งสองชนิดมีราคาเท่ากัน การที่ผู้ขายส่งปากกาชนิด 093 มาให้ก็ไม่ทำให้อากรขาเข้าเปลี่ยนแปลงไปที่จำเลยประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มขึ้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง คือวันที่ 23 พฤษภาคม 2531 การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2529จึงเป็นการพิพากษาให้จำเลยชำระเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3761/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินอากรขาเข้าผิดพลาดจากความคลาดเคลื่อนในการแปลและสินค้าที่ส่งมอบไม่ตรงตามสั่งซื้อ ศาลฎีกาแก้ไขดอกเบี้ยตามคำฟ้อง
โจทก์สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเป็นภาษาไทยว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าคืออุปกรณ์ของปากกา ยี่ห้อ เรโนลด์ ชนิด 094 ความจริงสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือปากกาลูกลื่น ยี่ห้อเรโนลด์ ชนิด 093 เมื่อปรากฏว่าเหตุที่ระบุว่าเป็นอุปกรณ์ของปากกาเป็นเพราะผู้ทำใบขนแปลเป็นภาษาไทยผิดพลาด และที่เป็นปากกาลูกลื่นชนิด 093 เพราะผู้ขายส่งมาให้ผิดไปจากที่โจทก์สั่งซื้อ ดังนี้ เมื่อปากกาทั้งสองชนิดมีราคาเท่ากัน การที่ผู้ขายส่งปากกาชนิด 093 มาให้ก็ไม่ทำให้อากรขาเข้าเปลี่ยนแปลงไป การที่จำเลยประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มขึ้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องคือวันที่ 23 พฤษภาคม 2531 การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2529 จึงเป็นการพิพากษาให้จำเลยชำระเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาภาษีอากรที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และผลของการไม่อุทธรณ์การประเมินภาษีการค้า
จำเลยนำสินค้าของเด็กเล่นจากเมืองฮ่องกงเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบแล้วปรากฏว่าจำเลยสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง จึงแจ้งการประเมินให้จำเลยชำระภาษีอากรขาเข้า ภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มเติม เมื่อจำเลยมิได้อุทธรณ์การประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นต่อคณะกรรมการพิจารณา อุทธรณ์ตาม ป. รัษฎากรจึงต้องถือว่าการประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นเป็นอันชอบแล้ว.
ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 89 ทวิ ผู้ประกอบการค้าต้องชำระเงินเพิ่มตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อไม่ชำระภาษีการค้าภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นทางแก้ กรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้โดยเฉพาะแล้ว จะนำ ป.พ.พ. มาตรา 224ว่าด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดมาเรียกร้องเอากับลูกหนี้ซ้ำอีกหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีอากรและการชำระเงินเพิ่ม กรณีจำเลยไม่โต้แย้งการประเมินและผิดนัดชำระภาษี
จำเลยนำสินค้าของเด็กเล่นจากเมืองฮ่องกงเข้ามาในอาณาจักรเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบแล้วปรากฏว่าจำเลยสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง จึงแจ้งการประเมินให้จำเลยชำระภาษีอากรขาเข้าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มเติม เมื่อจำเลยมิได้อุทธรณ์การประเมินที่ประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร จึงต้องถือว่าการประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นเป็นอันชอบแล้ว ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 ทวิ ผู้ประกอบการค้าต้องชำระเงินเพิ่มตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อไม่ชำระภาษีการค้าภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นทางแก้กรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้โดยเฉพาะแล้ว จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ว่าด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดมาเรียกร้องเอากับลูกหนี้ซ้ำอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาศุลกากรและภาษีอากร การอุทธรณ์ และเงินเพิ่มตามกฎหมายภาษีอากร
จำเลยนำสินค้าของเด็กเล่นจากเมือง ฮ่องกง เข้ามาในราชอาณาจักรเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบแล้วปรากฏว่าจำเลยสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง จึงแจ้งการประเมินให้จำเลยชำระภาษีอากรขาเข้าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มเติม เมื่อจำเลยมิได้อุทธรณ์การประเมินที่ประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร จึงต้องถือว่าการประเมินให้จำเลยชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้นเป็นอันชอบแล้ว ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 ทวิ ผู้ประกอบการค้าต้องชำระเงินเพิ่มตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อไม่ชำระภาษีการค้าภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นทางแก้กรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้โดยเฉพาะแล้ว จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ว่าด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดมาเรียกร้องเอากับลูกหนี้ซ้ำอีกหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีภาษีอากร: การฟ้องก่อนการประเมินอากรตัดสิทธิการประเมินและอุทธรณ์
การที่เจ้าพนักงานของจำเลยให้โจทก์นำหนังสือค้ำประกันมาวางเป็นประกันการชำระภาษีอากร เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 112 ที่ให้อำนาจไว้และเจ้าพนักงานของจำเลยย่อมมีอำนาจประเมินเงินอากรและแจ้งให้โจทก์ชำระตามมาตรา 112 ทวิ เมื่อโจทก์ไม่พอใจ โจทก์มีอำนาจอุทธรณ์คัดค้านได้ตามมาตรา 112 ทวิวรรคสาม การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเจ้าพนักงานของจำเลยเรียกประกันตามมาตรา 112 จึงเป็นการตัดสิทธิในการประเมินของเจ้าพนักงาน และตัดสิทธิโจทก์ในการอุทธรณ์คัดค้านการประเมิน ซึ่งกฎหมายมิได้มีเจตนารมณ์เช่นนั้นดังนั้นการที่โจทก์ฟ้องคดีก่อนเจ้าหน้าที่เองจำเลยประเมินเงินอากรและแจ้งให้โจทก์ชำระตามมาตรา 112 ทวิ วรรคหนึ่งกรณียังถือไม่ได้ว่า จำเลยได้โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
of 3